บังเอิญว่าแม่ของเราเป็นเพื่อนรักกัน2

1634 Words
ผมนั่งอยู่ในร้านติ่มซำเจ้าดังของย่านเยาวราชเพราะต้องมาส่งคุณแม่มาพบกับเพื่อนของท่านตามนัด ความจริงหน้าที่นี้ต้องเป็นของเตี่ยผมต่างหาก แต่ท่านติดธุระคุยงานกับพนักงานกะทันหัน ผมเลยต้องตื่นแต่เช้าเพราะทนการรบเร้าของแม่ไม่ไหว เมื่อคืนไม่น่ากลับไปนอนที่บ้านเลยจริงๆ ถ้าเมื่อคืนผมไม่อารมณ์ดีจากการบอกหลับฝันดีของน้อง ผมก็คงไม่ขับรถกลับบ้าน แล้วก็คงไม่ต้องถูกแม่ลากมาที่นี่ตอนนี้ “ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยตาแดน แม่แค่ให้มาส่งไม่ได้จะพาแกไปเชือดนะ” แม่เอ็ดผมที่นั่งทำหน้าบึ้งเพราะนอนไม่อิ่ม “ก็ผมง่วงนี่ แล้วเพื่อนแม่เมื่อไหร่จะมาครับ” ผมอยากกลับไปนอนต่อแล้ว เพราะเตี่ยบอกว่าจะมารับแม่เองให้ผมกลับได้เลยถ้าส่งท่านเรียบร้อยแล้ว แต่ผมอยากนั่งรอเป็นเพื่อนท่านก่อนไม่อยากให้แม่ผมต้องนั่งรอเพื่อนอยู่คนเดียว “มาแล้ว เดี๋ยวทักทายแม่ดาก่อนค่อยไป” ท่านยกชาจีนขึ้นดื่มอย่างใจเย็น “ครับ” ผมฟุบหน้าลงบนโต๊ะเพราะง่วงจริงๆ แอร์ในห้องเย็นสบายกำลังดีทำเอาตาของผมจะปิดให้ได้ “มานานแล้วหรอประภา” เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่งปลุกผมให้ตื่นจากอาการเคลิ้มหลับ ผมขยี้ตามองผู้หญิงวัยเดียวกับแม่ของผมอย่างคุ้นตา ท่านดูภูมิฐานคล้ายแม่ของผมมากคงเพราะเป็นเพื่อนกันสไตล์การแต่งตัวเลยคล้ายๆ กัน “ไม่นาน ถึงก่อนแค่สิบนาที นี่ตาแดนทักทายแม่ดาสิลูก” แม่ตีแขนกระตุ้นผมเมื่อเห็นว่าผมยังแสดงอาการงัวเงียอยู่ “สวัสดีครับแม่ดา” ผมยกมือไหว้ท่าน ท่านยิ้มกว้างให้ผม ลักยิ้มใต้ตาของท่านดูคุ้นตาผมมากๆ เหมือนรอยยิ้มของน้องไม่มีผิด นี่ผมคิดถึงเธออีกแล้วหรอเนี่ย “เรียกหม่าม้าก็ได้ลูก ลูกชายเพื่อนรักก็เหมือนลูกตัวเอง โตขึ้นผิดตาจากที่เห็นเมื่อคราวก่อนมากเลยนะประภา โตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเหมือนคุณกรณ์สมัยหนุ่มๆ เลยนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เพื่อนแม่ชมผมอย่างอารมณ์ดี “เหมือนที่ไหนกัน หล่อกว่าคุณกรณ์เยอะเพราะได้ความสวยจากแม่น่ะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แม่ของผมก็ยังคงหลงตัวเองแบบนี้ตลอด และคงเพราะเป็นเพื่อนสนิทถึงได้คุยกันถูกคอขนาดนี้ “นอนไม่อิ่มหรอลูก ลูกสาวหม่าม้าก็บ่นนอนไม่อิ่มเหมือนกัน งานเลี้ยงเมื่อคืนจัดดึกขนาดนั้นเลยหรอ” ลูกสาวท่านอย่างนั้นหรอ งานเลี้ยงเมื่อคืน อย่าบอกนะว่าลูกสาวท่านก็อยู่ปีหนึ่งมหาวิทยาลัยเดียวกันน่ะ “ครับ” ผมตอบความจริงครึ่งเดียวเท่านั้น เฟรชชี่ไนท์น่ะเลิกห้าทุ่ม แต่ผมไปต่อกับเพื่อนถึงตีหนึ่งกว่าไง กว่าจะถึงบ้านก็ตีสอง บวกกับเมื่อคืนดื่มไปด้วยอาการก็เลยเป็นแบบนี้ “มาๆ นั่งกันก่อน เพื่อนๆ คนอื่นยังไม่มาเราก็นั่งกันสองคนรอเพื่อนไปก่อนแล้วกันนะ แล้วคุณนัยล่ะวันนี้ไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ ทุกทีเห็นมาด้วยตลอดนี่” แม่ผมดึงเพื่อนให้มานั่งลงข้างท่าน “มาสิ วันนี้พาน้องมาด้วยนะ ต้องกลับไปทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่พรุ่งนี้น่ะ เลยแวะไปรับมา เห็นประภาบ่นๆ อยากเจอ” “ดีจริง วันนี้ตาแดนก็อยู่ จะได้ทำความรู้จักกันไว้ ยังไงก็เรียนที่เดียวกัน” “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมต้องรีบกลับแล้ว แม่วางแผนแนะนำลูกสาวเพื่อนให้ผมรู้จักแน่นอน ไม่น่าล่ะทำไมเมื่อเช้าถึงดึงดันจะให้ผมมาส่งให้ได้ คงเพราะอยากให้รู้จักกับลูกเพื่อนนี่เอง “อย่าเพิ่งไปตาแดน อยู่ทักทายลุงนัยสามีแม่ดาก่อน อ้าวนั่นไง มาพอดีเลย” แม่เหมือนจะรู้ทันความคิดผม อ้างเรื่องมารยาทให้ผมอยู่ทักทายผู้ใหญ่ซะอย่างนั้น “ครับ” ผมตอบท่านได้แค่นั้น ถึงยังไงก็เถียงไม่ชนะท่านอยู่แล้ว “สวัสดีค่ะคุณนัย ไม่เจอกันนานเลยนะคะ สบายดีหรือเปล่า” คุณแม่ทักทายสามีของเพื่อนท่านอย่างอารมณ์ดี ท่านคงคุ้นเคยกันมานาน “สบายดีครับ ประภายังสวยเหมือนเดิมเลยนะ แล้วนี่คุณกรณ์ไม่ได้มาด้วยกันหรอ” ท่านพูดคุยกับแม่ผมอย่างคนคุ้นเคยเช่นกันก่อนจะมองมาทางผมอย่างยิ้มแย้ม ผมจึงยิ้มตอบกลับให้ท่าน แล้วก็ตกใจเล็กน้อยที่เห็นผู้หญิงที่เดินตามหลังท่านมาคือน้อง ผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะคิดถึง เธอเองก็ดูตกใจที่เห็นผมเหมือนกัน “ติดธุระค่ะ เสร็จธุระแล้วจะตามมา ตาแดนทักทายลุงนัยสิลูก นั่นหนูน้องใช่หรือเปล่า โตขึ้นมากเลยนะดา สวยน่ารักจริง มาๆ ให้แม่กอดสักที ตอนเล็กๆ ว่าน่ารักเหมือนตุ๊กตา โตขึ้นมากลายเป็นสาวสวยน่ารักขนาดนี้เลยนะคะเนี่ย” แม่ผมพูดไม่ผิด เธอน่ารักเหมือนตุ๊กตาจริงๆ โดยเฉพาะลักยิ้มใต้ตาคู่นั้น ที่ผมคุ้นเคยเพราะได้เจอแม่ของเธอบ่อยๆ และเธอก็ยิ้มสวยเหมือนแม่ของเธอนั่นเอง และตอนนี้เธอก็ยิ้มให้แม่ของผมแบบนั้น “สวัสดีครับ” ผมไหว้ทักทายลุงนัยสามีเพื่อนแม่หรือก็คือพ่อของน้องนั่นเอง โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว บัดดี้ผมกลายเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่ซะอย่างนั้น “สวัสดีค่ะแม่ภา” เธอไหว้ทักทายแม่ของผม แถมยังเรียกท่านว่าแม่อีกต่างหาก ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกดีแปลกๆ แม่ผมคงจะชอบเธอมากท่านกอดเธอใหญ่เลย คงเพราะแม่อยากมีลูกสาวมานาน ท่านก็เลยเอ็นดูน้องเป็นพิเศษ “ทำความรู้จักกันไว้สิลูก ยังไงก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน” แม่คงเริ่มดำเนินการจับคู่ให้เราแล้ว รู้จักกันแล้วครับ” ผมตอบท่าน “รู้จักกันหรอ” แม่ๆ ของเราพูดขึ้นพร้อมกันอย่างสงสัย พ่อของน้องก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกัน “เราเป็นบัดดี้กันค่ะ” น้องไขข้อสงสัยในใจของผู้ใหญ่ทั้งสามคน “บัดดี้ ยังไงกันลูก” แม่ผมถามอย่างสงสัย “ป๊าว่านั่งกันก่อนดีกว่านะ ค่อยคุยกัน” พ่อของน้องพูดกับพวกเรา บอกให้นั่งลงแล้วค่อยอธิบายให้พวกท่านทราบ “บัดดี้ คือ น้องจะอธิบายยังไงดีนะ เป็นการจับคู่หูค่ะ แบบว่าจับคู่ทำกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยร่วมกันค่ะ เป็นกิจกรรมหนึ่งของการรับน้อง บางคนก็ได้บัดดี้เป็นเพื่อนผู้หญิง หรือเพื่อนผู้ชายเหมือนกัน แต่พอดีน้องกับแดนได้เป็นบัดดี้คู่ชายหญิงค่ะ เพื่อนๆ น้องหลายคนก็คู่ชายหญิงนะคะ เพราะแบบนี้เราก็เลยรู้จักกันน่ะค่ะ” เธอรีบอธิบายยาวเหยียดไม่ให้โอกาสผู้ใหญ่ได้ถามเลยสักนิด “ครับ ก็เป็นแบบที่น้องว่า เราก็เลยรู้จักกันครับ” ผมพูดเสริมนิดหน่อยเมื่อแม่ผมมองมาอย่างจับผิด “ก็ดีแล้ว ลูกๆ จะได้เป็นเพื่อนกันรู้จักกันเอาไว้ ยังไงป๊าก็ฝากแดนดูน้องหน่อยนะ มีปัญหาเรื่องเรียนเรื่องการใช้ชีวิตที่มหาลัยก็บอกป๊าได้” ท่านฝากฝังลูกสาวท่านไว้กับผมอย่างอารมณ์ดี “ครับ” ผมไม่แปลกใจที่เธอจะอารมณ์ดีตลอดเวลาที่ผมพบเธอ เพราะพ่อแม่เธออารมณ์ดีและมองโลกในแง่ดีแบบนี้นี่เอง และอีกอย่างท่านคงวางใจผมเพราะคิดว่าเป็นลูกเพื่อนสนิทด้วย “ป่าป๊า ไปเที่ยวกันค่ะ ให้หม่าม้าคุยกับแม่ภาตามประสาสาวๆ นะคะ เราไปกันดีกว่า น้องขอตัวป่าป๊าไปกับน้องก่อนนะคะ พวกคุณแม่คุยกันให้สนุก เสร็จแล้วค่อยโทรบอกน้องนะคะ” เธอจะไปแล้วอย่างนั้นหรอ “ให้ป่าป๊าของหนูอยู่คุยกับแม่ๆ ดีกว่าลูก หนูกับตาแดนไปเที่ยวแถวนี้กันก่อน เสร็จแล้วเดี๋ยวแม่โทรบอกนะ อีกเดี๋ยวเพื่อนๆ คนอื่นก็มา เดี๋ยวคุณกรณ์ก็มาแล้วค่ะ คุณนัยมีเพื่อนคุยแน่นอนไม่ต้องห่วง” ตอนแรกท่านก็คุยกับพวกเราอยู่หรอก แต่ท้ายประโยคกลับรั้งพ่อของน้องไว้ให้คอยเจอกับเตี่ยผมซะอย่างนั้น แม่มีแผนแน่ๆ มีหรือที่ลูกชายอย่างผมจะไม่ทันเกมท่าน “แต่ว่าป่าป๊าสัญญากับน้องแล้วนี่คะว่าจะไปเที่ยวกันสองคน น้องว่าจะพาป่าป๊าไปดูหนังเข้าใหม่รอหม่าม้าด้วย” เธออ้อนพ่อได้น่ารักมากๆ ผมดูๆ ท่านก็คงจะใจอ่อนกับลูกสาวน่าดู แม่ของผมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ็นดูเธอจนออกนอกหน้าเลยทีเดียว “ให้ป่าป๊าอยู่คุยกับแม่ๆ ที่นี่แหละเดี๋ยวจะมีเพื่อนๆ ตามมาอีกหลายคน น้องก็ไปเที่ยวกับแดนแทนป่าป๊าแล้วกัน วัยรุ่นเที่ยวด้วยกันคงสนุกกว่าไปกับผู้ใหญ่” แม่ของน้องช่วยพูดเสริมแม่ของผม หรือว่าท่านทั้งคู่คิดจะจับคู่ให้เราจริงๆ พ่อเธอรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่านะ ผมมองหน้าท่านแต่ท่านไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรให้ผมรู้ได้เลยว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD