จุดเริ่มต้น

1543 Words
จุดเริ่มต้น เส้นทางเบื้องหน้าที่มืดมิดและเงียบงัน ในตอนนี้มีเพียงแสงไฟส่องสว่างตามทางเดินที่ทอดยาวไปสู่อาคารสีขาวขนาดใหญ่เพียงเท่านั้นที่พอจะทำให้มองเห็นทางเดินข้างหน้า ห้องโถงกว้างของอาคารเรียนแห่งนี้คือจุดเริ่มต้นของจุดมุ่งหมายในคืนนี้ของผม งานรับน้องของมหาวิทยาลัยในช่วงกลางวันผ่านไปแล้ว จะเหลือก็แต่กิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ของเราปีหนึ่งเท่านั้น ป้ายประกาศขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ภายในโถงอาคารเรียนอย่างเป็นระเบียบ ผมเดินดูรายชื่อ “บัดดี้” ของผมที่ทางมหาวิทยาลัยจับคู่ให้เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันในคืนนี้ รายชื่อของนักศึกษาปีหนึ่งทุกคนติดประกาศไว้ตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว แต่ช่วงเวลานั้นคนเยอะและวุ่นวายเกินไป ผมไม่ชอบความวุ่นวายแบบนั้นเลยเลือกจะมาดูรายชื่อเอาตอนนี้ และก็มีหลายคนที่คิดแบบเดียวกันกับผม สายตาของผมไล่มองหารหัสนักศึกษาของตัวเองจนพบเข้ากับรายชื่อหนึ่ง “ขวัญสุดา เพียงพิทักษ์” ผู้หญิงอย่างนั้นหรอ เธอเขียนเบอร์ติดต่อเอาไว้แล้วเรียบร้อย ผมอารมณ์ดีขึ้นมากเมื่อคิดได้ว่างานวันนี้คงจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ผมใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาจอดยังสถานที่จัดงานในคืนนี้ แล้วกดโทรออกหาบัดดี้ของผมฟังเสียงเพลงรอสายอยู่ไม่นานเธอก็รับสาย (สวัสดีค่ะ) เสียงที่ได้ยินปลายสายนั้นอ่อนหวานและน่ารักมาก น่ารักซะจนผมอยากจะเห็นหน้าเจ้าของเสียงนั้นโดยเร็ว “สวัสดี เราเป็นบัดดี้ของเธอ” (อ๋อค่ะ มาถึงหรือยังคะ น้องยืนรออยู่แถวศูนย์หนังสือ สะดวกมาที่นี่หรือเปล่า) “ครับ” (น้องสะพายกระเป๋ารูปตุ๊กตาหมีคุมะสีน้ำตาลนะคะ อืม..... แล้วก็ น้องมัดผมจุกสองอันบนหัวด้วย ยืนอยู่กับเพื่อนสี่คน) “ครับ อีกเดี๋ยวพบกัน” ผมกดตัดสายเธอไปแล้ว ผมมองเห็นจากไกลๆ ว่าบัดดี้ผมน่าจะเป็นคนไหน ในบรรดาผู้หญิงหลายคนที่ยืนอยู่หน้าศูนย์หนังสือ กลุ่มเธอดูจะเด่นหน่อยเพราะยืนใกล้แสงไฟส่องสว่างผมเลยมองเห็นได้ชัดเจน คนสายตาดีแบบผมมองครั้งเดียวก็รู้ว่าบัดดี้ของผมคนไหน วันนี้เราแต่งตัวคล้ายกันหมดทุกคน แต่เธอดูเด่นตรงผมจุกสองอันบนหัวจริงๆ ทำให้ผมนึกถึงตัวละครหญิงในเกมต่อสู้ที่ผมเคยเล่นสมัยเด็ก และเธอคนนี้ก็เหมือนเด็กชะมัดเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ตอนนี้กำลังเธอยืนหันหลังให้ผมอยู่ “ไอ้แดน มาถึงนานหรือยัง” ไอ้เดียวเพื่อนสนิทของผมเดินเข้ามาทัก ผมเห็นว่ามันมาคนเดียวคงจะยังไม่เจอบัดดี้ของตัวเอง “เพิ่งมา มึงยังไม่เจอบัดดี้หรือไง” “เจอแล้ว นั่นไง” ไอ้เดียวชี้ไปทางกลุ่มหญิงสาวที่บัดดี้ของผมกับเพื่อนของเธอยืนอยู่ “อืม กูก็เพิ่งเจอ คนที่มีจุกสองอันบนหัว” ผมชี้ไปยังหญิงสาวที่ยืนหันหลังให้เราพร้อมบอกลักษณะเด่นที่เธอบอกผมทางโทรศัพท์ให้เพื่อนรู้ “บังเอิญฉิบเป๋ง” ไอ้เดียวรีบเดินไปยังกลุ่มสาวๆ ที่ยืนอยู่ แล้วเรื่องบังเอิญอีกเรื่องก็คือ ไอ้ดินเพื่อนสนิทผมอีกคนก็อยู่ที่นี่ด้วยบัดดี้ของมันดันเป็นเพื่อนสนิทของบัดดี้ผมซะอย่างนั้น ทักทายกันได้ไม่นานไอ้ดิฟเพื่อนสนิทคนสุดท้ายของกลุ่มเราก็ตามมา ตอนนี้กลายเป็นว่าเราสี่คนมีบัดดี้กลุ่มเดียวกันซะอย่างนั้น “บังเอิญจังนะ กลุ่มเราเป็นเพื่อนสนิทกันหมดเลย น้ำเป็นบัดดี้ดิน หนึ่งเป็นบัดดี้เดียว แล้วก็นุ่มนิ่มเป็นบัดดี้ดิฟ เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องบังเอิญที่สุดในชีวิตน้องแล้วแน่ๆ อิ อิ อิ” เธอเริ่มต้นบทสนทนาเป็นครั้งแรก ผมเลยเพิ่งจะได้สังเกตเธอใกล้ๆ อย่างชัดเจน เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงสวยชวนมองคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอมีรอยยิ้มที่น่ารักมาก โดยเฉพาะลักยิ้มใต้ตาทั้งสองข้างเวลาที่เธอยิ้มโดนใจผมชะมัด รอยยิ้มแบบนี้ผมเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็ช่างมันเถอะคงจะเป็นผู้หญิงสักคนที่ผมเคยพบ บัดดี้ของผมคนนี้รูปร่างดีทีเดียว ผิวของเธอขาวอมชมพูดูสุขภาพดี และเธอก็สูงแค่หน้าอกของผมเท่านั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่ดูบอบบางมากจริงๆ “อื้ม” ผมทำเพียงตอบรับในลำคอ เพราะมัวแต่มองหน้าเธอเลยไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี “แดนกับเพื่อนๆ สูงกันมากเลยนะ ดูขากางเกงเลสิ สั้นเต่อเลย อิอิอิ” เธอชี้ให้ดูกางเกงของผมที่ยกสูงขึ้นมาเลยจากข้อเท้าไปมาก จะโทษใครได้นอกจากสรีระของพวกผมเอง เราสี่คนจัดว่าเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสูงเกินกว่ามาตรฐานชายไทย “ปกติเราเท่มากกว่านี้นะ แต่กางเกงเลกับเสื้อม้อฮ่อมแบบนี้ไม่ค่อยเข้ากับเราเท่าไหร่ ไซซ์เสื้อผ้าของทางมหาวิทยาลัยก็ยาวที่สุดเท่านี้เอง” “เสื้อก็สั้นนะ อิ อิ อิ แต่จะว่าไปแดนคงใส่แค่ไม่กี่ครั้งหรอกจริงหรือเปล่า” เธอดึงชายเสื้อของผมเบาๆ แล้วก็ยิ้มขำอย่างน่ารัก “เส้นตื้นเกินไปหรือเปล่าเนี่ย” ผมอมยิ้มน้อยๆ แซวอาการขำขันแบบน่ารักของเธอ “น้องเป็นคนอารมณ์ดี ถ้าแดนเจอน้องบ่อยๆ เดี๋ยวก็คงชิน อาการแบบนี้ปกติมาก” ถ้าเจอบ่อยๆ งั้นหรอ เธอจะบอกว่าเราจะได้พบกันมากขึ้นแบบนั้นใช่หรือเปล่า “อื้ม ถ้าได้เจอบ่อยๆ นะ เราไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ ตรงนั้นเถอะ” “เขตต์แดน อเนกนาวิน” คือผู้ชายที่นั่งอยู่ทางด้านหลังของฉันในตอนนี้ ฉันเขียนเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ให้บัดดี้ของฉันที่บอร์ดรายชื่อในอาคารเรียนรวม แล้วตอนนี้ฉันก็พบว่าบัดดี้ของฉันนอกจากจะเป็นผู้ชายแล้วยังหล่อมากอีกด้วย ใบหน้านิ่งๆ ที่ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกของเขามีพลังดึงดูดแปลกๆ ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเขาทำฉันใจเต้นรัว ผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยยิ้มแต่กลับมีเสน่ห์น่าค้นหา คิ้วดกเข้มของเขาเรียงตัวอย่างสวยงาม ดวงตากลมเรียวดุๆ นั่นก็น่ามองเหลือเกิน ฉันไม่อาจสบตากับเขาได้นานเพราะรู้สึกเขินจนต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้านี้สายตาเขาทุกครั้ง จมูกโด่งเข้ารูปกับรูปทรงใบหน้าที่ลงตัว ปากสีแดงสดนั่นก็น่ารักเข้ากับใบหน้าของเขา สรุปแล้วเขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าหล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา หล่อเหมือนพระเอกซีรีส์จีนที่หลุดออกมาจากโลกนิยายยังไงอย่างนั้น แต่จะติดก็ตรงที่เขาสูงเกินไปเพราะเมื่อฉันได้ยืนใกล้ๆ เขาก็พบว่าฉันสูงเพียงแค่หน้าอกของเขาเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่สำคัญเพราะพระเอกในซีรีส์ที่ฉันดูก็สูงกว่านางเอกในระดับนี้แทบจะทั้งนั้น พระเอกนางเอกอย่างนั้นหรอ นี่เธอเพิ่งเจอเขาครั้งแรกเธอก็อยากเป็นนางเอกของเขาแล้วอย่างนั้นหรอ บ้าจริงเชียว “น้อง ถอดด้ายให้เราหน่อยสิ” เสียงแดนเรียกฉันให้ตื่นจากภวังค์ความคิดเพ้อเจ้อของฉัน เขายื่นแขนข้างที่รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งผูกด้ายให้เขามาตรงหน้าฉัน “ได้สิ” ฉันแก้ปมด้ายและถอดมันออกจากแขนพร้อมกับยื่นด้ายเส้นนั้นคืนให้เขา “ยื่นแขนน้องมาสิ คิดว่าเป็นของขวัญวันพบหน้าของเราสองคนแล้วกันนะ” เขาผูกด้ายของเขาให้กับฉัน แล้วยังบอกว่าเป็นของขวัญอีก ทำไมกันนะ ฉันตั้งคำถามกับตัวเองในใจไม่กล้าที่จะถามเขาออกไปตรงๆ “ขอบคุณนะ” ฉันทำได้แค่ขอบคุณและยิ้มให้เขาเท่านั้น “กิจกรรมในค่ำคืนนี้จบลงเพียงเท่านี้นะคะ ขอให้น้องๆทุกคนเดินทางกลับที่พักโดยสวัสดิภาพ และพบกันอีกครั้งในงานเฟรชชี่ไนท์นะคะ “กลับเถอะเดี๋ยวเราเดินไปส่งที่รถ” เขาแตะไหล่ฉันให้หันกลับไปทางออกของงาน เขาคงตั้งใจจะเดินไปส่งฉันจริงๆ “เรามากับเพื่อน ไม่ต้องไปส่งหรอก เรากลับกันเองได้ ขอบใจนะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ ตามใจน้อง” เขายังคงพูดด้วยสีหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ ผู้ชายคนนี้เย็นชาชะมัด “เรากลับก่อนนะ แล้วเจอกันในงานเฟรชชี่ไนท์นะ” ฉันยิ้มและโบกมือลาเขา “อื้ม แล้วเจอกัน” เขาโบกมือตอบและยิ้มให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉันกับเขาจะได้เจอกันอีกหรือเปล่านะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD