หมับ~
“กรี๊ด!”
“อ่าส์! กรี๊ดทำไมวะ!” เขาตะคอกใส่แต่ไม่ยอมปล่อยฉันที่มากกว่านั้นคือเขาตวัดขามาพาดตัวฉันไว้แล้วมือก็ไม่ได้เอาออกจากหน้าอกของฉันเลย!
“ปล่อย!” ฉันดิ้นแล้วนะแต่ไม่รู้ว่ามือหรือตีนตุ๊กแกกันแน่ทำไมมันจับแน่นติดหนึบขนาดนี้!
“ปล่อยอะไร?” ยังมีหน้าจะถามอีกนะไอ้บ้า!
“ปล่อยมือไงคุณเกรย์!” ฉันตะโกนใส่หน้าไม่สงไม่สนขี้ฟงขี้ฟันอะไรทั้งนั้น!
“มือ?” ทำหน้าฉงนไม่เข้าใจเพื่ออะไรไม่รู้ตัวรึไงว่าจับหน้าอกฉันอยู่ มันไม่ได้เรียบเป็นไม้กระดานนะที่จะไม่รู้ว่าจับนมอยู่ ใหญ่เท่าลูกมะพร้าวซะขนาดนี้ไม่รู้ตัวรึไงไอ้บ้า!
“คุณเกรย์จับหน้าอกมีน!” ฉันตะคอกอีกครั้งแล้วจับมือเขาก็ชากออกทันทีซึ่งมันก็หลุดออกนะ แล้วทำไมไม่กระชากออกตั้งแต่ทีแรกก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“อ่อ โทษที ชิน” เขาตอบกลับมาแล้วพลิกตัวนอนหงายทำเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น นี่นายจะไม่รู้สึกอะไรเลยรึไงนายเพิ่งจับหน้าอกฉันไปนะไอ้บ้า!
“...” ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี มีความในใจเป็นหมื่นล้านคำแต่พูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำทำได้แค่รีบจัดระเบียบร่างกายของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วพาตัวเองลงไปนอนข้างล่าง
“ขึ้นมา” ฉันนั่งลงที่พื้นเอื้อมมือหยิบหมอนบนเตียงเสียงเขาก็ดังขึ้นทำเอามือฉันชะงักไปเลย
“เร็ว ๆ อย่าให้พูดซ้ำสองรอบ”
“...มีนขึ้นไปนอนข้างบนได้ไง” ฉันถามแต่ไม่ขึ้นไปหรอกใครจะบ้าขึ้น
“จะไปรู้เธอเหรอ ละเมอขึ้นมาเองมั้ง” ฉันน่ะเหรอละเมอ? ไม่นะ ไม่เคยละเมอ ปกติหลับท่าไหนก็แทบจะตื่นนอนท่าเดิมตลอด ฉันไม่เชื่อว่าตัวเองจะละเมอลุกขึ้นไปนอนบนเตียงหรอกแต่ถ้าจะให้คิดว่าเป็นเพราะเขาพาขึ้นไปนอนบนเตียงก็...ตัดออกตั้งแต่แรกได้เลย
“บอกว่ายังไง” เสียงเขาดังขึ้นมาอีกครั้งแต่ฉันก็ยังนิ่งอยู่ดี
“นอนตรงนี้สบายดีค่ะ”
“หนึ่ง”
“...”
“สอง”
“...เฮ้อ~” ฉันแอบถอนหายใจแล้วย้ายตัวเองจากพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบไปบนเตียงนุ่มที่มีเขานอนเปลือยท่อนบนและหลับตาอยู่กลางเตียงเลยด้วยซ้ำ
ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้สั่งให้ขึ้นมานอนข้างบนแต่ช่างเถอะนอนก็นอนถึงจะต้องนอนชิดติดขอบเตียงเพราะเขานอนกินพื้นที่มากก็ตาม
ฉันล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขาสักพักเขาก็สะบัดผ้าห่มแรง ๆ จนมีผ้าห่มมาคลุมร่างกายฉันนิดหน่อยซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจห่มให้หรอกแค่สะบัดผ้าห่มใหม่แล้วมันเผลอมาโดนร่างกายให้ฉันได้อานิสงส์ไปด้วยแค่นั้นซึ่งฉันก็ยินดีที่จะรับนะเพราะแอร์ในห้องนี้มันหนาวมาก ๆ
“ฮ้าว~” ฉันเผลอหาวแล้วก็ส่งเสียงออกมานิดหน่อย ตอนแรกก็เกร็งที่ต้องนอนร่วมเตียงกับเขาแต่เพราะความเหนื่อยล้ากับความเย็นในห้องก็ทำให้ง่วงขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็หลับในเวลาต่อมา
#MEENA END
#GRAY TALK
“...” ผมหันไปมองด้านข้างเพราะได้ยินเสียงลมหายใจที่ยาวสม่ำเสมอกัน
หลับไปแล้วสินะ หลับง่ายทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนขับรถมาค่อนคืน แต่ก็ดีแล้วที่หลับเพราะถ้าไม่หลับผมอาจจะ...
อ่าส์! ผมว่าผมห่างการมีเซ็กส์นานเกินไปพอได้สัมผัสผู้หญิงนิด ๆ หน่อย ๆ ตบะผมเลยแทบแตก
อดทนนะไอ้เกรย์ ถ้าหิวก็ไปหากินที่อื่นอย่าเผลอตัวกินของใกล้ตัว คิดถึงอนาคต ไม่มีอะไรแน่นอนถ้าวันหนึ่งคนที่มึงรอกลับมา ถ้าวันนั้นสิ่งที่มึงหวังเป็นเรื่องจริงได้มึงจะทำหน้ายังไงเวลาเห็นกรีนดีกับผู้หญิงอีกคนที่มึงเคยแอบมีความสัมพันธ์
อย่าเด็ดขาด อย่าให้ความอยากชั่วครั้งชั่วคราวสร้างปัญหากับตัวมึงในอนาคต
ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความต้องการของตัวเองแล้วหันหลังให้คนข้าง ๆ พยายามข่มตาให้หลับต่อให้จะรู้สึกปวดหนึบตรงกลางร่างกายก็ตาม
-เวลาต่อมา-
“อื้อ~ หนาว~” เสียงพูดคล้ายละเมอดังขึ้นพร้อมกับสิ่งที่อยู่ด้านหลังผมกำลังขยับตัว
หมับ~
“...อ่าส์~” ใครจะคิดว่ายัยนี่จะกล้าหันกลับมากอดผม กอดแน่นแล้วยังขยับหน้าซุกลงมาที่แผ่นหลังของผม มือของเธอกอดแล้วสอดเข้ามาใต้แขนจากนั้นก็กุมแผงอกของผมเอาไว้ ไม่ใช่แค่นั้นแต่ยัยคนสวนแม่งยังกล้าเอามือนุ่ม ๆ ลูบไล้หน้าอกของผมช้า ๆ ไม่หยุด
ถึงไม่ได้มีหน้าอกเหมือนผู้หญิงแต่ตรงนี้สำหรับผู้ชายมันก็ไวต่อความรู้สึกเหมือนกัน ละเมอยังไงวะแล้วที่สำคัญซิงยังไงวะถึงได้รู้จุดยั่วแม้แต่ตอนที่ละเมอ!
ผมแทบจะทนไม่ไหวลูกชายที่เพิ่งสงบแถมยังสงบได้ไม่เต็มร้อยตื่นขึ้นมาอีกรอบ ยิ่งกอดยัยคนสวนก็ยิ่งเบียดตัวเข้ามาหาไม่นานก็เริ่มขยับปากส่งเสียงละเมอพึมพำเบา ๆ
“อื้อ~” เสียงละเมออะไรวะทำไมมันเหมือนเสียงครางแบบนี้ ครางเบา ๆ แผ่ว ๆ แล้วมือที่ลูบหน้าอกก็เริ่มจิกปลายเล็บลงมาที่ผิวหนังของผม
“อื้อ~ อย่า~” ผมข่มอารมณ์ความต้องการพร้อมกับพยายามฟังว่าละเมออะไรออกมา เสียงแผ่วฟังยากแต่ที่มากกว่านั้นคือทำให้คนฟังโคตรสะท้าน
เสียงละเมอของเธอเงียบไปแต่ร่างกายกลับกำลังเริ่มขยับช้า ๆ ขาของเธอขยับมาก่ายขาผมนิดหน่อยแล้วก็เริ่มขยับไปมาให้ขาเรียวกับขาของผมบดเบียดเสียดสีกัน ปลายเล็บก็จิกลงมาที่ผิวเป็นระยะ
“...อ่าส์~” เสียว ผมกำลังเสียวแล้วก็เกิดอารมณ์เพราะการละเมอของยัยนี่ ผมไม่รู้ว่ายัยนี่เป็นอะไรแต่อาจจะกำลังฝันอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้
“อื้อ~ อย่า~” อีกครั้งที่ยัยคนสวนละเมอด้วยคำเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือเสียงเธอสั่นสะท้านมากกว่าเดิม
“อื้อ~ คุณเกรย์อย่าทำมีน~”
“...” คุณเกรย์เหรอ? ผมนิ่งชะงักไปเลยหลังจากได้ยินชื่อของตัวเอง
“อื้อ~ อย่าทำ~” อ่าส์~ อย่าบอกนะว่ายัยนี่กำลังฝันถึงผม แล้วที่กำลังฝันก็คงไม่พ้นฝันว่าเราสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่แน่ ๆ ที่สำคัญฟังจากเสียงที่ขัดขืนอยู่ตอนนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนเมื่อคืน ผมว่าในฝันของยัยนี่น่าจะ...ดีกว่าเมื่อคืน
“คุณเกรย์อย่า~” เสียงยัยคนสวนละเมอเป็นคำพูดออกมามากขึ้น เธอพยายามห้ามผมแน่นอนแต่เป็นการห้ามที่เสียงกระเส่าอย่างกับคนที่กำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เล็บก็ยิ่งจิกลงมาที่ผิวของผม เสียงกระเส่ากับแรงจิกของเล็บเป็นเครื่องกระตุ้นอารมณ์ผู้ชายชั้นดีเลย
“อย่า~”
“อ่าส์~ จะห้ามไม่ได้ก็เพราะเสียงเธอนี่ล่ะยัยคนสวน!” ผมบ่นออกมาเบา ๆ แล้วจับมือที่จิกผิวผมอยู่ออกจากนั้นก็หันไปหายัยคนสวนแล้วฝังหน้าลงไปที่คอขาวที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอ
ฟอด~
“อื้อ~” ผมหอมต้นคอเธอก็ส่งเสียงครางออกมา มือก็เริ่มปะป่ายลูบแขนกับแผ่นหลังกระตุ้นให้ผมหยุดแค่การหอมไม่ได้
จ๊วบ~
“อื้อ~” ผมดูดไซร้คอแล้วบดเบียดตัวลงไปหาร่างกายเธอจากนั้นก็จับมือเธอมาสอดประสานมือกันแล้วตรึงลงไปที่เตียง
จ๊วบ~
“อื้อ~ ขะ คุณเกรย์~” เสียงครางสะท้านกระตุ้นอารมณ์ผม ยิ่งเรียกชื่อด้วยก็ยิ่งกระตุ้นได้ดีผมย้ายจากคอด้านหนึ่งมาอีกด้านแล้วตวัดลิ้นเลียผิวของเธอแผ่วเบา
จ๊วบ~
“อื้อ~ ขะ คุณเกรย์ ทะ ทำอะไร~” เสียงมีนาเริ่มเปลี่ยนไปทำให้ผมสะดุดใจขึ้นมาแล้วผละอกจากต้นคอหอม ๆ ถึงได้เห็นว่าเธอไม่ได้ละเมอแล้วแต่ตื่นเลยต่างหากที่สำคัญกำลังมองผมด้วยหน้าตาตื่นผสมกับสายตาที่กำลังมีอารมณ์
“ปะ ปล่อย” มีนาเริ่มขยับแต่มือสองข้างถูกผมตรึงเอาไว้เลยขยับไปไหนไม่ได้ เธอขยับผมก็กดมือลงพร้อมกับกดลำตัวท่อนล่างลงไปในแนบแน่นมากขึ้น
“รับผิดชอบซะเพราะเธอยั่วฉันเอง~”
“อะ อะไรนะคะ...”
จ๊วบ~
“อื้อ~”