บทที่ 2.2 - เจ็บซ้ำสอง (บุกเข้าห้องน้องกลางดึก)

1477 Words
3 ปีที่แล้ว… หลังงานเลี้ยงฉลองเรียนจบเกรดสิบสามของนาเดีย ทุกคนที่มางานดูสนุกสนานเป็นอย่างมาก ทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชายต่างก็มารุมมะตุ้มถ่ายรูปเจ้าของงานอยู่ตลอดเวลา จนหญิงสาวแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ เพราะว่าหลังจากเสร็จสิ้นงานนี้เธอก็ต้องบินไปอยู่ที่ไทยเป็นระยะเวลากว่าสี่ปีเต็ม สำหรับการเรียนต่อในระดับชั้นปริญญาตรี นาเดียถึงแม้ว่าจะอยู่เมืองนอกมานาน แต่ยังไงซะรากฐานของเธอก็คือคนไทย หญิงสาวรู้สึกคิดถึงเมืองไทยอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อเรียนจบมอปลายเธอจึงแอบสมัครสอบชิงทุนกับทางมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง แล้วก็ติดตามที่ใจหวัง วินาทีนั้นเธอดีใจมากที่จะได้กลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง แต่ความสำเร็จก็มักมีอุปสรรค์คอยกั้นขวางเสมอ เมื่อมาดามเธียน่าไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เธอกลับไปใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่เมืองไทย หญิงสาวจึงต้องงัดไม้ตายมาอ้อนวอนผู้เป็นมารดาสุดฤทธิ์ จนมาดามเธียน่าอดใจอ่อนไม่ได้… “ไปอยู่ได้ แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆ และต้องอยู่ที่บ้านที่แม่ซื้อให้นะรู้ไหม” คนเป็นแม่กำชับ ก่อนจะพูดต่อ “แม่จะให้คนไปดูความเรียบร้อยของหนูทุกอาทิตย์นะ แล้วทุกวันต้องโทรฯ หาแม่เพื่อรายงานความเป็นอยู่ เข้าใจไหม” สิ่งที่พูดมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความห่วงใยทั้งสิ้น… “ค่ะ คุณแม่” หญิงสาวยิ้มตาหวาน บทสนทนาของคนทั้งคู่กำลังสร้างความไม่พอใจให้กับใครคนหนึ่ง ร่างสูงโปร่งที่นั่งไขว่ห้างอ่านนิตยสารเกี่ยวกับกีฬามองร่างบางตาขวาง “จะห่วงอะไรกันนักก็ไม่รู้” “เป็นอะไรไปเซน อยู่ดีๆ ก็หาเรื่องน้อง” มาดามเธียน่าถาม คนถูกถามวางนิตยสารชื่อดังลงกับโต๊ะตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเอามือกอดอก “ผมไปหาเรื่องลูกรักคุณแม่ตอนไหนครับ มีแต่คุณแม่ที่คิดไปเองทั้งนั้น” ชายหนุ่มเบ้ปาก “เซน…” มาดามเธียน่ากดเสียงต่ำ มองหน้าลูกชายตัวดี “พี่เซนคะ อย่าพูดแบบนั้นกับคุณแม่สิคะ” นาเดียเตือนด้วยความหวังดี แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเธอเปรียบเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ราดรดบนกองเพลิงอย่างเขา เซนจ้องคนปากกล้าด้วยสายตาคมกริบ “อย่ามาปากดีกับฉัน ยัยน้องสาวนอกไส้!” “มากไปแล้วนะเซน! แม่บอกแล้วไงว่านาเดียเป็นลูกของแม่ แล้วก็เป็นน้องสาวของเรา ทำไมถึง…” มาดามเธียน่ายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกขัดด้วยเสียงทุ้มล้อเลียน “คร้าบๆ ผมผิดเองครับ พอใจไหมครับคุณแม่” ชายหนุ่มลากเสียงยาว แสร้งยกมือยอมแพ้ มาดามเธียน่าถึงกับถอนหายใจกับกิริยาของลูกชาย… “หนูขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะคะคุณแม่” นาเดียตัดปัญหาด้วยการแยกตัว มาดามเธียน่ายิ้มพลางพยักหน้ารับรู้ หญิงสาวเดินผ่านหน้าชายหนุ่มที่กำลังมองเธอด้วยหางตา ใบหน้าหล่อใสตามแบบฉบับของวัยรุ่นอเมริกันยิ้มหยัน “คิดจะไปอยู่เมืองไทย คงหวังจะทำตัวเหลวแหลกได้เต็มที่สิท่า” คำพูดถากถางที่ทำให้คนฟังเจ็บจนจุก นาเดียฝืนทำสีหน้าเป็นปกติ ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา ร่างบางเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใยดี และการกระทำของเธอก็ทำเอาคนบ้าอำนาจถึงกับฟิวขาด เซนคาดโทษหญิงสาวเอาไว้ในใจ! อากาศยามค่ำคืนเงียบสงัด ร่างบางที่เอาแต่นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนาขยับตัวไปมาเมื่อรู้สึกถึงความน่ารำคาน “อื้อ…” เสียงหวานพึมพำ ใบหน้าเนียนกำลังถูกใครสักคนเอาปลายจมูกโด่งมาสัมผัสเบาๆ แล้วถูไถไปมา “อย่า…” หญิงสาวคิดว่าตัวเองฝันไป ก็เอาแต่สะบัดหน้าหนีสัมผัสหวาบหวิวเหล่านั้น แต่เมื่อหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น เจ้าตัวจึงลืมตาขึ้นมามอง สิ่งที่เห็นทำให้ดวงตากลมโตถึงกับเบิกกว้าง ! “พี่เซน!” นาเดียร้องตกใจ มือหนารีบปิดปากเธอเอาไว้ ร่างบางดิ้นไปมาภายใต้อ้อมกอดของชายหนุ่ม “อื้อ! อ่อย” “เงียบ!” เสียงเข้มกระซิบสั่งข้างใบหูขาวสะอาด น้ำเสียงดุดันของเขาสร้างความหวาดกลัวให้กับร่างเล็กไม่น้อย เธอจำต้องหยุดการขัดขืนลงชั่วคราว เมื่อเห็นว่าเธอไม่ต่อต้านแล้วมือหนาจึงปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ “พี่เข้ามาในห้องหนูทำไมคะ” นาเดียถาม เธอได้กลิ่นเหล้าโชยออกมาจากตัวเขา มันแรงมากจนต้องเบือนหน้าหนี เซนเห็นคนตัวเล็กยกมือขึ้นมาปิดจมูกก็เกิดความหมันไส้ “อื้อ พี่เซน” นาเดียยกมือดันร่างสูงให้ถอยห่าง อยู่ดีๆ เขาก็เบียดร่างเข้าใกล้เธอซะอย่างนั้น “ทำไม เหม็นเหรอ?” ดวงตาคมกริบมองใบหน้านวลผ่านแสงจันทร์ที่สาดส่องมาจากทางหน้าต่างแล้วก็ชวนให้เกิดความหลงใหล… “ก็พี่ดื่มเหล้ามา เหล้าที่ไหนจะหอม” เสียงหวานประชด “เหล้าในปากฉันไงหอม” เซนยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ “อะไรคะ… อื้อ!” ไม่พูดพร่ำทำเพลงเซนก็ก้มลงประกบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหื่นกระหาย ชายหนุ่มบดจูบเรียวปากอิ่มตามแรงอารมณ์ ความร้อนรุ่มแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย มือหนาดันร่างน้อยให้นอนราบไปกับเตียงกว้าง โดยที่ใบหน้าของเขายังคงบดจูบเธออยู่ไม่ห่าง จุมพิตที่เปรียบเสมือนเป็นมัจจุราชมากระชากลมหายใจของเธอ! “อื้อ” มือเล็กระดมทุบตีไปตามร่างกายอันบึกบัน แต่แรงมดของเธอกลับไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้เขาเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม… มันกลับช่วยปลุกอารมณ์ใคร่ในตัวชายหนุ่มให้มีมากยิ่งขึ้น เซนถอนจูบออกมา แต่ใบหน้าคมคายยังคงคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ปลายจมูกโด่งรั้น “ทำไมถึงอยากไปเมืองไทย” เสียงเข้มถามชิดเรียวปากอิ่มคนถูกถามพยายามจะเบือนหน้าหนี มือหนาจึงจับปลายคางของคนใต้ร่างเอาไว้แน่น แล้วบังคับให้เธอสบตากับตน “ตอบมา ว่าทำไมถึงอยากไปเมืองไทย” “หนูจะไปเรียนหนังสือ” “โกหก!” เซนกระชากเสียงใส่ เพิ่มแรงบีบมากกว่าเก่า ‘อยากจะไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ปีกกล้าขาแข็ง อยากจะไปอ่อยผู้ชายสิไม่ว่า’ “มากไปแล้วนะคะพี่เซน หนูไม่เคยคิดแบบนั้น” นาเดียถียง เรื่องอะไรจะต้องยอมให้เขามาดูถูกในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงด้วย “น้อยไปด้วยซ้ำ เธอคิดว่าฉันโง่จนดูเธอไม่ออกงั้นเหรอ… หึ อยู่ที่นี่ยังไม่วายมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตามมาวอแวไม่ห่าง แล้วไปอยู่ไกลสายตาคุณแม่ มันจะไปเหลืออะไร” ชายหนุ่มพ่นคำพูดถากถางใส่ใบหน้าหวาน นาเดียเจ็บไปทั้งใจ…! “พี่เซนอคติ หนูไม่เคยทำตัวแบบนั้น ไม่เคยคิดจะทำและไม่มีวันทำด้วย” นาเดียพูดทั้งน้ำตา “นี่สินะไม้ตายของเธอ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่หญิงสาวเกลียดที่สุด “พอถูกจับไต๋ได้หน่อยก็บีบน้ำตาใส่ แต่ขอโทษ! มุกนี้มันใช้ไม่ได้กับฉัน เพราะฉันไม่โง่” เซนย้ำชัดทุกถ้อยคำ “พี่เซนทั้งบ้าทั้งโง่ อคติจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าเกลียดหนูมากก็น่าจะดีใจไม่ใช่เหรอคะที่หนูไปไกลๆ จากพี่ จะมาทำแบบนี้กับหนูทำไม ปล่อยนะ!” ร่างบางเริ่มดิ้นอีกครั้ง คนเบื้องบนเดือดดาลเป็นที่สุด “อย่าดิ้น!” “ทำไมหนูต้องเชื่อพี่ด้วย พี่มันคนนิสัยไม่ดี นิสัยแย่!” “ฉันเป็นพี่เธอนะ ยัยเด็กบ้า!” พี่… งั้นเหรอ ? “ฉันสั่งอะไรเธอก็ไม่มี…” ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค “ไม่ใช่ค่ะ พี่ไม่ใช่พี่ของหนู” “นาเดีย” สายตาของเซนกำลังบ่งบอกหญิงสาวในทางอ้อมว่าถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็อย่าพูดจาไร้สาระกับเขา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สาวน้อยกลับไม่รับรู้อะไรเสียแล้ว “พี่จะเป็นพี่ชายหนูได้ยังไง ในเมื่อหนูมันก็แค่เด็กกำพร้า เป็นยัยน้องสาวนอกไส้ของพี่!” คิดถึงเรื่องนี้ทีไหร่น้ำตาก็พาลจะไหลทุกที ทำไมนะ ทำไมพี่ชายที่แสนดีของเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทำไมถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก “ฉันให้โอกาสเธอพูดใหม่” “พี่ไม่ใช่พี่ชายหนู”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD