ตอนที่ 10 เงาแห่งเมืองหลวง

755 Words
หลังจากเหตุการณ์ปะทะกับนักฆ่าของซิลเวสเตอร์ อลิซและคล้าวก็เดินทางด้วยความระมัดระวังสูงสุด พวกเขาหลีกเลี่ยงถนนสายหลักและเลือกใช้เส้นทางที่ซับซ้อนและลับตาคนมากขึ้น แม้จะทำให้การเดินทางช้าลง แต่ก็ปลอดภัยกว่ามาก ตลอดเส้นทาง อลิซได้ใช้เวลาเรียนรู้จากคล้าวเกี่ยวกับโลกนี้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คน วัฒนธรรม และความเชื่อต่างๆ คล้าวสอนวิธีเอาตัวรอดในป่า การอ่านแผนที่จากดวงดาว และแม้แต่การใช้สมุนไพรพื้นบ้านบางชนิด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เลดี้เซเรน่าตัวจริงไม่มีวันได้เรียนรู้ "คุณคล้าว... คุณดูมีความรู้รอบด้านจริงๆ นะคะ" อลิซเอ่ยชมขณะที่พวกเขากำลังพักทานอาหารง่ายๆ ริมลำธาร คล้าวเพียงยิ้มเล็กน้อย "ผมใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ข้างนอกครับคุณเซเรน่า การได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงมันมีค่ามากกว่าการอ่านจากตำรามากนัก" เขาหยุดชั่วครู่แล้วมองไปที่ดอกไม้รัตติกาลที่อลิซห่อเก็บไว้อย่างดี "ตอนนี้เราก็ใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้วนะครับ คุณมั่นใจไหมว่าแผนการของเราจะสำเร็จ?" อลิซมองไปที่ดอกไม้รัตติกาลในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคล้าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น "ฉันไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะคุณคล้าว แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ซิลเวสเตอร์กำลังทำลายทุกอย่าง และเจ้าหญิงเอลิเซียก็ตกอยู่ในอันตราย" เธอพยักหน้าเล็กน้อย "สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเราต้องเข้าไปในงานเลี้ยงให้ได้" เมื่อเข้าใกล้เมืองหลวงมากขึ้น บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ความหรูหราและความวุ่นวายของมหานครเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น แม้จะยังอยู่นอกกำแพงเมือง แต่ผู้คนก็เริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ ทหารยามตามจุดตรวจต่างๆ ก็เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน "เราจะผ่านด่านตรวจเข้าไปได้ยังไงคะ" อลิซถามอย่างกังวล เมื่อเห็นขบวนเกวียนและผู้คนที่กำลังรอการตรวจค้นจากทหารยาม คล้าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เราจะใช้วิธีที่ง่ายที่สุดครับ" เขาพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "เราจะกลมกลืนไปกับพวกเขา" คล้าวพาอลิซไปยังตลาดค้าสัตว์ที่อยู่ไม่ไกลจากกำแพงเมืองนัก เขาใช้เงินจำนวนหนึ่งซื้อเสื้อผ้าที่ดูธรรมดาที่สุดสำหรับทั้งคู่ ทั้งเสื้อคลุมตัวเก่าที่ดูไม่มีราคา และหมวกปีกกว้างที่ช่วยบดบังใบหน้าของอลิซได้อย่างดีเยี่ยม จากนั้นคล้าวก็เช่าเกวียนบรรทุกฟางเก่าๆ คันหนึ่ง "คุณจะทำอะไรคะเนี่ย" อลิซถามอย่างสงสัย "เราจะปลอมตัวเป็นชาวนาที่จะนำฟางไปขายในเมืองครับ" คล้าวอธิบาย "มันเป็นวิธีที่เรียบง่ายที่สุดและไม่น่าสงสัยที่สุดสำหรับทหารยาม" อลิซรู้สึกทึ่งกับไหวพริบของคล้าว เธอเองคิดแต่เรื่องการแฝงตัวแบบลับๆ ล่อๆ แต่คล้าวกลับเลือกวิธีที่กลมกลืนไปกับผู้คนอย่างชาญฉลาด เมื่อถึงด่านตรวจ คล้าวแสดงท่าทางกระตือรือร้นและพูดคุยกับทหารยามอย่างเป็นกันเอง เขาบ่นเรื่องสภาพอากาศและราคาฟางที่ตกต่ำ ทำทีเป็นชาวนาที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทหารยามไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก พวกเขาเพียงกวาดสายตาสำรวจฟางในเกวียนอย่างหยาบๆ และปล่อยให้พวกเขาผ่านเข้าไป อลิซแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเกวียนของพวกเขาผ่านพ้นด่านตรวจมาได้ เธอซ่อนดอกไม้รัตติกาลไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างมิดชิดตลอดเวลา เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองหลวง ความวุ่นวายก็พุ่งเข้ามาปะทะ ประชากรที่หนาแน่น เสียงอึกทึกครึกโครมของตลาด ร้านค้าที่เรียงราย และกลิ่นอายของเมืองใหญ่ที่แตกต่างจากเมืองพอร์ตเวลล์อย่างสิ้นเชิง คล้าวพาอลิซมายังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่อยู่ในย่านคนพลุกพล่าน ซึ่งเป็นโรงเตี๊ยมที่ดูธรรมดา ไม่สะดุดตา และไม่ค่อยมีคนสังเกต "เราจะพักที่นี่ก่อนครับ" คล้าวกล่าว "คืนนี้งานเลี้ยงที่ซิลเวสเตอร์จัดขึ้นจะเริ่มขึ้นแล้ว เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม" อลิซพยักหน้า เธอรู้ว่านี่คือวินาทีสำคัญที่สุด การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และเธอจะต้องเผชิญหน้ากับซิลเวสเตอร์ตัวจริง ตัวร้ายที่เธอเคยอ่านในนิยาย บัดนี้กำลังจะกลายเป็นคู่ปรับที่เธอต้องเอาชนะให้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD