ปฐมบท 1.1 - อกหัก (ถูกทอดทิ้ง)

1070 Words
“เราเลิกกันเถอะ!” หยาดน้ำค้าง ยกแก้วน้ำสีอำพันกระดกดื่มไม่ยั้งหลังถูกแฟนหนุ่มที่คบหามานานกว่าสิบปีบอกเลิกด้วยเหตุผลสุดคลาสสิกที่ว่า ‘เธอดีเกินไป’ “พอแล้วน้ำ เลิกดื่มได้แล้ว” สารัช เพื่อนชายคนสนิทที่ตัวติดกันตั้งแต่เล็กจนโตแย่งแก้วเหล้าออกจากมือบาง หยาดน้ำค้างพยายามดึงแก้วทรงสูงกลับคืนแต่ชายหนุ่มไม่ยอม สุดท้ายก็สู้แรงคนเมาไม่ไหว จำต้องปล่อยน้ำเมาย้อมใจให้กับเพื่อนตัวดี “ทำไมวะ ทำไมพี่นนต้องทิ้งฉันด้วยวะ ฉันทำอะไรผิด ฉันผิดตรงไหน ฉันเป็นแฟนที่ไม่ดีเหรอ ทำไมเขาต้องบอกเลิกฉันด้วย ทำไม!” หยาดน้ำค้างร้องถามทั้งน้ำตา ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันดีมาก ดีจนเธอวาดฝันอนาคตว่าจะแต่งงานอยู่กินกับเขาฉันท์สามีภรรยา สุดท้ายความฝันเหล่านั้นเป็นอันต้องแตกสลาย เมื่อ ชานน ผู้ชายที่เธอรักรองจากบิดาสลัดเธอทิ้งอย่างไม่ใยดี “ไม่สิ ฉันเป็นแฟนที่ดีมากต่างหากล่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะบอกเลิกฉันด้วยเหตุผลควายๆ แบบนั้นทำไม จริงไหม?” หยาดน้ำค้างหัวเราะสมเพชตัวเอง สารัชถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้จะปลอบประโลมคนอกหักยังไง “น้ำกลับบ้านเถอะ แกเมามากแล้ว” ชายหนุ่มประคองร่างบางลุกยืน หยาดน้ำค้างสะบัดแขนออก “ปวดฉี่ ขอฉี่แปบ” น้ำเสียงอ้อแอ้ร้องบอก “ฉันไปส่ง” “ไม่เป็นไรเพื่อนรัก ห้องน้ำผู้หญิงแกจะไปทำไม อยากถูกมองว่าเป็นโรคจิตเหรอ ฮ่าๆ” หยาดน้ำค้างหัวเราะร่วน ปกติหล่อนไม่ใช่คนเพี้ยนแบบนี้ สารัชยืนมองร่างเล็กเดินเอียงไปเอียงมาพลันรู้สึกไม่ไว้ใจ ตามประกบเพื่อนสาวจนกระทั่งถึงหน้าห้องน้ำหญิง “น้ำ… แกไหวไหมเนี่ย” สารัชเห็นหยาดน้ำค้างทำท่าจะอ้วกออกมา “ไหวๆ แกไปรอฉันที่โต๊ะเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป” “ไม่เอา ยืนรอแกตรงนี้แหละ เกิดเดินหลงโต๊ะขึ้นมาจะทำยังไง” สารัชไม่กล้าปล่อยคนเมาให้อยู่ตามลำพัง “งั้นรอตรงนี้” หยาดน้ำค้างบอกก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหญิง เธอปรายตามองเหล่าผีเสือราตรีแต่งหน้าทาปากพลางยิ้มตาเยิ้ม “มองอะไรยะหล่อน หน้าพวกฉันเหมือนมารดาหล่อนหรือไง” หญิงสาวแต่งหน้าหนาเตอะกระชากเสียงถาม หยาดน้ำค้างขมวดคิ้ว “ไม่เหมือน แม่ฉันสวยกว่าเธอตั้งเยอะ” หากเป็นในตอนที่มีสติหล่อนคงไม่กล้าพูดเช่นนี้ “ต๊าย! มันบอกว่าแกไม่สวย จัดการเลยไหม” เพื่อนที่มาด้วยรีบใส่ไฟ เห็นร่างเล็กดูสวยหวานกว่าก็ชักเกิดความอิจฉา อยากตบสั่งสอนสักทีสองที “เอาสิ ปากดีแบบนี้มันต้องโดนสั่งสอน ฉันเองก็คันไม้คันมือเหมือนกัน!” คนถูกกล่าวหาว่าสวยน้อยกว่ามารดาของอีกฝ่ายพุ่งเข้าหาร่างบอบบางก่อนเป็นคนแรก กระตุกกลุ่มผมเงาดำจิกทึ้งสุดแรงหยาดน้ำค้างพยายามดึงมือคนพาลออกแต่ไม่เป็นผล ผู้หญิงคนนั้นง้างมือเตรียมลงทัณฑ์ คนเมาหลับตาน้อมรับแม้สติไม่เต็มร้อย “ปล่อยฉันนะ!” หยาดน้ำค้างลืมตามองเหตุการณ์ตรงหน้า สตรีร่างสูงใหญ่กำข้อมือคนที่หมายประทุษร้ายหล่อนเอาไว้ “โอ๊ย! อีเพื่อนบ้า ทำไมพวกแกไม่รับร่างฉันหะ” คนถูกเหวี่ยงอัดกำแพงก้นกระแทกพื้น ตะโกนด่าเพื่อนพ้องที่เอาแต่ยืนมองไม่ยอมเข้าช่วยเหลือ “แก!” พอลุกขึ้นได้ก็เตรียมพุ่งเข้าใส่หวังเอาคืน ทว่าพอเจอสายตาดุดันของอีกฝ่ายก็ถอยหนี “ไปเถอะแก ดูท่ามันจะบ้าๆ นะ ผู้หญิงอะไรรูปร่างยังกับหมีควาย สู้ไปก็เจ็บตัวเปล่า ไปเถอะ” เหล่าเพื่อนพ้องเตือนสติ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าอัดเครื่องสำอางค์หนาเตอะเห็นด้วย ค่อยๆ ถอยทัพเดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำ ไม่วายชี้หน้าด่าทอเพื่อรักษาฟอร์ม “ฝากไว้ก่อนเถอะอีพวกบ้า!” หยาดน้ำค้างแทบสร่างเมาหลังหวิดเจอสถานการณ์ถูกรุมตบ หล่อนเงยหน้ามองพลเมืองดีพลางกล่าวขอบคุณตามมารยาท “ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้” ไร้สัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก… “เธอชื่ออะไรเหรอ” พยายามชวนคุยแต่อีกฝ่ายไม่ตอบ มีเพียงความเงียบส่งมาเท่านั้น “เดี๋ยวสิ” รีบวิ่งไปดักหน้าคนที่ช่วยหล่อนไว้ ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้คมคายอีกทั้งรูปร่างยังสูงใหญ่ผิดแปลกไปจากสตรีอื่น ดูเหมือนผู้ชายสวมใส่กระโปรงยังไงไม่รู้ “เธอมาเที่ยวกับใครเหรอ มาคนเดียวหรือว่ามากับแฟน” “ถามทำไม?” คำตอบคล้ายรำคาญยังไม่น่าสนใจเท่ากับน้ำเสียงที่เปล่งออกมา เนื้อเสียงใหญ่ทุ้มเหมือนผู้ชาย หยาดน้ำค้างเริ่มสงสัย หรือว่าเธอคนนี้จะเป็นเพศที่สาม ใช่แน่ๆ หยาดน้ำค้างมั่นใจเต็มร้อย “หลบ” เอ่ยนิ่งๆ แต่สายตาน่ากลัวจ้องเขม็ง ร่างบางจำต้องหลบ “ผู้ชายชัวร์!” เสียงหวานพึมพำพลางมองตามร่างสูงจนลับสายตา “ขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอหน้าห้องน้ำนะ พอดีเจนโทร. มาบอกว่าให้รีบกลับบ้านด่วน น้องจินไม่สบายตัวร้อนมาก” น้ำเสียงเหนื่อยหอบของสารัชบอกกล่าว “งั้นแกรีบกลับบ้านเถอะ ฉันหายเมาละ” หยาดน้ำค้างที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วเอ่ย “แน่ใจนะ?” สารัชอดเป็นห่วงเพื่อนสาวไม่ได้ “แน่ใจ แกรีบกลับไปดูหลานเถอะ ป่านนี้ยัยเจนมันร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วมั้ง” เจนจิรา คือเพื่อนคนสนิทอีกคนของเธอ เจนจิราและสารัชเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานานกว่าห้าปีเต็ม มีลูกชายน่ารักวัยกำลังซนชื่อจินภพ ซึ่งเธอเอ็นดูลูกชายของเพื่อนประหนึ่งลูกแท้ๆ คอยซื้อของเล่นและขนมนมเนยไปฝากหลานเสมอ “เคๆ งั้นฉันไปก่อนนะ” สารัชที่เป็นห่วงลูกรีบวิ่งออกจากผับเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หยาดน้ำค้างเตรียมตัวกลับหลังดูเวลาว่าปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง หญิงสาวหยิบกระเป๋าสีหวานคล้องหัวไหล่เดินออกจากสถานที่อโคจรที่เพิ่งย่างกรายเข้าเป็นครั้งแรก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD