บทที่ 13 พร้อมบุกรังโจร

1549 Words
บทที่ 13 พร้อมบุกรังโจร ไม่ว่ายุคไหนๆ ล้วนมีขุนนางเห็นแก่ตัว ไม่แยแสชีวิตประชาชน น่าเสียดาย หากรู้เรื่องนี้ก่อน นางคงตามไปเก็บกวาดบ้านตระกูลเผิงไม่ให้เหลือเสาสักต้นเดียว! ไม่สิ นางไม่รู้ว่าบ้านตระกูลเผิงอยู่ที่ไหนนี่นา… เพิ่งคุยกันจบ รองแม่ทัพเสิ่นก็กลับมาถึงกระโจมพอดี เขารีบตรงเข้ามารายงานแม่ทัพไป๋เรื่องรังโจร ทว่าพอเห็นองค์หญิงเซี่ยหยู่อยู่ที่นี่ด้วย สีหน้าของเสิ่นหลางพลันลังเล “เจ้าว่ามาเถอะ เรื่องนี้องค์หญิงควรรับรู้ด้วย” ไป๋มู่อวิ๋นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “ขอรับ” เสิ่นหลางตอบรับ ก่อนรายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “รังโจรอยู่กลางป่านี้เอง มองเผินๆ เหมือนหมู่บ้านนายพราน แต่สังเกตไปสักพักก็พบว่าข้างในมีเด็กกับผู้หญิงถูกขังไว้หลายคน อ้อ! ยังมีผู้ชายคนหนึ่งคอยสั่งการ แต่ก็ไม่เหมือนพวกเดียวกับโจรป่าขอรับ” “คนผู้นั้นใช่หัวหน้าของพวกมันหรือเปล่า?” เซี่ยหยู่ย่นคิ้วถามด้วยความสงสัย เสิ่นหลางส่ายหน้า ก่อนเอ่ยช้าๆ “หัวหน้าโจรป่าถูกท่านแม่ทัพสังหารไปแล้ว ผู้ชายที่กระหม่อมพูดถึง ลักษณะท่าทางเหมือนคนในเมืองมากกว่า อีกอย่าง เขายังมีองครักษ์ติดตามด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อฟังจบทุกคนรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ในขณะที่ไป๋มู่อวิ๋นกับเซี่ยหยู่ครุ่นคิดอยู่นั้น เสิ่นหลางทำหน้าลังเล ผ่านไปสักพัก เขาก็ตัดสินใจที่จะพูด “ท่านแม่ทัพ ข้าได้ยินองครักษ์เอ่ยชื่อหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรพูดดีหรือไม่ เพราะบางทีข้าอาจจะฟังผิดไปก็ได้” “ว่ามา” ไป๋มู่อวิ๋นถามเสียงขรึม “เผิงอู๋...ขอรับ” ทันทีที่ชื่อนี้หลุดจากปากของเสิ่นหลาง…ไป๋มู่อวิ๋นพลันกำหมัดแน่น ความโกรธวาบขึ้นในดวงตาราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน เซี่ยหยู่เองก็เบิกตาโต เผิงอู๋...ใครอีกล่ะ!? .. .. เมื่อเห็นแววโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของไป๋มู่อวิ๋น เซี่ยหยู่ก็เข้าใจทันที เผิงอู๋ผู้นี้ต้องเป็นอริเก่าของเขาแน่! คิดจบก็หันไปถามเสิ่นหลาง เสิ่นหลางเหลือบมองไป๋มู่อวิ๋นอย่างลังเล ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบอย่างช้าๆ “กระหม่อมติดตามท่านแม่ทัพออกศึกอยู่นอกเมืองบ่อยๆ เรื่องราวในเมืองหลวงรู้ไม่ค่อยมาก แต่พอทราบอยู่บ้างว่าอัครเสนาบดีเผิงมีบุตรชายสี่คน เผิงหยาง เผิงอู๋ เผิงเจี้ยน และเผิงหวาย…เผิงอู๋คนนี้ เป็นบุตรชายคนรองที่เกิดจากอนุภรรยาพ่ะย่ะค่ะ” แม้ยังสรุปไม่ได้ว่า ขบวนเดินทางถูกโจมตีเพราะคำสั่งของอัครเสนาบดีเผิงโดยตรงหรือไม่ แต่เมื่อมีคนตระกูลเผิงอยู่เบื้องหลังของกลุ่มโจร ชัดเจนว่าเป้าหมายของพวกมันคือสร้างความปั่นป่วนและหมายเอาชีวิต แต่เรื่องนั้นค่อยสอบสวนกันทีหลัง ตอนนี้ต้องมาหาวิธีจัดการกับโจรป่าให้ได้ก่อน “แล้ว...พวกท่านจะเอายังไงต่อ บุกรังโจรช่วยเหลือคนหรือจะออกเดินทางกันต่อ ไม่ว่าเลือกอย่างไหน ข้าก็ไม่โต้แย้ง” เซี่ยหยู่ถามไป๋มู่อวิ๋นกับเสิ่นหยางด้วยเสียงราบเรียบ นางไม่ใช่คนใจบุญ กำลังของคนคนหนึ่งเปลี่ยนโลกทั้งใบไม่ได้ ที่ถามอย่างนั้น เพียงอยากรู้ว่าทั้งสองคนมีจิตสำนึกอยากช่วยคนอื่นมากน้อยแค่ไหน รองแม่ทัพเสิ่นก้มหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตอบ “เพื่อไม่ให้ชาวบ้านและกองคาราวานต้องเดือดร้อนเพราะโจรป่าอีก กระหม่อมอยากกวาดล้างรังโจร แต่เท่าที่สังเกต รังโจรตอนนี้มีคนนับสิบ ด้วยกำลังของเรา เกรงว่าจะยากพ่ะย่ะค่ะ” ท้ายประโยค เสิ่นหลางส่ายหัวอย่างหนักใจ เซี่ยหยู่ปรายตามองไปรอบๆ กำลังพลที่ยังสู้ไหวเหลือเพียงสิบสามคน แถมฝ่ายนั้นไม่ใช่โจรกระจอกๆ หากบุกเข้าไปตรงๆ ต่อให้มีกำลังคนมากกว่านี้ยังไงก็ต้องบาดเจ็บสาหัสกันไม่น้อย ในขณะครุ่นคิด เสียงทุ้มของไป๋มู่อวิ๋นพลันดังขึ้น “กระหม่อมจะไปพ่ะย่ะค่ะ” เซี่ยหยู่เลิกคิ้วสูง พร้อมกับมองแววตาเด็ดเดี่ยวจริงจังของชายหนุ่ม ถึงจะคิดไว้แล้วว่าไป๋มู่อวิ๋นต้องตัดสินใจแบบนี้ แต่ไม่นึกว่าเขาจะเด็ดขาดถึงขั้นนี้ แต่ว่า...คำตอบนี้แหละที่นางอยากได้ยิน! ไป๋มู่อวิ๋นขมวดคิ้วเอ่ยต่อ “ทหารบาดเจ็บต้องพักฟื้นกว่าจะเคลื่อนขบวนต่อได้ รอบๆ นี้มีแต่ป่า ไม่มีหมู่บ้าน หากโจรพวกนั้นรวบรวมพรรคพวกแล้วย้อนกลับมาโจมตีซ้ำ พวกเราเองก็ไม่รอดเหมือนกัน ที่สำคัญ หลังจากคืนนี้ไปแล้ว มั่นใจได้เลยว่าเผิงอู๋จะเร่งทำลายหลักฐานแล้วหนีกลับเมืองหลวง หากเป็นเช่นนั้น เราจะไม่มีทางรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง และเป้าหมายของพวกมันคืออะไร” เซี่ยหยู่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “ท่านคิดจะบุกก่อนที่พวกมันจะไหวตัวทันใช่หรือไม่ แต่ข้าไม่อนุญาตให้ท่านไปคนเดียว” “กระหม่อมกับรองแม่ทัพเสิ่นจะบุกไปกันสองคนพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋มู่อวิ๋นตัดสินใจหนักแน่นแล้ว ยิ่งน้อยคนการเคลื่อนไหวยิ่งสะดวก แม้ว่าจะเสี่ยงมาก แต่ที่นี่ก็ต้องมีทหารไว้คุ้มกันองค์ชายองค์หญิงด้วย เขากับเสิ่นหลางก็พอแล้ว “ข้าไม่ได้จะขัดความตั้งใจของท่านหรอกนะ แต่...” เซี่ยหยู่พูดแล้วเงียบไป “แต่...อะไรหรือ?” ไป๋มู่อวิ๋นถาม “สามคน” นางพูดพร้อมชูสามนิ้ว “พวกเราจะไปกันสามคน แม่ทัพไป๋ รองแม่ทัพเสิ่น แล้วก็ข้า” “อันตรายเกินไปพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นหลางรีบค้านด้วยสีหน้ากังวล “ข้ามีของดี” เซี่ยหยู่บอกและยิ้มบางๆ พร้อมกับแววตาที่ฉายความเจ้าเล่ห์ นางไม่ได้ทำตัวอวดเก่ง แต่อย่าลืมสิ นางมีคลังสวรรค์อยู่ในมือเชียวนะ และหากพูดถึงรังโจร นอกจากความป่าเถื่อนกับเหยื่อที่ถูกจับแล้ว ยังมีอะไรอีก…ใช่แล้ว สมบัติที่พวกมันปล้นมายังไงล่ะ! คิดถึงเงินทองอร่าม เซี่ยหยู่ก็ถึงกับลืมตัวแสยะยิ้มออกมา ทางด้านของไป๋มู่อวิ๋นนั้น เข้าใจถึงฝีมือการยิงหน้าไม้และการเคลื่อนไหวอันว่องไวขององค์หญิง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด .. .. เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เซี่ยหยู่ก็ลงมือทันที เด็กสาวเดินกลับไปที่รถม้า ทำทีเหมือนกำลังเตรียมของ แต่แท้จริงแล้วรีบเข้าไปในมิติส่วนตัว นางเปลี่ยนเป็นชุดสีดำอำพราง ใต้ชุดยังสวมเสื้อเกราะบางป้องกันของมีคมไว้อีกชั้นหนึ่ง จากนั้นหยิบยานอนหลับจำนวนมากออกมา เทใส่กระดาษห่อเล็กๆ พับเก็บไว้ในอกเสื้อหลายห่อ ไม่เพียงเท่านั้น นางยังเตรียมของอย่างอื่นเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย อย่างระเบิดควัน แก๊สน้ำตา เมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมสรรพ นางก็กลับมาหาชายหนุ่มทั้งสอง “ส่วนนี้เป็นของพวกท่าน เผื่อไว้ในยามฉุกเฉิน” เซี่ยหยู่บอกพร้อมยื่นห่อยาให้พวกเขาหลายห่อ ไป๋มู่อวิ๋นเลิกคิ้ว “ห่ออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” “ยานอนหลับพลังล้มช้าง” นางตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย คำตอบนั้นทำให้ทั้งสองชะงักเล็กน้อย ก่อนจะนึกเรื่องบางอย่างได้ ก่อนออกเดินทาง…ได้ยินว่ามีโจรลึกลับบุกวังหลวง วางยานอนหลับจนคนทั้งวังหลวงหมดสติกันถ้วนหน้า โจรลึกลับคนนั้นกวาดเอาทรัพย์สินจากวังหลวงไปเกลี้ยง ท้องพระคลังเอย ห้องเครื่องเอย แม้แต่กรมแพทย์ก็ไม่เว้น! คิดถึงตรงนี้ สายตาของทั้งสองพลันเหลือบมองเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เซี่ยหยู่รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมา คิดว่าทั้งสองคนคงสงสัยว่ายานอนหลับใช้อย่างไร นางจึงอธิบายอย่างใจเย็น “พวกท่านใช้ยานอนหลับไม่เป็นกันหรือ? ข้าจะบอกให้ แค่สาดใส่หน้าพวกมันก็พอ...อีกอย่าง กำลังคนฝ่ายเราน้อยกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าไม่อยากปะทะตรงๆ ใช้ยานอนหลับดีที่สุด แต่ถ้าจำเป็นก็ฆ่าได้เลย” ความเด็ดขาดขององค์หญิงทำเอาไป๋มู่อวิ๋นกับเสิ่นหลางถึงกับอึ้ง ทั้งสองรีบตอบพร้อมกันทันที “ใช้เป็นพ่ะย่ะค่ะ!” เซี่ยหยู่พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะบอกทั้งสองคนด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย “ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ!” “พ่ะย่ะค่ะ” ไป๋มู่อวิ๋นรับคำหนักแน่น ตอนนั้นเอง เสิ่นหลางเพิ่งนึกขึ้นมาได้ รังโจรอยู่กลางป่าลึก การจะไปถึงที่ค่ายของมันต้องใช้วิชาตัวเบา องค์หญิงไม่มีวิชาตัวเบา แล้วจะเดินทางเข้าป่าไปอย่างไร? จังหวะที่กำลังขยับปากจะพูด กลับเห็นร่างเล็กเคลื่อนไหวคล่องแคล่วราวกับสายลมพุ่งทะยานออกไป คำพูดทั้งหมดของเสิ่นหลางจึงถูกกลืนลงท้องในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD