บทที่ 5 ตรุษจีน

1689 Words
หลังจากค่ำคืนวาเลนไทน์ที่สุดแสนจะติดเรทได้ผ่านพ้นไป รินรดานั่งเคาะนิ้วกับเก้าอี้ชมวิวกรุงเทพจากห้องทำงานอย่างเช่นเคย ฉันผ่านเรื่องอย่างว่ามาไม่รู้เท่าไหร่แต่ทำไมหนนี้มันพัวพันสลัดไม่หลุด ไก่อ่อนลีลาก็ไม่ได้เรื่องจะดีหน่อยก็ตรงที่หล่อแต่หน้าตาประมาณนี้ก็หาได้ถมเถไป "เฮ้อ........แม้กระทั่งตอนนี้....ก็ยังจะคิดถึงอีกไม่เข้าใจจริงๆ" ประธานสาวหลับตาใช้มือข้างนึงกุมขมับอย่างคนกลุ้มใจ ผ่านชีวิตมาเท่าไหร่ แต่ไม่เคยมีใครที่มีอำนาจเหนือใจเธอได้เลย ที่สำคัญไม่รู้ว่าเพราะอะไรด้วยซ้ำ ยิ่งปฏิเสธยิ่งอยากได้ ยิ่งเฉยเมยยิ่งอยากอยู่ใกล้ "ให้หนูทายไหมคะ" เสียงเล็กจากคนผมสั้นที่รู้ใจถามทำลายความเงียบขึ้นมา พิมสุดาในชุดเดรสยาวลายดอกสีชมพูนั่งไขว่ห้างพร้อมกับแฟ้มกระดาษปึกใหญ่ โต็ะรับแขกที่กลายเป็นโต๊ะทำงานนางไปแล้ว "ท่านประธานน่าจะหาโต๊ะทำงานให้หนูได้แล้ว หนูแทบจะอยู่ที่นี่ทุกวัน" "เตียงดีกว่างานประจำเราอยู่บนนั้น" ประธานสาวมองลอดแว่นสำรวจเรือนร่างของคนรู้ใจจนชนิดที่อีกฝ่ายต้องระแวง "พี่ริน น่า..........พิมกำลังจะมีแฟนแล้ว" เลขาสาวส่งเสียงออดอ้อนพลางหาวิธีปลี่ยนเรื่องสถานการณ์เธอตอนนี้เหมือนเอาตัวรอดไปวันๆ "นี่ค่ะพี่ตารางงาน อ่อแล้วเรื่องงานเปิดตัวสินค้าของบริษัทอ่ะพี่ เหมือนจะมีความเห็นให้ ผอ. ขจรดูแล งานจะมีวันที่ 12 เมษา เลือกวันได้ห่วยจริงๆ แทนจะได้ลายาวกัน" "ก็คงตามนั้นพี่ก็ไม่ค่อยชอบตาขจรนี่สักเท่าไหร่ แต่พวกอาอี๋ไว้ใจนาง" รินรดากวาดสายตาดูตารางงานซึ่งหนนี้ไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ "พี่ไม่ชอบขจรแล้วพี่ชอบใครคะ" "ผัดไทยล่ะ ? อร่อยไหมแล้วน้องตกลงยัง" พิมสุดายิงคำถามอย่างแทงใจประธานสาวพร้อมกับคิดในใจ 'นี่แหละทางรอดฉันขยันชงเข้าไว้พิม' รินรดาส่งสายตาดุมองรอดแว่น แต่พิมสุดากลับไม่สะทกสะท้านนั่งหน้าเป็นมองหน้าประธานสาวแล้วยิ้มอย่างคนรู้ทัน "น้องเขาไม่ตกลงใช่ม๊า.......ให้พิมลองช่วยไหมคะ" "หึ ! ไม่จำเป็นไม่เกินสงกรานต์นี้แหละ ไม่รอดมือพี่หรอก" "เย้......" เลขาสาวชูมือชูไม้ราวกับว่าเป็นเด็กน้อนที่เก็บอาการดีใจไม่อยู่จนประธานสาวยังอมยิ้มเพราะนั่นหมายความว่านางกำลังจะมีตัวตายตัวแทนแล้ว "ต่อให้มีเด็กนั่นฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ หรอกพิม" พิมสุดาไม่สนใจคำขู่ของประธานสาวพร้อมยิงคำถามต่อตามประสาคนทะลึ่ง "พี่เล่าให้ฟังหน่อยซิ วันวาเลนไทน์น่ะพี่ทำไรกันบ้าง นะ นะ " "เธอนี่น้า........." "น่า.....พี่ ก็หนูชอบเรื่องแบบนี้" เสียงเล็กแหลมของเลขาคนเก่งถูงส่งมาอย่างออดอ้อน "อือก็ได้ช่วยออกความเห็นด้วยนะว่าพี่ลงทุนเกินไปหรือเปล่า" จากนั้นประธานสาวก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดโดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่เห็นแม่ค้าร้านข้าวมาอ่อยรปภหนุ่มจนกระทั่งถึงการเสนอตัวแบบฮาดร์เซลของหล่อน พิมสุดาที่ฟังเรื่องทั้งหมดถึงกับตาโตยกมือขึ้นปิดปาก "โหยพี่ นี่พี่ทุ่มสุดตัวเลยนะแล้วเด็กนั่นตอบตกลงไหม" "ลังเลน่ะแต่ก็ยังไม่ พี่ให้เดดไลน์ถึงสงกรานต์ถ้าไม่ตกลงก็คงต้องลาแล้ว" "หนูอยากเห็นหน้าเด็กนั่นแล้วอ่ะหล่อมากเลยเหรอพี่ ? ถึงขนาดทำให้ประธานสาวเจ้าของธุรกิจพันล้านเปลืองตัวได้ขนาดนี้" "ก็ประมาณนึงนั่นแหละ แต่......." "แต่อะไรพี่" ตาซุกซนของพิมพ์สุดามองหน้าประธานสาวที่กำลังนั่งท้าวคาง จากการประเมินทางสายตาเหมือนประธานคนสวยกำลังขาดความมั่นใจ 'สาวมั่นเราโดนเด็กนั่นตกเข้าให้แล้ว' เลขาคนสวยคิดในใจระหว่างรอคำตอบจากรินรดา . . "แต่....ที่พี่หงุดหงิดก็คือไอ้ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเจ้านั่น เหมือนกับว่าถ้าพี่ให้เอาก็เอาไม่ให้ก็ไม่เป็นไรเชื่อไหมนางไม่เคยแม้แต่จะขอคอนแทคพี่ด้วยซ้ำ ตอนเสนอเลี้ยงดูก็ยังปฎิเสธทันที ผมเลี้ยงตัวเองได้ครับ ตอบมางี้จนพี่ต้องงัดทุกอย่างที่มีมาใช้แบบไม่เคยเสนอให้ใครขนาดนี้มาก่อน ถ้าสงกรานต์นี้นางปฏิเสธพี่อีก พี่คง......คง ช่างเถอะ" ประธานสาวร่ายยาวถึงความอัดอั้นตันใจจนพิมสุดาอมยิ้มตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าประธานสาวกำลังเสียความมั่นใจ แล้วมั่นใจอีกว่านางจะต้องใช้ทุกวิถีทางที่จะครอบครองพ่อหนุ่มผัดไทยนั่นให้ได้ "แล้วพี่จะไปหาเด็กนั่นอีกเมื่อไหร่คะ" "ตรุษจีนนี้แหละ พี่จะต้องเอาให้อยู่ให้มันรู้ไปว่าทุ่มขนาดนี้แล้วจะหลุดมือ" ประธานสาวตอบด้วยสีหน้ามุ่งมั่นพร้อมกับฟาดมือลงบนโต๊ะทำงานจนเลขาสาวร้องสะดุ้ง "หนูล่ะอยากเห็นหน้าเด็กนี่จริงๆ" "ไม่มีวัน...พี่ไม่มีวันเปิดตัวเด็กเลี้ยงของพี่ เธอก็รู้ดี" "ค่ะ ให้มันจริงเถอะ........" พิมสุดารำพึงกับตัวเองพร้อมแอบเบ๊ะปากล้อเลียนแล้วก้มหน้าทำงานของเธอต่อ บรรยากาศในช่วงตรุษจีนสำหรับคนที่เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีนอย่างประธานคนสวยอย่างรินรดาก็จะค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษ ยิ่งบวกกับเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเหล่า อากง อาม่า อาโกว อาอึ้ม อาอี๊ นั่นทำให้ความวุ่นวายของเธอมากขึ้นเป็นสิบเท่า "ฉันรักทุกเทศกาลยกเว้นตรุษจีน" ประธานสาวบอกกับตัวเองขณะจัดเรียงของไหว้ซึ่งซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนวันนี้ก็ต้องตื่นมาแต่ตีสี่ตีห้า รินรดาในตอนนี้อยู่ในเสื้อยืดกางเกงขาสั้นผมหยักโศกถูกมัดรวบไว้อย่างทะมัดทะแมง ใบหน้าออกหมวยนั้นไร้การตกแต่ง "ถ้าไม่มี จุ๊บกับแจงคอยช่วยนะตาย.." ประธานสาวบ่นกับตัวเองอีกคราขณะกำลังยกถาดผลไม้ขึ้นโต๊ะโดยมีแม่บ้านทั้งสองที่นางกล่าวถึงคอยช่วยเป็นลูกมือ หลังจากใช้เวลาจัดเตรียมตั้งแต่เช้ามืดทุกอย่างก็เสร็จสิ้น เหล่าผู้อาวุโสประจำบ้านต่างมารอทำพิธีอย่างพร้อมเพียง ด้วยความที่เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวในบ้านใหญ่หลังนี้เธอจึงต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งเรื่องบ้านและเรื่องกิจการของตระกูล หลังจากการไหว้ตามประเพณีเสร็จสิ้นลงก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องอึดอัดใจประจำปี บนโต็ะอาหารทรงกลมที่ทำจากไม้ชั้นดีสมฐานะตระกูลเศษฐี ทั้งกับข้าวของหวานของคาวถูกจัดเรียงบนโต๊ะไว้อย่างครบครัน โดยมีแม่บ้านสองคนคอยดูแลจัดแจงต่างๆ ประธานคนสวยนั่งก้มหน้าก้มตาทานเหมือนจะรีบให้เสร็จเพื่อจะออกจากสถานการณ์ตรงนี้ "อารินพวกอั้วก็เลี้ยงดูลื้อมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่พ่อแม่ลื้อจากไป สมบัติทุกอย่างแม้แต่กิจการก็ยกให้ลื้อดูแล" ประโยคแรกของอาโกวก็รำเลิกบุญคุณกันเลย หญิงวัยหกสิบกว่าแต่ใบหน้าดูอ่อนกว่าคนวัยเดียวกันส่อให้เห็นถึงการดูแลตัวเองอย่างดี มองรินรดาด้วยสายตาที่เป็นห่วงแล้วพูดต่อ "ลื้อจะทำเพื่อพวกอั้วไม่ได้เลยหรือ" "หนูก็ทำแล้วนี่ไง...อาโกว บริษัทโตขึ้นทุกปีหนูทำงานจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว" ประธานสาวตอบพร้อมกับรีบรับประทานอาหารให้เร็วขึ้นกว่าเดิม "พวกอั้วไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น" อาอึ้มหญิงวัยไร่เรี่ยกับอาโกวไม่ใช่แค่วัยไล่เรี่ยกันอย่างเดียวแต่ใบหน้านั้นยังคล้ายกันอีกด้วย พูดเสริมพร้อมส่งสายตาอย่างคาดหวังมาทางหลานสาว "พวกอั้วอายุมากแล้ว ถ้าพวกอั้วไม่อยู่แล้วลื้อจะอยู่กับใคร" "อยู่คนเดียว !" รินรดาตอบอย่างห้วนๆ และดื้อดึงแสดงให้เห็นว่าเหล่าผู้อาวุโสเลี้ยงดูนางมาอย่างตามใจเพียงใด พร้อมกับหยิบอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วชิงพูดดักทางก่อนอีกฝ่ายจะพูดขึ้นมาก่อน "หนูจะไม่แต่งานกับคนที่อาโกวเลือกให้แน่นอน" "แต่...อาจักรแกใช้ได้นา รวย การศึกษาดี" รินรดานึกภาพหนุ่มตุ้ยนุ้ยผิวขาวสูงพอประมาณวัยสี่สิบกว่าที่เคยถูกจับยัดเยียดให้เจอกันบ่อยๆ ที่จริงก็ไม่มีอะไรไม่ดีหรือเสียหายเพียงแต่ ประธานสาวไม่อยากจะคบใครเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว "ลื้อน่ะจะดื้อกับพวกอั้วไปถึงไหน หนนี้อั้วไม่ยอมแล้วเดี๋ยวหลังตรุษจีนเตรียมตัวไว้เลยอั้วจัดการเอง" อาโกวยื่นคำขาด "ไม่อ่ะอาโกว หนูมีแฟนแล้ว" "ห๊า......!!!" เหล่าผู้อาวุโสประจำบ้านแทบจะประสานเสียงพร้อมกันแม้แต่ อากงอาม่าที่กำลังจะหลับคาโต๊ะอาหารยังตกใจกับคำพูดของหลานสาว "ลื้อเนี่ยนะมีแฟน อย่างลื้อเนี่ยนะ" "ใช่ อาอี๊ แล้วคืนนี้หนูไม่อยู่หนูจะออกไปหาแฟนกลับเช้าๆ" รินรดาโกหกคำโตเพื่อจะหาทางออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด จากนั้นก็กระดกน้ำเข้าปากอย่างส่งสัญญาณว่าอิ่มแล้วและเตรียมที่จะบอกลาโต๊ะอาหาร "แฟนลื้อเป็นใครและทำงานอะไร" ขบวนการผู้สูงอายุทุกคนต่างมองหน้าหลานสาวอย่างค้นหาและรอคำตอบ . . ยาม ........... หลานสาวตัวแสบตอบออกมาสั้นๆ ชนิดที่ไม่มีใครใด้ยินเพราะเป็นการตอบในใจที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน นี่เรานึกถึงเด็กผัดไทยนั่นอีกแล้ว ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD