ตอนที่ 2

1209 Words
“ชีวิตของฉันมีเงินทองมากมายก็จริง แต่คนที่อยู่รายรอบตัวฉันไม่มีใครที่จะจริงใจ ฉันเป็นนักธุรกิจ ฉันรู้ว่าคนทุกคนย่อมทำดีเพื่อหวังสิ่งตอบแทนเหมือนการลงทุนทั้งสิ้น แต่จะว่าไปฉันก็ไม่ถึงกับเดียวดายนักหรอกเพราะฉันยังมีลูกชายอยู่อีกคน...อีธาน...ลูกชายคนเดียวของฉัน แต่เขาค่อนข้างดื้อรั้นและไม่เคยยอมใครเลย ตอนนี้เขาดูแลงานให้ฉันอยู่ที่ประเทศเกาหลี อีธานเป็นคนจริงจังกับงานจนเรียกว่าบ้างานเลยล่ะ ฉันรอคอยว่าเขาจะมีครอบครัวเมื่อไหร่เพราะฉันอยากอยู่กับหลานในบั้นปลายชีวิต แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าลูกชายของฉันจะตกลงปลงใจกับใครสักที บางครั้งฉันกับเขาก็ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่อย่ากังวลไปเลยนะ เรื่องที่ให้เธอไปคอยดูแลฉัน...ฉันจะอธิบายให้เขาเข้าใจ” หญิงสาวระบายลมหายใจเบา ๆ ดูเหมือนนาธาเนียลจะไม่เป็นกังวลกับความรู้สึกลูกชายของเขาและคำกล่าวนั้นก็ทำให้ชาคริยาเบาใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพบเจออะไรข้างหน้า สำหรับตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือมารดาของเธอ เพราะนาธาเนียลจ่ายเงินมาให้เธอแล้วครึ่งหนึ่งและเธอก็นำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาและจ้างนางพยาบาลมาดูแลมารดาอย่างดีที่สุด ชาคริยานั่งรออีกสักครู่ก็มีรถเก๋งสีดำเป็นมันปลาบแล่นเข้ามาจอดและมีชายคนหนึ่งในชุดสุภาพก้าวลงมาจากรถคันนั้นและมุ่งตรงมายังเธอ “สวัสดีครับคุณชาคริยา...ผมเป็นคนของคุณนาธาเนียลครับ ท่านให้ผมมารับคุณไปที่สนามบิน” ชายคนนั้นกล่าวขึ้นแต่หญิงสาวก็ไม่ได้นึกแปลกใจเพราะมหาเศรษฐีสูงวัยได้บอกเธอเอาไว้ให้เตรียมตัวเพราะคนของเขาจะมารับ ร่างบางลุกจากที่นั่งขณะมีชายอีกคนเข้ามาหิ้วกระเป๋าของเธอไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถ หญิงสาวมองหน้าคนของนาธาเนียลก่อนเอ่ยถาม “ค่ะ...เอ้อ...แล้วนี่เราจะเดินทางไปแซนแฟรนซิสโกเลยเหรอคะ?” “ครับ...ผมจะพาคุณไปที่สนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของท่านเพื่อเดินทางไปยังแซนแฟรนซิสโกครับ” เขากล่าวและก้มศีรษะให้เล็กน้อยแสดงความนอบน้อมราวกับเธอเป็นคนสำคัญ หญิงสาวเปรยยิ้มน้อยๆ ก่อนเดินตามเขาไปขึ้นรถซึ่งก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปยังระเบียงด้านบนของห้องพักและเห็นมารดายืนโบกมือให้เธอพร้อมด้วยรอยยิ้ม ชาคริยาก้าวขึ้นรถด้วยความรู้สึกที่ว่าการตัดสินใจของเธอนั้นถูกต้องอย่างที่สุดแล้ว เพราะคงจะมีไม่กี่คนที่พบกับความโชคดีเช่นนี้ ได้รู้จักกับมหาเศรษฐีและได้ทำงานแลกกับเงินค่าจ้างสูงลิ่วที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้ได้ง่าย ๆ การเดินทางจากนิวยอร์คไปยังแซนแฟรนซิสโกด้วยเครื่องบินส่วนตัวของนาธาเนียลใช้เวลาเกินครึ่งวันและมีคนของมหาเศรษฐีนำรถลีมูซีนมารับเธอถึงสนามบินเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานที่แห่งใหม่ในชีวิตของชาคริยา นั่นมารีนาซึ่งมีอาณาเขตติดกับอ่าวแซนแฟรนซิสโกและเต็มไปด้วยบ้านแสนสวยของคนมีเงินในย่านที่แวดล้อมด้วยไม้ดอกและพันธุ์ไม้ดึงดูดสายตายิ่งนัก หญิงสาวมองผ่านกระจกรถด้วยความตื่นตาตื่นใจก่อนที่รถคันหรูจะพาเธอเข้าสู่อาณาจักรของตระกูลอัลเบิร์ตสันซึ่งเป็นคฤหาสน์หลังงามท่ามกลางทัศนียภาพอันตระการตาของท้องทะเลสีฟ้าคราม และเมื่อรถจอดลงสนิทหญิงสาวชาวเอเชียร่างเล็กจึงก้าวลงไปยืนด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยเห็น บ้าน ที่อลังการอย่างนี้มาก่อน เพราะแม้แต่ประตูทางเข้าก็ยังถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรจนเธอคิดว่าที่นี่เหมือนราชวังมากกว่าที่อยู่ของคนธรรมดา “เชิญด้านในครับ...คุณชาคริยา” บุรุษร่างสูงใหญ่ที่ไปรับเธอจากสนามบินเชื้อเชิญ ชาคริยาก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความประหม่าทว่าเธอกลับไม่เห็นเงาของนาธาเนียลภายในห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องประดับตกแต่งมากมาย หญิงสาวกำลังจะหันกลับไปถามคนของเขาแต่กลับไม่พบใครในที่นั้นแม้แต่คนเดียว ชาคริยายืนนิ่งและมองดูกระเป๋าเดินทางที่ถูกนำมาวางไว้บนพื้นห้อง เธอพยายามชะเง้อหาหากก็ไม่กล้าจะส่งเสียงเรียกก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปหยุดที่แจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ หญิงสาวเดินเข้าไปและจ้องดูดอกไม้สดในแจกันลายครามที่คงจะมีมูลค่าสูงลิ่ว ร่างเล็กเผลอดึงดอกไม้แสนสวยออกมาหนึ่งดอกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “นั่นใคร?” ชาคริยาเผลอทำดอกไม้ร่วงหล่นจากมือเพราะสะดุ้งกับเสียงทุ้มกังวานที่ก้องขึ้น เธอหันกลับไปมองก็พบว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องโถง เขาไม่ใช่นาธาเนียลทว่าเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสีหม่นและใบหน้าคมเข้มมากจนเรียกได้ว่าดุดันแม้เธอจะประมาณอายุเขาในใจว่าไม่น่าจะเกินสามสิบปี เมื่อตั้งสติได้ชาคริยาก็กล่าวออกมาด้วยเสียงอึกอัก “เอ้อ...คือ...เอ้อ...สวัสดีค่ะ” “คุณใช่มั้ยที่พ่อผมให้คนไปรับที่สนามบินวันนี้?” เขากล่าวขณะสืบเท้าเข้ามาใกล้และนั่นยิ่งทำให้ชาคริยามองเห็นโครงหน้าหล่อเหลาใต้กรอบเรือนผมสีบรูเน็ตและนัยน์ตาสีเดียวกันฉายประกายออกมาเหมือนเพชรสีน้ำตาลเจิดจรัสแต่ขรึมเข้มและลุ่มลึกหากก็สะกดหญิงสาวให้เผลอหยุดมองเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ “ค่ะ...คุณนาธาเนียลให้คนไปรับฉันที่สนามบินและฉันก็พึ่งมาถึงค่ะ” “ชื่ออะไร?” “ชาคริยาค่ะ...เรียกฉันว่าจีนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวทั้งที่อีกฝ่ายไม่ยอมบอกชื่อเสียงเรียงนามเลยว่าเขาเป็นใคร มีแต่คำถามซักไซ้ไล่เลียงด้วยน้ำเสียงดุดันและชั่วแว่บที่เธอเห็นประกายวาบวับในดวงตาคู่นั้นฉายอะไรบางอย่างออกมาซึ่งยังไม่นับรวมรอยเหยียดบนมุมปากหยักหนาที่เลิกขึ้น “พ่อผมบอกว่าคุณมาจากบรู๊คลิน...หึ...คงไม่ได้อยู่ในย่านคนมีอันจะกินสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมเดินทางไกลมาถึงนี่” ทั้งคำพูดและน้ำเสียงเหยียดหยันนั้นทำให้ชาคริยาถึงกับสะอึก ร่างเล็กที่ยืนนิ่งและมองต่ำช้อนตาขึ้นมองบุรุษร่างสูงสง่าที่แสดงตนราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่น่ารับเชิญอย่างไรอย่างนั้น หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น “เอ้อ...ฉัน...” “ผมคืออีธาน...อีธาน อัลเบิร์ตสัน ลูกชายคนเดียวของนาธาเนียล อัลเบิร์ตสัน มหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของอเมริกา...แต่ผมว่าข้อนี้คุณคงจะรู้ดีแล้วสินะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD