บทที่ 3.1 - นกน้อยคืนรัง (หวงแต่วางฟอร์ม)

1441 Words
หลายวันมานี้นาเดียเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือเที่ยวเล่นตามประสา วันนี้จึงเป็นวันที่เพื่อนๆ ต่างชาติของเธอที่หายหน้าคราตากันไปนานมาหาถึงที่บ้านโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งตัว “ไฮ! นาเดีย” เมรี่เพื่อนสาวที่สนิทกันมาตั้งแต่มอต้นปรี่เข้ามากอดเธออย่างแรง “คิดถึงเธอมากเลย” “เช่นกัน ฉันก็คิดถึงเธอเมรี่” สองสาวกอดกันกลมท่ามกลางสายตาของบรรดาเพื่อนๆ คนอื่นๆ ร่างบางรับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างจากใครหลายๆ คน เธอถึงเดินกอดคนนั้นคนนี้เป็นรายบุคคล เรียกเสียงหัวเราะได้ดีจากเพื่อนๆ “คิดว่าจะกอดแต่เมรี่คนเดียวซะแล้ว” ไมค์เอ่ยแซวเพื่อนสาว ชายหนุ่มตาสีฟ้าทอดมองใบหน้าหวานหยดย้อยไม่วางตา “อะแฮ่ม” เจมส์แสร้งกระแอมออกมาเมื่อเห็นกิริยาของเพื่อน “นายมองราวกับว่าอยากกินเธอเลยนะ” คนแซวส่งรอยยิ้มล้อเลียน “คงงั้นมั้ง” คนพูดยักไหล่ ก่อนจะเอ่ยถามคนที่ไม่ได้เจอหน้าหลายปี “ไปเรียนที่เมืองไทยมาเป็นยังไงบ้าง สนุกไหม” เป็นคำถามที่ทุกคนในที่นี้ต่างก็อยากรู้ “ก็ดีนะ ได้กลับไปสูดบรรยกาศเก่าๆ กลับไปเจอน้องๆ ที่บ้าน” นาเดียยิ้มมีความสุขเมื่อคิดถึงอดีต บ้าน ในความหมายของเธอก็คือสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้านั่นเอง “น้องๆ โตขึ้นเยอะเลย บางคนก็มีคนมารับไปอุปการะแล้วด้วย” เสียงหวานพูดเจื่อยแจ้ว ทุกคนอมยิ้มไปกับคำพูดของเธอ เพื่อนๆ ทุกคนต่างรู้ดีว่านาเดียไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของมาดามเธียน่า หญิงสาวผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยว่าเธอนั้นมาจากตระกูลเก่าแก่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่ดินหลายๆ แห่งของแผ่นดินนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของเธอซะส่วนใหญ่ ไหนจะอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงบรรดาธุรกิจยิบย่อยอีกต่างๆ นานา เช่น เหมืองเพชร ร้านอาหาร แบรนด์เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งมีหุ้นส่วนอยู่ในสายงานของวงการบันเทิง “สวยขึ้นเยอะเลยนาเดีย เธอสวยมาก” เมรี่เพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่นาเดียสนิทสนมด้วยเอ่ยชมไม่ขาดปาก “ใช่ ผิวสีแทนสวยมาก” เจมส์เอ่ยชมอีกคน ไมค์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย “ฉันจะลอยแล้วเนี่ย แต่เดี๋ยวก่อนนะ ผิวสีแทนเนี่ย หมายความว่าฉันดำขึ้นใช่ไหม” เจ้าตัวพูดติดตลก “บ้าเหรอ สีผิวแบบเธอเนี่ยแหละสาวยุโรปใฝ่ฝันเลยแหละ มองแล้วมีเสน่ห์ตามแบบฉบับของผู้หญิงไทย โดยเฉพาะรูปหน้าคมชัดตากลมโตแบบเนี้ย โอ้วมายก็อต! เธอต้องฮอตมากแน่ๆ เลยนาเดีย” เมรี่บรรยายอย่างมีความสุข “ขอบใจมากเมรี่ แต่เธอก็สวยขึ้นตั้งเยอะเลยนะ” นาเดียชมกลับบ้าง เธอไม่ได้พูดเอาใจเพื่อนแต่อย่างไร ทว่าคนตรงหน้าดูโตและสวยเซ็กซี่มากจริงๆ “โน… ฉันสวยไม่เท่าเธอหรอก” เมรี่ยิ้มขำ “แต่สวยที่สุดในสายตาของฉันนะ” เจมส์เดินเข้ามาโอบไหล่แฟนสาว สร้างความประหลาดใจให้กับสาวไทยยิ่งนัก “อย่าบอกนะว่า…” นาเดียชี้นิ้วไปที่คนทั้งสอง คู่รักสุดเลิฟพยักหน้าให้กับเธอด้วยรอยยิ้ม “ดีใจด้วยน้า” นาเดียโผเข้ากอดเพื่อนทั้งสอง “ในที่สุดก็กล้าบอกสักทีนะ” หญิงสาวแซวเพื่อน เมรี่ยิ้มเขิน “หมายความว่าไง” เจมส์อยากรู้เมื่อเห็นสาวสวยทั้งสองมองหน้ากันแบบมีเลศนัย “ก็แฟนนายเธอแอบชอบนายมานานแล้วน่ะสิ” ไมค์รับหน้าที่ขยายความ เจ้าตัวที่เพิ่งรู้ความจริงถึงกับยิ้มไม่หุบ “ตั้งแต่เมื่อไหร่” เจมส์หันไปถามแฟนสาว “ก็ตั้งแต่เกรดสิบแล้ว” เมรี่หน้าแดง “เฮ้! ถ้านานขนาดนั้นทำไมถึงไม่บอกฉันล่ะ” เจมส์แอบตกใจกับคำตอบที่ได้รับ “ก็ใครจะกล้าบอก ในเมื่อตอนนั้นนายฮอตซะ” น้ำเสียงติดงอนเล็กน้อย ชายหนุ่มต้องรีบรั้งร่างอวบอั้นเข้ามากอดแนบอก “ฮ่าๆ โอเคๆ แต่ตอนนี้ฉันมีเธอคนเดียวแล้วนะ” เจมส์ไม่พูดเปล่า ยังก้มหน้าจุมพิตแฟนสาวต่อหน้าเพื่อนๆ นาเดียที่ห่างหายจากวัฒนธรรมของคนที่นี่ไปนาน ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดตาด้วยความเขินอาย “ฮ่าๆ นาเดียเขินเหรอ” ไมค์กระแทกไหล่แซว เจ้าตัวพยักหน้ายอมรับ “อาหะ ไปอยู่ไทยมาหลายปี ที่นู่นเขาไม่แสดงความรักกันแบบนี้อะ” “งั้นต้องทำตัวให้ชินนะ เพราะว่าที่นี่มันก้าวกระโดดไปอีกขั้นแล้ว” เมรี่ยักคิ้ว บรรยกาศการพูดคุยก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ทุกคนต่างแลกเปลี่ยนเรื่องราวซึ่งกันและกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะร่าเริงของวัยหนุ่มสาวดังลั่นไปทั่วบริเวณ จิตใจของนาเดียก็พลอยสดชื่นขึ้นมาไม่น้อย นอกจากมารดาแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอรักที่นี่ วันนี้นาเดียตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านกับมาดามเธียน่า เนื่องจากเธอพักอยู่ที่วิลล่าส่วนตัวมาหลายอาทิตย์แล้ว คงถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องกลับมาดูแลมารดาเสียที แม้ว่าภายในใจจะไม่อยากมาเลยก็ตาม “วันนี้คุณแม่ไปหาหมอมาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” “ก็โรคคนแก่น่ะลูก ไม่เป็นไรหรอก” มาดามเธียน่าฝืนยิ้ม “แต่ดูสีหน้าคุณแม่ไม่ค่อยดีเลย ให้คุณหมอมาตรวจอีกสักรอบไหมคะ” หญิงสาวอดเป็นห่วงคนตรงหน้าไม่ได้ “ไม่เป็นอะไรจริงๆ ลูก แม่แค่เวียนหัวน่ะ อยากนอนพัก” นาเดียค่อยๆ ประคองร่างของคนป่วยให้นอนราบไปกับเตียงกว้างอย่างระมัดระวัง ด้วยกลัวว่ามารดาจะเจ็บ การกระทำของเธอสร้างความประทับใจให้กับมาดามเธียน่า “ขอบใจมากลูก” มือเหี่ยวย่นตามวัยยกลูบศีรษะเล็ก “แทนที่จะได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ เลยต้องมานั่งดูแลคนป่วยอย่างแม่” “แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำค่ะ กับสิ่งที่คุณแม่ทำเพื่อหนู” “นาเดีย…” “หนูทำเพื่อคุณแม่ได้ทุกอย่างค่ะ ต่อให้ต้องตายแทน หนูก็ทำได้” เธอรู้สึกตามที่ได้เอื้อนเอ่ยออกมาจริงๆ “แม่รักลูกนะ แม่… ฮึก” “ไม่ร้องนะคะ” นาเดียเช็ดน้ำตาคนบนเตียงแผ่วเบา “คุณแม่นอนพักเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจะลงไปเตรียมอาหารเย็น คุณแม่ตื่นมาจะได้ทานก่อนทานยา ดีไหมคะ” “ดีจ้ะ” ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบท่ามกลางความคิดไม่ตกของคนที่นอนน้ำตาซึมอยู่บนเตียง “ถ้าแม่ขออะไรหนูสักอย่าง หนูจะให้แม่ได้ไหม” คำถามที่ไม่มีใครสามารถตอบเธอได้ นอกจากลูกสาวของเธอ นาเดียตื่นเต้นมากกับการเข้าครัวครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ผ่านมาของที่นี่ หญิงสาวดูเงอะงะว่าอะไรอยู่ตรงไหนยังไง แต่แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ร่างบางอาสาทำอาหารเย็นแทนแม่บ้านประจำของบ้าน โดยเมนูเย็นนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารไทยของโปรดของมาดามเธียน่าทั้งสิ้น กลิ่นหอมฟุ้งกระจายอบอวลไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้คนที่เพิ่งย่างกรายเข้ามาในบ้านต้องสูดรับเอาความอร่อยเข้าไปเต็มปอด “วันนี้ทำอะไรเหรอ ทำไมกลิ่นดูฉุนแปลกๆ” เสียงเข้มถามสาวใช้ที่เดินเข้ามาต้อนรับเขาที่หน้าประตูบ้าน เซนส่งเสื้อสูทและกระเป๋าสีดำแบรนด์เนมดังให้กับเธอ “อาหารไทยค่ะ” สาวใช้ตอบ “อาหารไทย?” ชายหนุ่มทวนคำงงๆ “ว่าไงครับคุณเพื่อน” เซนแอบเซ็งที่เห็นใบหน้าจอมทะเล้นของเพื่อนสนิท “เฮ้ย ไม่เอาสิวะ เห็นหน้าฉันแค่นี้ถึงกับต้องถอนหายใจ” คริสเตียนกระแทกไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปในครัว เพื่อทักทายสาวน้อยแสนสวยของเขา “ไฮ น้องนาเดีย” นาเดียหันหน้ามาส่งยิ้มกว้างให้กับแขกหนุ่มหน้าตาดี ก่อนจะโผร่างเข้ากอดเขาเต็มแรง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนตกอยู่ในสายตาของพี่ชายต่างสายเลือดตลอดเวลา “คิดถึงพี่คริสจังเลยค่ะ” เสียงหวานออดอ้อน ยิ่งทำให้คริสเตียนถึงกับยิ้มไม่หุบ เขาบีบปลายจมูกโด่งรั้นของสาวน้อยยั่วยุอารมณ์ของใครบางคน “พี่ก็คิดถึงน้องนาเดียครับ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังจุมพิตลงบนหน้าผากเกลี้ยงนูน ปัง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD