หญิงสาวร่างสูงเพรียวที่สวมใส่ชุดครุยประจำคณะบริหารธุรกิจ ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังของประเทศแห่งหนึ่ง กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสมองกล้องตัวนั้นตัวนี้อย่างมีความสุข ไม่ต้องแปลกใจหากว่าเธอคนนี้จะมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปมากเป็นพิเศษ นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นที่โด่งดังภายในมหาวิทยาลัย เธอเป็นทั้งดาวมหา’ลัยที่ได้คำนิยามว่า สวยที่สุดตั้งแต่มหา’ลัยจัดการประกวดมา เธอเป็นหน้าเป็นตาของทางมหาวิทยาลัย และคณะบริหารธุรกิจในทุกๆ ด้าน เพราะไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมใดๆ เธอก็สามารถทำให้ผู้คนต่างภาคภูมิใจในตัวเธอทั้งสิ้น
นาเดีย
“วันนี้แม่ภูมิใจในตัวลูกสาวแม่ที่สุดเลยนะ”
น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยเป็นภาษาอังกฤษ มาดามเธียน่า แกริค มารดาบุญธรรม ผู้มีพระคุณยิ่งของเธอ
“หากไม่ได้คุณแม่ที่คอยดูแล หนูก็คงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ”
นาเดียพูดด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม เธอสำนึกบุญคุณของคนตรงหน้าเสมอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็จะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องผิดหวังในตัวเธอ
ชีวิตเด็กผู้หญิงที่ปราศจากพ่อและแม่ เกิดมาท่ามกลางความยากลำบากที่ต้องต่อสู้และกัดฟันเอาตัวเองให้รอดจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า การที่มาดามเธียน่ารับเอาเธอมาเลี้ยงในฐานะลูกสาวบุญธรรม ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ซื้อบ้านให้อยู่ที่เมืองไทย ให้เงินจับจ่ายใช้สอย สำหรับนาเดียแล้ว คำว่าบุญคุณยังไม่เพียงพอกับสิ่งที่เธอได้รับจากผู้เป็นแม่เลยสักนิด
หญิงสาวปฎิญานตนว่าจะทำทุกอย่างเพื่อแม่ของเธอ
“หนูเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง ดูสิ ขนาดทำงานพิเศษไปด้วยเรียนไปด้วย หนูยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาอวดแม่เลยนะ” มาดามเธียน่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“หนูกราบขอบพระคุณคุณแม่มากนะคะ ที่ดูแลหนูมาโดยตลอด ตอนนี้หนูเรียนจบแล้ว หนูสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว หนูไม่อยากให้คุณแม่ต้อง…” นาเดียยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกขัดด้วยเสียงของคนตรงหน้า ที่รู้ในทันทีว่าลูกสาวจะเอ่ยว่าอะไร
“ไม่เอาน่า ไม่ว่าจะยังไงหนูก็ยังเป็นลูกของแม่เสมอนะ แม่ตั้งใจว่า แม่จะมารับหนูไปอยู่ด้วย”
มือเรียวเหี่ยวย่นตามวัยลูบใบหน้าสวยหวาน
“คุณแม่” นาเดียน้ำตาคลอ
“หนูไปอยู่กับแม่นะลูก ไปอยู่ด้วยกัน มีหนู มีแม่ แล้วก็มี…” มาดามเธียน่าเว้นช่วง ก่อนจะพูดต่อ “พี่เซน”
คนสุดท้ายที่มารดาเอ่ยมานั้นทำให้ลมหายใจของเธอถึงกับขาดห้วง ความทรงจำมากมายกำลังตีตื้นขึ้นมาภายในใจ โดยเฉพาะเรื่องราว
ในคืนนั้น!
“ว่าไง ตกลงไหม” มารดาเอ่ยถาม
“คุณแม่” นาเดียมีท่าทีอึกอักใจ
“ทำไมลูก หนูไม่อยากไปอยู่กับแม่เหรอ”
“แม่อยากให้หนูไปอยู่กับแม่นะ อยากให้ไปอยู่ด้วยกัน”
หญิงชราพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นาเดียมองผ่านเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า เธอรับรู้ได้ถึงความคาดหวังในแววตาคู่นั้น และเธอก็จะไม่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องผิดหวัง
“ค่ะ หนูจะไปอยู่กับคุณแม่”
นาเดียจัดเตรียมเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับมารดาในวันพรุ่งนี้ หญิงสาวรู้สึกอาวรณ์บ้านหลังนี้ไม่น้อย ที่คืนนี้จะได้นอนเป็นคืนสุดท้ายเท่านั้น หญิงสาวใจหายเหลือเกินที่จะต้องจากประเทศไทยไปอยู่ต่างแดน แม้ว่าสถานที่ที่จะไปนั้นเป็นบ้านเมืองของมารดาที่เธอรักมากก็ตาม
