“หรือนนรักมัน”
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
ชานนปวดหัว สถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่เหลือเกิน
“ขอบคุณที่พาฉันมาดูคนทุเรศที่มันหลอกคบผู้หญิงบังหน้ามาเป็นสิบๆ ปี ถ้าไม่ได้คุณฉันคงแคลงใจไปจนตายว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงโดนบอกเลิก แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”
หยาดน้ำค้างส่ายหน้าสมเพชกับความจริงที่ชานนปกปิดเธอมาตลอด หญิงสาวแสยะยิ้มพลางเคลื่อนสายตามองไปยังหนุ่มกล้ามโตในชุดคลุมอาบน้ำวาบหวิว
“ผู้ชายเฮงซวยพรรณนี้เชิญเอาไปกกกอดให้พอใจเถอะ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทวงคืน ฉันไม่มีวันเห็นขี้กลายเป็นทองซ้ำสองแน่!”
วาจาของหญิงสาวช่างแสบสันนัก ธนภพอมยิ้มสะใจที่ชานนถูกตอกหน้าด้วยถ้อยคำรุนแรง เขายักคิ้วอย่างผู้ชนะก่อนเดินตามร่างบางออกไป สองขายังก้าวไม่พ้นประตูก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายตามด้วยเสียงปาข้าวของดังครึกโครม ดูเหมือนคืนนี้ชานนกับแฟนหนุ่มคงมีเรื่องให้ต้องเคลียร์กันยาว!
สมน้ำหน้า!
หยาดน้ำค้างเดินดุ่มๆ ออกจากบ้านโดยไม่สนว่าจะมีใครตามมา หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ ภาพที่ชานนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้ชายคนนั้นเหมือนเข็มนับพันทิ่มแทงหัวใจดวงน้อย ถึงปากเก่งบอกไม่รู้สึกอะไรแต่เขาคือคนที่เธอเคยรักและตอนนี้ก็ยังลืมไม่ได้
“ฮึก ไอ้พี่นนบ้า ไอ้คนเฮงซวย ที่ผ่านมาหลอกฉันมาตลอด ฮือๆ ไอ้คนนิสัยไม่ดี” เสียงสั่นเครือด่าทอผ่านสายลมยามค่ำคืน หญิงสาวทิ้งตัวนั่งลงกับฟุตบาทหลังเดินจนเหนื่อย จุดหมายปลายทางไม่มี ดึกดื่นป่านนี้จะกลับยังไงก็ยังไม่รู้ มือถือก็ดันแบตหมดกลางคัน เข้าเสต็ปคนอกหักทุกอย่าง
หางตาคู่สวยเหลือบเห็นรองเท้าหนังของใครคนหนึ่งหยุดยืนข้างๆ หยาดน้ำค้างค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ธนภพกอดอกมองเธอนั่งร้องไห้ด้วยสายตาเวทนา
“ตามมาทำไม หรือว่าจะตามมาหัวเราะเยาะฉัน ฉันดูโง่มากใช่ไหมที่โดนเกย์หลอกเป็นสิบๆ ปี ใช่สิ ฉันมันคือคนโง่ โง่ๆๆๆ”
ระดมมือทุบศีรษะตัวเองแรงๆ ระบายความเจ็บใจ
“พอได้แล้ว”
มือหนายึดข้อมือเรียวเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง เขาทิ้งตัวนั่งลงเคียงข้างเธอ ตวัดร่างน้อยเข้าใกล้แล้วจับชายกระโปรงที่ตัวเองใส่อยู่เช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่ม
“จะไปเสียน้ำตาให้คนเลวอย่างมันทำไม”
ธนภพต่อว่า เขาล่ะเกลียดไอ้ชานนนัก สันดานของมันไม่หาย ชอบหลอกคบผู้หญิงบังหน้าเพื่อปกปิดรสนิยมทางเพศของตัวเอง เป็นอะไรก็เปิดเผยไปสิ จะโกหกสังคมไปเพื่ออะไร
“หน้าตามอมแมมสกปรก”
“ไม่สกปรกเท่าคุณหรอก ผู้ชายอะไรแต่งหญิง ไม่อายเขาหรือไง” หยาดน้ำค้างเอาคืนหลังถูกว่า ธนภพรีบมองสภาพตัวเองทันที
“บ้าเอ๊ย!” เขาลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้อยู่ในชุดผู้หญิง ซ้ำเครื่องหน้าหล่อเหลายังแต่งแต้มเครื่องสำอางค์ ดีที่เมื่อครู่ไอ้ชานนมัวแต่ปวดหัวกับปัญหาของตัวเอง ไม่เช่นนั้นมันได้หัวเราะเขาฟันร่วงหมดปากแน่
“คุณกับพี่นนไม่ถูกกันเหรอ”
“มันเป็นญาติฉัน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”
เขาตอบไม่ตรงคำถาม
“ฉันถามว่าคุณสองคนไม่ถูกกันเหรอ” หยาดน้ำค้างถามซ้ำ ธนภพถอนหายใจก่อนตอบ
“เกลียดกัน”
ในเมื่อคำตอบมาเช่นนี้หล่อนก็ไม่คิดถามต่อว่าเกลียดกันเพราะสาเหตุใด มันไม่ใช่เรื่องของเธอ จะว่าไปชานนจะเป็นยังไงคือไม่เกี่ยวกับเธอแล้ว
“ไป” ธนภพลุกยืน
“ไปไหน” คนอกหักเงยหน้าถาม เขาจะพาเธอไหนอีก ผู้ชายคนนี้ยังไงกันนะ เจอกันวันแรกก็ทำให้เธออึ้งไม่รู้จบ
“จะพาไปส่งบ้าน จะกลับไหมบ้านน่ะ”
จริงด้วยสิ… ป่านนี้พี่นาคงรอแย่แล้ว กลับไปก็ไม่รู้ว่าจะโดนบ่นจนหูชาหรือเปล่า
“ฉันกลับเองได้” ว่าแล้วก็ลุกเดินหมายจะหาเรียกรถแท็กซี่
“ถ้าหวังจะขึ้นแท็กซี่ขอเตือนว่าอย่าเสี่ยง เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลัวถูกลากเข้าป่าหรือไง”
เสียงเข้มตักเตือน หยาดน้ำค้างชะงักฝีเท้าแทบไม่ทัน
“ขึ้นรถ เดี๋ยวผมไปส่ง”
ระหว่างทางที่นั่งรถมากับเขาหยาดน้ำค้างเอาแต่เงียบเหม่อมองข้างทาง ในหัวมีแต่ภาพของชานนเต็มไปหมด ตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตจนกระทั่งถึงวันที่เขาตัดสัมพันธ์อย่างไม่ใยดี หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วง รู้สึกว่าก้อนเนื้อข้างซ้ายช่างอ่อนแอเหลือเกิน
“ขอบคุณนะคะที่ขับรถมาส่ง”
เสียงหวานกล่าวหลังรถคันหรูจอดเทียบหน้าบ้าน
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นเลี้ยงข้าวสักมื้อได้ไหม”
“เลี้ยงข้าว” หยาดน้ำค้างขมวดคิ้ว ก่อนหัวเราะแล้วพูดต่อว่า
“ดูทรงแล้วคุณน่าจะรวยกว่าฉันตั้งเยอะ ถ้าจะให้ฉันเลี้ยงอาหารแพงๆ บอกเลยนะว่าไม่มีตังค์”
สาวเจ้ารีบออกตัว ธนภพอมยิ้ม
“ใครว่าจะกินของแพงล่ะ”
“แล้วคุณจะกินอะไร”
เจ้าหล่อนถามหน้ามุ่ย รู้สึกรำคาญที่เขาเล่นแง่
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ”
“แต่ว่า…”
“ถือเป็นการตอบแทนที่ผมช่วยให้คุณรู้ความจริงเรื่องไอ้ชานน” เขาดักคอก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยจบ หยาดน้ำค้างจำต้องกลืนถ้อยคำปฏิเสธลงคอ
“มาตอนบ่ายนะคะ ช่วงเช้าฉันไม่ว่าง”
ไม่ใช่ไม่ว่าง แต่เธอรอให้พี่สาวอย่างนาริน ไปทำงานเสียก่อน ไม่อยากตอบคำถามให้วุ่นวาย
ขี้เกียจเล่าว่าไปเจออะไรมาบ้าง
“ตามนั้น” ธนภพตกลง สายตาเจ้าเล่ห์มองร่างบางอย่างหมายมาด