"อร เธอกลับไปเรียนเถอะ"
ผัดไทยบอกกับสาวน้อยวัยเดียวกันขณะที่ทั้งคู่กำลังยกลังกระดาษไปเก็บหลังบูธแสดงสินค้า
"ไม่ตอนนี้เรามีคนที่พร้อมดูแลเราแล้ว"
นักศึกษาสาวดวงตากลมโต ใบหน้าเรียวไว้ผมม้า ร่างสูงเพรียวตอบพร้อมพยายามขยับตัวออกห่างจากผัดไทย
"แล้วอีกอย่างอย่ามาอยู่ใกล้เราเดี๋ยวพี่เขาเข้าใจผิดอีก เราจบกันแล้วผัดไทย"
"แต่....."
"เราจบกันแล้ว"
อรพินพูดพร้อมกับผลักผัดไทยออก
.
.
"เอาล่ะอีกสักพักงานจะเริ่มแล้ว พวกพนักงานพาร์ทไทม์ไม่ต้องทำไรมากแค่ยืนประจำบูธ คอยแจกแผ่นผับหรือถ้าแขกต้องการอะไรก็คอยเสริฟ ส่วนหน้าที่อธิบายจะเป็นของพีอาร์ เข้าใจนะ"
พี่ชุ๊ พนักงานหญิงวัยกลางคนอธิบายงานให้ทั้งผัดไทยอรพินและพนักงานคนอื่นๆ ฟัง
"เอาล่ะงานสบายๆ เริ่มงานได้"
ทั้งหนุ่มคนซื่อและสาวน้อยตากลมต่างถูกจัดให้อยู่ในบูธเดียวกัน ทั้งคู่ได้มาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในงานเปิดตัวสินค้าของบริษัทนี้ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน
คนหนึ่งมาเพื่อใช้เต้าไต่ ส่วนอีกคนมาเพื่อเตือนสติอดีตแฟน
บรรยากาศภายในงานบูธต่างๆ ได้ถูกจัดวางไว้รอบเวทีขนาดใหญ่ที่กำลังจะมีงานแสดง บรรดาพนักงานรวมทั้งผู้บริหารต่างเริ่มทยอยมากันพร้อมเพียง
เก้าอี้ถูกจัดเรียงอาหารเครื่องดื่มพร้อมเสริฟ เหล่าพริตตี้ยืนประจำบูธกันเรียบร้อยเหลือแต่เพียงรอเวลาเริ่มงาน
.
.
"เอ้า หนูอรทำไมมายืนตรงนี้จ๊ะ"
ชายร่างท้วมวัยกลางคนใบหน้าออกเหลี่ยมสวมแว่นหนาผิวขาวออกทางเชื้อจีนส่งเสียงทักทาย จากสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจชัดเจน
"ให้เด็กอั้วมายืนกับคนพวกนี้ได้ไง"
พร้อมกับหันไปต่อว่าพี่ชุ๊พนักงานหญิงที่พึ่งสอนงานไปเมื่อครู่
"คุณชุ๊...คุณเป็นผู้จัดการมานานแล้วนะทำไมไม่เกรงใจผมบ้าง"
ก่อนที่ผู้จัดการจะได้ทันตอบ สาวน้อยตากลมก็ชิงพูดขึ้น
"หนูอยากทำเองค่ะพี่ขจร"
นักศึกษาร่างเพรียวจับข้อมือชายร่างท้วมหน้าออกเชื้อจีน ซึ่งหวังว่าพอจะบรรเทาความโมโหลงได้บ้าง แต่ก็ยังไม่วายหันไปมองคุณชุ๊ด้วยสายตาเชิงตำหนิพร้อมกับเหลือบตามองทางผัดไทยด้วย
"ขอโทษด้วยค่ะ ผอ.ขจร ดิฉันจะระวังให้มากกว่านี้"
ผู้จัดการสาวยืนมือกุมกลางลำตัวโน้มศีรษะลงขอโทษ ตอนนี้สายตาของคนมากมายเริ่มมองมายังบูธนี้ ยิ่งมีคนมองเหมือนจะยิ่งทำให้ผอ.ขจรยิ่งวางอำนาจ
"แล้วไล่ไอ้คนพรรค์นี้ไปไกลๆ ด้วยอั้วไม่ชอบขี้หน้ามัน"
"คนพรรค์นี้"
ผัดไทยคนซื่อทวนคำเบาๆ แต่ด้วยระยะที่ใกล้กันเกินไป ผอ.คนกร่างเกิดได้ยิน
"ทำไมลื้อมีปัญหาอะไร"
ผอ.ขจรไม่เพียงแค่พูดเปล่าแต่พยายามใช้มือพลักด้วย แต่เนื่องจากผัดไทยเป็นคนร่างสูงใหญ่แทนที่จะเป็นฝ่ายเซกลับเป็นฝ่ายตรงข้ามที่เซเอง
ผอ.ขจรเสียหลักถอยหลังเกือบล้มต่อหน้าพนักงานมากมายกลายเป็นยิ่งสร้างความไม่พอใจมากกว่าเดิม
"นี่ลื้อกล้าหาเรื่องอั้วเหรอ"
จากที่เสียงดังอยู่แล้วยิ่งดังกว่าเดิม ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผัดไทยพนักงานส่วนมากจะรู้กิติศักดิ์ของผอ.ขจรดีอยู่แล้ว
"ผมเหรอครับ" คนซื่อมองคู่กรณีด้วยสีหน้างุงงง
'ตอนไหนวะเราไปหาเรื่องมันตอนไหนวะ'
"คือ...เอ่อ ผมไปหาเรื่องลุงตอนไหนครับ"
ลุง คำนี้ถึงกับทำเอาขจรคนกร่างปรี๊ดแตก ยกมือขึ้นจะพลักอีกครั้งแต่เหมือนจะคิดได้ว่าจะกลายเป็นตัวเองที่เสียหน้าอีกครา
"ลื้อเป็นนักศึกษาใช่ไหม"
"ครับลุง"
เหมือนจะเป็นคำตอบสุภาพและกวนตรีนในคราเดียวกัน พนักงานที่เห็นเหตุการณ์หลายคนต้องเบือนหน้าหนีไปกลั้นยิ้ม
คนร่างท้วมใบหน้าออกเหลี่ยมนั้นสีหน้าแดงก่ำตอนแรกแค่ไม่พอใจที่หนุ่มหน้าคมมายืนใกล้ชิดกับเด็กตัวเองแต่ตอนนี้ที่ไม่พอใจที่สุดก็ไอ้คำว่า ลุง นี่แหละ คำนี้แค่เรียกเบาๆ ก็เจ็บ
"อั้วจะแบนสถาบันลื้อจะไม่รับฝึกงาน รับเข้าทำงาน รวมทั้งบริษัทในเครือหรือคู่ค้าด้วยด้วย"
"ท่านค่ะมันจะ จะรุนแรงไปไหมคะ"
พี่ชุ๊มีสีหน้าตกใจต่อสถานการณ์ที่บานปลายไปมาก
"ลื้อเองก็ระวังไว้ด้วยผู้จัดชุ๊ จบงานเจออั้วแน่"
ชายร่างท้วมพูดเสียงดังชี้หน้าอย่างอาฆาต
ตอนนี้เองที่สาวตากลมอรพินฉวยจังหวะจับแขนผัดไทยส่งสัญญานให้ขอโทษซะ
"ขอโทษซะไม่งั้นเดือดร้อนกันหมด"
เป็นการพูดแบบได้ยินกันเพียงสองคน ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ต่างมายืนชิดกันจับแขนกันอีกครั้งต่างจากตอนแรกที่พยายามยืนแยกห่างกัน
"เอ่อ ลุงครับผมขอโทษครับ"
"กราบตีนอั้วแล้วเลิกใช้คำว่าลุง"
ผอ.ขจรคนบ้าอำนาจยื่นคำขาดท่ามกลางพนักงานทั้งบริษัทรวมทั้งผู้บริหารที่ยืนมองสถานะการณ์โดยไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
ผัดไทยหนุ่มหล่อตาคมร่างสูงกล้ามใหญ่ยืนหลังตรงเต็มสัดส่วนโดยไม่หวั่นต่อคำคู่
ซึ่งวันนี้มาในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางสแล็คขายาวสีดำเราเท้าหนัง ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายบวกกับการแต่งตัวที่เป็นทางการทำให้ดูมีสง่าราศีกว่าทุกวันจนพนักงานผู้หญิงหลายคนยังแอบมองจนเป็นต้นเหตุของความหมั่นไส้
"ลุงครับ"
"ผมกราบลุงไม่ได้จริงๆ ครับ"
ลุงทุกดอก..ขจรคนกร่างคิดในใจแล้วกล่าวออกมาอย่างอาฆาต
"งั้นมหาลัยมึงเดือดร้อนแน่"
"เชิญลุงเถอะครับแก่แล้วยังไม่รู้จักคิด" ประโยคนี้เรียกเสียฮือฮาจากพนักงานมุงทั้งหลาย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำกับขจรคนกร่างขนาดนี้มาก่อน
"เฮ้ย ! เองไปตามรปภมาดิ อั้วจะจับมันส่งตำรวจ"
คนกร่างตะโกนเสียงดังหันไปสั่งความกับลูกน้อง ซึ่งไม่ต้องถึงกับไปตามที่ไหนแต่เป็นฝ่ายรปภที่ยืนรอท่าอยู่ก่อนแล้ว
เพียงแต่หนนี้ทั้งลูกน้องและรปภต่างไม่ไหวกายกลับยืนนิ่งตะลึงทำตัวไม่ถูกต่อภาพที่ปรากฎตรงหน้า
.
.
"ผัดไทยคะ มากับพี่"
น้ำเสียงหวานแต่หนักแน่นอันคุ้นเคย
ใบหน้ากลมออกหมวยตาเฉี่ยวชั้นเดียวผมทองหยักโศกถูกมัดรวบไว้เรียบร้อย ชุดเดรสยาวสีชมพูคอกว้างเปิดเผยให้เห็นเนินอกที่ถูกประดับด้วยสร้อยมุก ต่างหูเพชร วันนี้รินรดาสวยสง่ากว่าทุกวัน
"พี่....พี่ลมหวนมาได้ไงครับ"
มือเล็กเรียวงามยื่นออกมาจับที่ใบหูคนซื่อ ส่วนสายตานั้นจับจ้องที่มือของนักศึกษาตากลมนมฟูที่จับแขนผัดไทยอยู่
"ปล่อยแขนด้วยค่ะ"
อรพินตกใจรีบปล่อยมือทันที
"ตามพี่มาค่ะ" มือเรียวออกแรงบิดดึงหูจนคนร่างสูงต้องก้าวตาม
"พี่ อย่าดึงหูผม"
ตาเฉี่ยวชั้นเดียวหันกลับมามองด้วยสายตาที่โกรธจัด พ่อหนุ่มผัดไทยถึงกับต้องจำยอมเดินตามแต่โดยดี
ส่วนผอ.ขจรผงะถอยหลังออกไปหลายก้าวแล้วกล่าวออกมาเพียงสั้นๆ
"ท่านประธาน"
เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงแก่พนักงานรวมทั้งผู้บริหารหรือแม้แต่แขกเหรื่อที่เริ่มเข้ามาร่วมงาน ทั้งหมดต่างมองดูทั้งสองคนเดินบิดหูกันออกไป
.
.
ย้อนไปก่อนหน้านั้น
ภายในห้องพักรับรองซึ่งที่จริงก็เป็นเพียงฉากไม้กั้นที่ไว้พักรอสำหรับพิธีกรนักแสดงหรือผู้บริหารที่จะต้องขึ้นกล่าวบนเวที
"วันนี้ท่านประธานสวยมากค่ะ"
เลขาสาวกล่าวชื่นชมประธานคนงามที่กำลังนั่งไขว่ห้างโดยถอดเสื้อคลุมสีขาวพาดไว้กับพนักเก้าอี้
"พวกอาโกวล่ะมายัง"
รินรดาพูดขณะเปิดไอแพดดูข้อมูลต่างๆ ที่ต่องใช้สำหรับการพูดเปิดตัวสินค้า
"มาแล้วค่ะนั่งแถวหน้าเลยคงอยากดูท่านประธานใกล้ๆ ค่ะ"
"เอ่อท่านประธานคะ พรุ่งนี้สงกรานต์แล้วเรื่องเด็กผัดไทยล่ะ ถึงไหนแล้ว"
ประธานสาวไม่ตอบแต่ส่งสัญลักษณ์ทางมือว่าโอเคพร้อมกับรอยยิ้มมาแทน
พิมสุดาทำตาโตแล้วพูดออกมาเสียงเกือบดัง
"โห...ปิดดิวเรียบร้อยท่านประธานนี่ร้ายจริงๆ "
"บอกแล้วไม่เกินมือพี่หรอก"
ประธานสาวพูดอย่างวางท่าสายตาจับจ้องไอแพดราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเธอ ทั้งที่ความเป็นจริงถึงกับต้องทุ่มสุดตัวด้วยซ้ำชนิดที่ไม่เคยทำกับใครแบบนี้มาก่อน
.
.
"แล้วไล่ไอ้คนพรรค์นี้ไปไกลๆ ด้วยอั้วไม่ชอบขี้หน้ามัน"
ประธานสาวละสายตาจากไอแพดแหงนหน้าขึ้นมองพิมสุดา
"เสียงใครน่ะ ดังจัง"
พิมสุดาชะโงกหน้าผ่านประตูมองไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้นทั้งพนักงาน ผู้บริหารรวมทั้งแขกที่มารอร่วมงานต่างมองไปทางเดียวกัน
"อีตา ผอ.ขจรน่ะพี่เหมือนกำลังอาละวาดใส่เด็กพาร์ทไทม์"
"คนนี้ถือว่ามีอาโกวให้ท้ายชอบกร่างไปเรื่อย" ประธานสาวพูดพลางส่ายหน้า
"เหมือนจะเป็นเรื่องผู้หญิงน่ะพี่ มีใครนี่แหละไปเกาะแกะเด็กใหม่นาง"
"หือ...หล่อเชียว สูงล่ำหน้าคมคิ้วหนา โหหล่อเลยพี่ส่วนผู้หญิงก็ไม่เบาตากลมร่างเพรียวนมนี่กลมบ๊องเลยสงสัยเป็นแฟนกัน"
"เรานี่รู้ดีจัง"
"นั่น ชัวร์เกาะแขนกันด้วยอีตาขจรนี่จริงๆ ผู้หญิงมีแฟนแล้วยังจะเอาให้ได้ พี่ลองดูดิ ผู้หล่อมากกกก"
พิมสุดาเกาะขอบประตูดูเหตุการณ์ด้วยสายตาซุกซนอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก จนประธานสาวอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นมาดูตาม ไม่ใช่แค่นางเท่านั้นด้วยเสียงอันดังของผอ.ขจร ตอนนี้สายตาของทั้งฮอล์ต่างจับจ้องมาที่บูธดังกล่าว
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าประธานสาวคือ
สาวน้อยตากลมกำลังเกาะแขนผัดไทยที่กำลังปกป้องนางจากการคุกคามของ ผอ.ขจร
ใบหน้าแดงก่ำควันออกหูทันที พูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง
"พิม ! ให้อาอี๊รับช่วงต่อพี่ด้วย"
พูดจบก็เดินฉับๆ ออกไปโดยไม่มีการอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น
เลขาสาวที่ไม่เข้าใจสถานะการณ์ได้แต่เดินตามไปอย่างมึนงง
.
.
ประธานสาวที่ไม่สนใจต้นสายปลายเหตุใดๆ ทั้งสิ้นพอไปถึงก็........
"ผัดไทยคะ มากับพี่" น้ำเสียงหวานแต่หนักแน่น
"พี่....พี่ลมหวนมาได้ไงครับ"
มือเล็กเรียวงามยื่นออกมาจับที่ใบหูคนซื่อ ส่วนสายตานั้นจับจ้องที่มือของนักศึกษาตากลมนมฟูที่จับแขนผัดไทยอยู่
"ปล่อยแขนด้วยค่ะ"
สาวน้อยอรพินตกใจรีบปล่อยมือทันที
"ตามพี่มาค่ะ" มือเรียวออกแรงบิดดึงหูจนคนร่างสูงต้องก้าวตาม
"พี่ อย่าดึงหูผม"
จากนั้นก็ลากผัดไทยผู้โชคร้ายออกไปท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน
พิมสุดายกมือขึ้นทาบอก
ผอ. ขจร ผงะถอยหลังพูดออกมาสั้นๆ
"ท่านประธาน"
สาวน้อยตากลมอรพินยกมือขึ้นปิดปากรำพึงเบาๆ "ผัดไทยมีเมียแล้ว"
ส่วนผู้จัดการชุ๊เป็นลมไปเลย
ก้าวแล้วก้าวเล่าที่รปภคนซื่อเดินตามการดึงหูมหาโหด จนกระทั่งมาหยุดต่อหน้าหญิงชราสามคนที่กำลังยืนอ้าปากค้างอยู่
"ผัดไทยนี่อาโกว"
พร้อมกับบิดหูแรงกว่าปกติ แม้แต่คนซื่อบื้อยังเข้าใจได้ว่าว่าต่องทำอะไร
"สวัสดีครับอาโกว"
คนซื่อโน้มตัวลงไหว้อย่างสวยงามทั้งที่หูยังถูกบิดอยู่
"ส่วนคนนี้อาอึ้ม"
"สวัสดีครับอาอึ้ม"
คราวนี้ยกมือไหว้ไวกว่าเดิมเจ้าตัวคงคิดได้ถ้าขืนช้าหูขาดแน่
"ส่วนนี่อาอี๊"
"สวัสดีครับอาอี๊ ฝากตัวด้วยครับ"
(หึ ไอ้เด็กบ้าหัวไวนะเรารู้จักฝากตัวถูกคนด้วย)
ผู้อาวุโสทั้งสามยืนรับไหว้อย่างงงๆ
"หนูไปนะคะ"
โดยไม่หันมามองรินรดาลากหูผัดไทยออกจากงานท่ามกลางสายตามากมายที่ต่างคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