“คิดอะไรอยู่เหรอเดีย” กรองแก้ว เอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนรักนั่งทำหน้าเศร้าอยู่ตรงระเบียงห้อง
“แก้ว ฉันตัดสินใจถูกหรือเปล่า” นาเดียถามร่างบางที่เพิ่งเดินเข้ามาหาตน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยเข้าแตะจมูก
“เรื่องที่จะไปอเมริกาน่ะเหรอ” กรองแก้วถามต่อ
“อืม”
“ก็ดีนะ ได้ไปอยู่กับแม่ ได้ไปใช้ชีวิตหรูๆ ที่นั่น ไม่เห็นต้องมีอะไรให้คิดมากเลย” กรองแก้วพูดตามความรู้สึก ใครๆ ก็รู้ว่ามาดามเธียน่ารวยมากแค่ไหน การที่เพื่อนรักของเธอถูกรับเลี้ยงให้เป็นลูกบุญธรรมนั้น โชคดียิ่งกว่าหนูตกถังข้าวสารเสียอีก
“งั้นเหรอ” เสียงหวานพึมพำ
“ทำไมล่ะ หรือว่าเธอไม่อยากไป” กรองแก้วถาม
“ฉันอยากไปอยู่กับคุณแม่ แต่ว่าฉันไม่อยากไปอยู่ที่นั่น”
นาเดียพูดเศร้าๆ กรองแก้วเห็นทีเรื่องนี้ต้องคุยกันยาวเธอจึงนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเพื่อนรัก
“ทำไมถึงไม่อยากไปอยู่ที่นั่น”
กรองแก้วเท้าคางมองหน้าเพื่อน
“ฉัน…” นาเดียอึกอัก
“อย่าบอกนะว่ายังคิดมากเรื่องนั้นอยู่”
กรองแก้วทำสายตารู้ทัน นาเดียเงียบไม่ตอบ เพียงเท่านี้กรองแก้วก็รู้ในทันทีว่าสิ่งที่เธอคิดไม่ผิด
“มันก็ผ่านมานานแล้วนะเดีย เธอจะไปคิดถึงมันอีกทำไมล่ะ” คนพูดถอนหายใจ
“แล้วถ้าเกิดเขาคนนั้นไม่ลืมล่ะ” หญิงสาวเป็นกังวล
“ฉันว่าเธอต่างหากนะที่ไม่ลืม ผู้ชายอย่างเขาไม่มาสนใจจำเรื่องราวไร้สาระแบบนี้หรอก” กรองแก้วพูดเสียงหยัน ถึงจะหล่อปานเทพบุตรยังไง แต่ถ้ามีนิสัยแบบนั้นเธอก็ขอบาย
“จริงเหรอ” นาเดียถาม
“จริงสิ!” กรองแก้วเสียงดัง “เธอน่ะเลิกคิดมากได้แล้ว เลิกเก็บเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคิดให้มันลำบากใจได้แล้วนะ เอาเวลาไปเตรียมตัวใช้ชีวิตสวยหรูบนกองเงินกองทองดีกว่า”
“แก้วก็ ฉันไม่เคยคิดอยากจะไปอยู่บนกองเงินกองทองของคุณแม่เลยนะ แค่ลำพังที่ท่านเมตตาก็มากพอแล้ว”
นาเดียพูดอย่างเจียมตัว
“จ้า แม่คนดีศรีสยาม”
กรองแก้วลากเสียงยาวล้อเลียนเพื่อนรัก ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่ ให้สดใสร่าเริง แต่ภายในใจของนาเดียกลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
“มาดามครับ!”
เลขาส่วนตัวของมาดามเธียน่าโบกมือไปมาท่ามกลางฝูงชนมากมายที่มารอรับผู้คนที่สนามบิน มาดามเธียน่าส่งยิ้มให้กับเลขาคนสนิทก่อนจะเดินลากกระเป๋าเข้าไปหา
“ที่บริษัทฯ เรียบร้อยดีไหม?” มาดามถามด้วยรอยยิ้ม
“เรียบร้อยดีครับ” สายตาเหลือบมองไปยังสาวน้อยข้างกายมาดาม “เอ่อ คุณหนู”
“นาเดียจะมาอยู่กับฉันที่นี่ถาวร” มาดามตอบพลางกับมองหน้าบุตรสาวบุญธรรม ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลาอมยิ้มละไม
“หนูจะไปอยู่กับแม่ที่บ้านเลยหรือว่าจะไปอยู่ที่วิลล่าส่วนตัวก่อน” เอ่ยถามลูกสาว
“หนู” นาเดียอึกอักไม่กล้าตอบ ใจหญิงสาวอยากจะไปอยู่ที่วิลล่าส่วนตัวก่อน เนื่องจากอยากปรับตัวกับบรรยกาศและอยากจะคิดทบทวนเรื่องราวกับตัวเองสักพัก แต่เธอก็กลัวว่าคำตอบของเธอจะทำให้มารดาเสียใจแล้วคิดไปไกลว่าเธอไม่อยากอยู่ด้วย
“ไปอยู่กับคุณแม่ค่ะ”
“เดรโกเดี๋ยวพาคุณหนูไปที่วิลล่านะ จัดการดูแลความเรียบร้อยทั้งหมดด้วย ถ้าคุณหนูต้องการอะไรก็ให้คนจัดเตรียมให้ รู้ไหม” มาดามเธียน่าหันไปพูดกับเลขาส่วนตัว นาเดียหน้าถอดสีทันที เอื้อมมือไปจับแขนของมารดาเอาไว้พลางกับส่ายหน้า
“ไปอยู่เถอะลูก แม่รู้ว่าหนูอยากอยู่คนเดียวสักพัก” มาดามเธียน่ายิ้ม
“คุณแม่”
“อย่าคิดมากลูก สบายใจเมื่อไหร่ค่อยมาอยู่บ้านเรานะ”
คนพูดจับมือลูกสาวอย่างให้กำลังใจ
“ขอบคุณนะคะ คุณแม่” หญิงสาวโผเข้ากอดมารดาแน่น มาดามเธียน่าลูบเรือนผมของลูกสาวด้วยความรัก ภาพตรงหน้าสร้างรอยยิ้มให้กับบรรดาลูกน้องทุกคน นาเดียเป็นหญิงสาวที่น่ารัก นิสัยอ่อนหวาน และแสนดี ความเป็นมิตรของเธอเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ใครต่อใครก็หลงรัก