ดวงใจมาร [ 04 ] เปลี่ยนใจ

1221 Words
@โรงพยาบาล "อาการของน้องชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ" วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำงานก็เลยอาสาพาน้องชายมาหาหมอเอง และก็อยากรู้อาการของแกด้วยว่าต้องรักษาหรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า "อืม...เท่าที่หมอตรวจดู เราต้องผ่าตัดนะครับ" "ผ่าตัด!? ผ่าตัดอะไรคะคุณหมอ ไหนบอกว่าแกไม่ต้องผ่าตัดอะไรไงคะ" ฉันเคยมาคุยกับคุณหมอครั้งหนึ่งแล้ว คุณหมอบอกว่าอาการของน้องชายฉันไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เพราะต่อให้ผ่าตัดไปก็ไม่สามารถกลับมาเดินได้อยู่ดี "ตอนแรกหมอก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่เท่าที่เอกซเรย์ดูถ้าผ่าตัดเส้นเอ็นที่ทับเส้นประสาทตรงนี้ออก อาจจะทำให้น้องชายของคุณกลับมาเดินได้นะครับ" "แต่แกไม่เคยเดินมาตั้งแต่เด็กแล้วนะคะ แกจะหัดเดินยังไง" "ก็ฝึกเดินคล้ายๆ กับเด็กน้อยแหละครับ" "แล้วค่าใช้จ่าย..." "ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยครับ แต่หมอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าผ่าตัดจะดีกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายหมอจะให้ผ่อนจ่ายได้เป็นงวดครับ แต่ก่อนผ่าตัดต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งก่อนครับ" "แล้วถ้าไม่ผ่าตัดล่ะคะแกจะเป็นอะไรหรือเปล่า" "ก็ไม่เป็นอะไรครับ แต่ในอนาคตข้างหน้าหมอก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เส้นเอ็นที่ทับเส้นประสาทอยู่อาจจะทับลงไปอีกและทำให้น้องชายของคุณพิการไปทั้งตัวได้นะครับ" "พิการไปทั้งตัว?" "ก็เหมือนกับคนเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตแหละครับ ไม่สามารถช่วยเหลือไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวเองได้ ต้องนอนนิ่งๆ เฉยๆ ไปตลอดชีวิตครับ" "....." คำพูดของคุณหมอก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งมีการให้ผ่อนจ่ายแบบนี้ด้วย แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงน้องชายกลัวว่าผ่าตัดไปแล้วแกจะเป็นอะไร แต่ถ้าปล่อยไปแบบนี้แกก็อาจจะได้รับผลกระทบในระยะยาวอย่างที่คุณหมอบอก ฉันอยากให้น้องเดินได้ อยากให้น้องใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป แกคงจะมีความสุขมากกว่าการได้นั่งรถเข็นแล้วออกไปไหนไม่ได้เลยแบบนี้ เด็กในวัยแบบแกน่าจะได้เดินเล่นวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ มากกว่า "แล้วถ้าต้องจ่ายก้อนแรกก่อนผ่าตัดประมาณเท่าไหร่เหรอคะ?" "ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทครับ เป็นค่าอุปกรณ์ในการผ่าตัดครับ" "....." เงินจำนวนนั้นมันมากโขอยู่เหมือนกันนะ เงินเก็บในบัญชีก็มีไม่พอที่จะจ่ายด้วย "ถ้าตรงส่วนนี้ทยอยจ่ายเอาได้หรือเปล่าคะ" "หมอเองก็ให้คำตอบไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะทางโรงพยาบาลจะเป็นคนจัดการเอง หมอมีหน้าที่แค่รักษาอาการคนไข้ครับ" "แล้วถ้าจะผ่าตัดคุณหมอจะกำหนดผ่าตัดเมื่อไหร่เหรอคะ?" "เมื่อร่างกายของคนไข้พร้อมครับ" "....." ฉันกลัวยังไงก็ไม่รู้น่ะสิ น้องชายของฉันไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดเลย แกคงกลัวมากแน่ๆ "ฉันขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะ" "ยินดีครับ" "ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ" "ครับ" ฉันเดินออกไปพาน้องชายกลับบ้าน ฉันไม่กล้าจะบอกเรื่องนี้กับแกเลย ฉันกลัวว่าแกจะกลัวเพราะแกเป็นเด็กที่ค่อนข้างอ่อนแอ กลัวอะไรแบบนี้มาก แต่ฉันก็คงจะตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ฉันต้องปรึกษาเรื่องนี้กับแม่ก่อน @เวลาผ่านไป "เป็นอะไรไปลูก ทำไมนั่งหน้าเครียดแบบนั้น" "น้องหลับแล้วเหรอจ๊ะแม่" "หลับไปเมื่อกี้เอง" "น้ำมีเรื่องจะปรึกษาแม่" "อะไรล่ะลูก?" "คุณหมออยากให้น้องผ่าตัด เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้เส้นประสาทอาจจะถูกทับจนกลายเป็นคนอัมพาตทั้งตัว แต่ถ้าผ่าตัดแล้วน้องก็มีโอกาสที่จะกลับมาเดินได้" "เหรอลูก แล้วหนูบอกคุณหมอไปว่ายังไง" "น้ำยังไม่ได้ให้คำตอบคุณหมอหรอกแม่ น้ำมาปรึกษาแม่ก่อน และค่าใช้จ่ายที่จะผ่าตัดมันก็สูงด้วย เงินบัญชีที่มีก็ยังไม่ถึงครึ่งที่จะต้องเอาไปจ่ายเลย เราจะไปหาหยิบยืมใครดีล่ะแม่" "แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันสิ แล้วต้องใช้เงินผ่าตัดเท่าไหร่ล่ะ?" "คุณหมอบอกว่าต้องจ่ายก่อนประมาณแสนห้า ส่วนค่าอื่นๆ สามารถทยอยจ่ายได้จ้ะ" "ตายจริงเงินเยอะแยะเลย!" "หรือว่าน้ำจะหางานเพิ่มอีกดีแม่" ในหัวของฉันมีแค่นี้แหละ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มก็ต้องหางานทำเพิ่มขึ้น แต่เมื่อไหร่ล่ะถึงจะพอค่าผ่าตัด "ให้แม่ไปช่วยทำงานมั้ยลูก" "อย่าเลยจ้ะแม่ น้ำทำคนเดียวจะดีกว่า แม่คอยอยู่ดูแลน้องเถอะ" "แม่เป็นห่วง" "แม่ไปพักผ่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้ำจะลองไปหางานเพิ่มดู" "....." ฉันรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่ฉันก็ห่วงแม่ไม่แพ้กัน ฉันจะปล่อยให้แม่ไปทำงานได้ยังไงกัน แล้วฉันจะไปหางานอะไรทำได้ล่ะเพราะงานที่ทำอยู่มันก็พอแรงแล้ว ทำทั้งกลางวันกลางคืนเลย หรือว่า...ฉันจะรับข้อเสนอของผู้ชายคนนั้นดี เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันได้เงินก้อนใหญ่แบบนั้นมาให้น้องชายผ่าตัด ฉันไม่ได้อยากขายศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ได้อยากขายตัวแลกกับเงิน แต่มันจำเป็นจริงๆ ที่ฉันจะต้องใช้เงินก้อนนั้น และมันก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันได้เงินมากพอในการผ่าตัด @ตกเย็นของอีกวัน ฉันกำมือแน่นอยู่หน้าคาสิโนที่เคยมาทำงาน มันทั้งตื่นเต้นรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ นี่ฉันต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนแบบนี้จริงๆ เหรอ "มาหาใครครับ?" "ฉันมาหาเจ้านายของพวกคุณ บอกเขาว่าฉันชื่อน่านน้ำมีเรื่องจะคุยด้วย" "รอสักครู่ครับ" "....." จนถึงตอนนี้หัวใจของฉันก็ยังเต้นตุบตับไม่เป็นท่า มันตื่นเต้นจนมือทั้งสองข้างของฉันเย็นเฉียบไปหมด "นายบอกว่าให้เข้าไปได้ครับ" "ขอบคุณค่ะ" ฉันเดินเข้าไปในห้องที่แอร์เย็นเฉียบอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา ซึ่งเขาก็นั่งหันหลังสูบบุหรี่อยู่ "ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอจะต้องคลานกลับมารับข้อเสนอของฉัน" "....." "ในที่สุดเธอก็เป็นคนมาหาฉันเอง โดยที่ฉันไม่ต้องลงแรงอะไรเลย" "เลิกพล่ามได้แล้ว ฉันต้องการเงิน แล้วจะให้ฉันทำอะไรก็บอกมา" "แก้ผ้าแล้วไปขึ้นเตียง" "ไหนเตียง?" "ในห้อง" ฉันมองไปที่ประตูห้องห้องนึง ซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนที่เขาบอก "เธอเต็มใจหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจฉันไม่เอา ฉันไม่ชอบมีอะไรกับคนที่ไม่เต็มใจ" "....." "ถ้าไม่เต็มใจก็กลับบ้านไป" "เต็มใจค่ะ!" ฉันกัดฟันพูดออกไป เพราะจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้จริงๆ "ถ้าอย่างนั้นก็ไปแก้ผ้าขึ้นเตียงรอ แล้วฉันจะตามไป" "ค่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD