บังเอิญว่าแม่ของเราเป็นเพื่อนรักกัน5

1559 Words
“สวัสดีค่ะ มากันกี่ท่านค่ะ” พนักงานต้อนรับเข้ามาทักทายเรา “โต๊ะที่คุณพรประภาจองไว้ครับ” “เชิญด้านนี้ค่ะ” พนักงานเดินนำเราขึ้นบันไดไปชั้นสอง ความจริงพนักงานไม่ต้องนำไปก็ได้ ผมมาร้านนี้บ่อยๆ เพราะเตี่ยมารับรองลูกค้าที่ร้านนี้เป็นประจำ เดินตามพนักงานมาไม่นานเราก็ถึงห้องที่แม่จองไว้ นอกจากแม่ผมกับพ่อแม่ของน้อง เตี่ยผมก็มาถึงแล้วและยังมีเพื่อนแม่อีกสองคนเพิ่มมาด้วย “เด็กๆ มากันแล้วหรอ ไปเที่ยวไหนกันมาล่ะลูก” เป็นแม่ผมอีกเช่นเคยที่ยิ้มดีใจที่ได้เจอน้อง ไม่ได้สนใจผมสักเท่าไหร่ เรายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกท่านก่อนจะไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างไว้ “ไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ค่ะ เดินข้ามแยกไปนิดหน่อยเองค่ะ” น้องยังคงพูดจาฉะฉานน่ารักกับพวกผู้ใหญ่เหมือนเคย “จำแม่วดีกับแม่พิมพ์ได้หรือเปล่าลูก” แม่ของน้องชี้ชวนให้ทำความรู้จักกับเพื่อนท่าน “จำได้ค่ะ” “แดนล่ะลูก พอจะจำได้ไหม” ท่านหันมาถามผมบ้าง “จำได้ครับ แม่ๆ สบายดีไหมครับ” ผมทักทายพวกท่านกลับ “สบายดีจ้า โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว สวยหล่อกันเชียว เธอสองคนนี่วาสนาดีนะเนี่ย” เพื่อนคุณแม่แซวแม่ๆ ของเราท่านก็ยิ้มหน้าบานกันทั้งคู่ “ขอบคุณนะ คิดถึงจังไม่ได้กินตั้งหลายเดือนแล้ว” ผมตักฮ่อยจ๊อที่น้องบ่นอยากกินให้เธอสองชิ้น เธอยิ้มให้ผมก่อนจะลงมือแบ่งมันออกเป็นคำแล้วเริ่มลงมือกินทีละชิ้น เธอพูดกับอาหารตรงหน้าก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแววตามีความสุขมาก นี่อาจจะเป็นเมนูโปรดของเธอ “กินเยอะๆ นะลูก แม่สั่งของชอบพวกเราทั้งนั้น” แม่ผมยิ้มเอ็นดูกับท่าทางการกินของน้อง แถมยังกระซิบอะไรบางอย่างกับเตี่ยผมอีกต่างหาก เตี่ยก็ยิ้มน้อยๆ กับคำพูดของแม่ผมตลอด “พวกคุณแม่ก็ทานเยอะๆนะคะ” น้องตักผัดผักปวยเล้งน้ำมันหอยให้พ่อของเธอและตักอีกช้อนให้ผม “ขอบคุณนะ” ถึงจะไม่ค่อยชอบผัดผักปวยเล้งน้ำมันหอยสักเท่าไหร่แต่ผมก็กินมันจนหมด “น้องชอบน่ะ ไม่รู้แดนชอบหรือเปล่า” เธอยิ้มให้ผม และดูอารมณ์ดีจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่กำลังกินอยู่ “วันนี้เจ้าแดนกินอาหารได้เยอะเลย ปกติเรื่องมากแล้วก็ชอบเลือกกินแต่วันนี้กลับกินหลายอย่างที่ไม่ชอบได้ วันหลังหนูน้องต้องมาทานข้าวที่บ้านเตี่ยบ่อยๆ แล้วนะ” เธอพยักหน้าแล้วยิ้มให้เตี่ยผมอย่างเขินๆ “วันหลังถ้าไประยองก็แวะไปหาป๊ากับม้าบ้างนะแดน เดี๋ยวจะพาไปกินบะหมี่เจ้าอร่อย เห็นคุณกรณ์บอกว่าชอบกินบะหมี่ใช่หรือเปล่า” พ่อของเธอชวนผมคุยบ้าง ท่านคงเห็นว่าผมพูดน้อยกระมัง “ครับ แล้วผมจะไปเยี่ยมนะครับ” “นี่แดนไม่ชอบกินอะไรบ้าง น้องไม่รู้ก็เลยสุ่มตักไปทุกอย่างเลย” เธอหันมากระซิบถามผมที่เริ่มอิ่มกับอาหารตรงหน้าแล้ว “ก็กินได้ทุกอย่างนั่นแหละ อย่าไปฟังที่เตี่ยพูดเลย” ผมไม่อยากให้เธอเข้าใจว่าผมเรื่องมากเรื่องอาหารการกิน ถ้าเลือกไม่ได้ผมก็กินได้หมด แต่ถ้าเลือกได้ผมก็อยากเลือกกินแต่ที่ผมชอบเท่านั้น “จะไปไหนแดน” แม่ถามเมื่อเห็นผมลุกออกจากโต๊ะที่ท่านยังคงสนทนาสนุกสนานกับเพื่อนๆ อยู่ “เข้าห้องน้ำครับ” “งั้นมาลาพวกแม่ๆ ก่อน อีกเดี๋ยวก็จะกลับกันแล้ว” แม่ผมเรียกให้มาหาเพื่อนท่าน “เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะครับ” ผมเดินเข้าไปหาแล้วยกมือไหว้พวกท่านก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เสร็จธุระออกมาก็สวนเข้ากับพ่อของน้องและเตี่ยของผมที่คงมาเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับนั่นเอง “อ้าวแดน ป๊านึกว่ากลับแล้วซะอีก” “กำลังจะกลับครับ ออกมากันหมดแล้วหรอครับ” “พวกแม่ๆ กลับกันแล้ว เหลือเราสองคนนี่แหละมาเข้าห้องน้ำกันก่อนน่ะ เออนี่........ ป๊าขอฝากอะไรอย่างสิ” ท่านทำท่าคิดบางอย่างก่อนจะตัดสินใจพูดกับผม “ครับ” “ช่วยป๊าดูแลน้องหน่อยนะ ลูกสาวป๊าน่ะใจดีกับทุกคน ป๊าก็กลัวว่าจะเจอคนไม่ดีรังแก ถ้าไม่รบกวนแดนเกินไปก็ช่วยดูให้ป๊าหน่อย” ท่านพูดอ้อมๆ แต่ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่าท่านคงหวงลูกสาว ก็น่าหวงอยู่หรอกลูกสาวท่านสวยน่ารักขนาดนั้น “ที่คุณนัยอยากบอกคือ ให้ช่วยกันท่าผู้ชายที่เข้ามาจีบลูกสาวให้หน่อย ผมพูดถูกหรือเปล่าครับ” เตี่ยผมช่วยขยายความให้คงกลัวว่าผมจะไม่เข้าใจที่พ่อของน้องพูด แต่ผมเข้าใจที่ท่านต้องการสื่อดี “คุณกรณ์ก็พูดตรงไป ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ ผมมีลูกสาวคนเดียว คุณคงเข้าใจ เข้าใจป๊าหรือเปล่าแดน ยังไงป๊าฝากด้วยนะ” ในที่สุดท่านก็ยอมพูดออกมาตรงๆ “ครับ” ผมรับคำท่าน ยังไงท่านก็เป็นเพื่อนแม่ ช่วยท่านเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน ผมบอกกับตัวเองในใจ ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนของน้องเลยจริงๆ “แต่คุณนัยก็อย่าคาดหวังมากเลยนะครับ ลูกชายผมคนนี้มันเป็นพวกเจ้าชู้ กลัวจะทำหนูน้องเสียใจเองซะมากกว่า จะกลายเป็นว่าคุณนัยเอาปลาย่างไปฝากไว้กับแมวหรือเปล่า” เอาแล้วไงเตี่ยเล่นขายผมซะแล้ว พ่อของน้องเลิกคิ้วมองหน้าผมอย่างใช้ความคิด “ผมยุ่งแต่กับคนที่สนใจผมนะเตี่ย ใครไม่มองผม ผมก็ไม่ยุ่งกับเขาหรอก” ผมรีบแก้ตัวให้ตัวเอง “คุณกรณ์พูดมาแบบนี้ผมก็ลังเลสิครับ ผมมีปลาย่างแค่ตัวเดียวแบบนี้ ผมก็อยากยกปลาย่างให้แมวที่อยากกินแค่ปลาย่างตัวนี้ซะด้วยสิ” ท่านยังคงคุยกับพวกเรานิ่งๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกอะไร “ป๊าอย่ากังวลไปเลยครับ ผมสัญญากับป๊าได้เลย ถ้าผมกับน้องใจไม่ตรงกัน ผมจะไม่ทำให้น้องเสียใจเพราะรักผมเด็ดขาดครับ” ในเมื่อผู้ใหญ่ไว้ใจให้ผมช่วยดูแลเธอ ผมก็จะลองพยายามดู มันไม่ได้มากมายอะไรถึงกับทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมไม่ได้มีคนที่ชอบและยังไม่อยากคบใครจริงๆ จังๆ การจะกันท่าผู้ชายที่เขามายุ่งเกี่ยวกับน้องตามคำขอของพ่อเธอก็ไม่ใช่เรื่องนักหนาอะไร ผมคิดว่าสามารถช่วยท่านได้ “ถ้าอย่างนั้นป๊าขอคิดว่านี่คือสัญญาลูกผู้ชายระหว่างเราแล้วกันนะ” ท่านจับมือกับผมเป็นการทำสัญญาระหว่างเราทั้งคู่ “ครับ สัญญาลูกผู้ชาย” “ถ้าอย่างนั้นผมก็เป็นพยานแล้วกันนะครับ” เตี่ยผมเข้ามาร่วมจับมือทำสัญญากับพวกเราด้วย “ลงไปหาแม่ข้างล่างเถอะ ทุกคนลงไปกันหมดแล้ว เตี่ยไปเข้าห้องน้ำก่อน” “ครับ เจอกันข้างล่างนะครับป๊า” “อืม ได้ๆ” ผมเดินตามทางลงไปก็พบแม่ผมกำลังยืนคุยกับน้องและแม่ของเธออยู่บริเวณที่จอดรถ เพื่อนๆ คนอื่นของท่านคงกลับกันหมดแล้ว “ทำไมมายืนคุยกันตรงนี้ล่ะครับ อากาศมันร้อนนะ” ผมเดินมายืนข้างๆ น้อง “นั่งนาน ขอยืนยืดเส้นกันหน่อย ไปนานเลยนะเรา เห็นเตี่ยหรือเปล่าบอกไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วยังไม่มาอีก” “เจอครับ คนเยอะน่ะแม่ เดี๋ยวก็ตามลงมา” “กลับก่อนก็ได้นะลูก เดี๋ยวหม่าม้าก็จะกลับแล้ว” “เดี๋ยวรอส่งม้ากับป๊าก่อนครับ” “เอาแบบนั้นก็ได้” “มากันแล้วค่ะหม่าม้า” น้องบอกกับแม่ๆ เมื่อเห็นว่าเตี่ยผมกับป๊าของเธอออกมากันแล้ว “เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะครับ ค่อยๆ ขับนะครับป๊า” ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอีกครั้ง “ตั้งใจเรียนนะลูก จบมาจะได้ช่วยพ่อแม่ทำงาน” แม่ของน้องเข้ามากอดผมและลูบหลังผมอย่างรักใคร่ “น้องน้องก็เหมือนกันนะลูก ตั้งใจเรียน จบแล้วก็มาทำงานที่บริษัทก็ได้แม่กับเตี่ยตาแดนยินดีต้อนรับ” เธอกอดตอบแม่ผมและยิ้มให้พวกท่านอย่างน่ารัก รอยยิ้มแบบนี้จะไม่ให้พ่อเธอหวงได้ยังไงกัน ท่านคุยกันอีกเล็กน้อยเตี่ยกับแม่ก็แยกตัวไปขึ้นรถที่คนขับรถติดเครื่องรออยู่ ผมเดินไปส่งน้องกับครอบครัวขึ้นรถ เมื่อทุกคนกลับไปแล้วผมก็ไปขึ้นรถของตัวเองและขับกลับคอนโด คงไปนอนพักเอาแรงสักหน่อย เพราะคืนนี้ผมมีนัดกับเพื่อนๆ ที่วีคลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD