ตอนที่ 2 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

1162 Words
นลินนิภาวิ่งออกมาไกลจากตรงนั้นมาก มือบางแตะกลีบปากบวมเจ่อ ที่ยังคงร้อนระอุจากน้ำมือของเตมินทร์ เธอควรจะดีใจที่โดนเขาจูบ แต่เปล่าเลย สายตานั้นมองมาด้วยความรังเกียจ ระหว่างเธอกับศศิรา ความสวยช่างต่างกันลิบลับ ถึงแม้จะเรียนอยู่คณะเดียวกัน เธอก็ยังเป็นผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่คนหนึ่งที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง 19.00 น. “นานะมาแล้วค่ะแม่” พอเธอกลับมาถึงบ้านในสลัมหลังเล็กซอมซ่อ ก็เห็นมารดานั่งจัดกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ “มาพอดีเลย แม่กำลังจะย้ายไปทำงานที่ใหม่ นานะจะไปอยู่กับแม่ไหมลูก” สมศรียิ้มให้บุตรสาว “ทำงานที่ใหม่? คือยังไงเหรอคะแม่” นลินนิภาถามด้วยความสงสัย เพราะแม่ของเธอเพิ่งได้งานที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อไม่นานมานี้เอง “แม่ได้งานเป็นแม่บ้าน เงินเดือนก็ดีกว่า มีที่พักให้ฟรี เพราะคุณท่านเขาใจดี บอกให้แม่พานานะไปอยู่ด้วยกันก็ได้ แต่จะไกลจากมหาวิทยาลัยหน่อย” สมศรีมั่นใจว่านลินนิภาต้องไปอยู่กับตน เพราะไม่เคยแยกห่างจากกันเลย “แม่อยู่ไหน นานะก็จะอยู่ด้วยค่ะ ถึงจะไกลก็ไม่เป็นไร นานะจะขึ้นรถเมล์ไปเรียนเองค่ะ” แม่เธอทนลำบากเลี้ยงเธอมาเพียงลำพัง ทว่าบิดาก็ไม่มี ตั้งแต่จำความได้เธอไม่เคยเห็นหน้าพ่อตัวเองด้วยซ้ำ บางวันเธอก็ต้องทำงานพิเศษหลังจากเลิกเรียน และในวันหยุด หารายได้เพื่อจะแบ่งเบาภาระของมารดา โดยเฉพาะค่าเทอมละหลายหมื่นบาท ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม ออกแบบโดยอาจารย์ชื่อดัง ทุกอย่างเป็นสไตล์ยุโรปทั้งหมด มูลค่าแทบจะประเมินไม่ได้ “รีบๆกันหน่อยนะ ใกล้เวลาที่คุณชายจะกลับมาแล้ว” มีนาเป็นหัวหน้าแม่บ้านสาวสวยที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบห้าปีเท่านั้น หล่อนต้องทำหน้าที่แทนคุณแม่บ้านใหญ่ที่ลาพักร้อนถึงสองเดือนเต็ม บรรดาสาวใช้ทั้งหมดรีบเร่งมือจัดห้องพักสำหรับแขกให้หญิงสาวที่คุณชายจะพามาพักที่คฤหาสน์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเวลาที่คุณท่าน กับคุณผู้หญิงไม่อยู่ คุณชายก็มักจะทำแบบนี้ประจำ ส่วนพวกหล่อนก็ได้แต่ปิดปากเงียบ ในเวลาที่คุณท่านถามถึงความเรียบร้อยภายในบ้าน บรื้นนน เสียงเครื่องยนต์รถยุโรปขับเข้ามาจอด ก่อนที่เตมินทร์จะเปิดประตูแล้วก้าวขาลงมาจากรถ ส่วนคนที่นั่งมาข้างๆก็คือชาลิสา อดีตคนรักที่เตมินทร์ไม่อาจลืมเลือน “ไม่ได้มาซะนาน เซนยังอยู่บ้านคนเดียวเหรอ” หญิงสาวอายุมากกว่าเตมินทร์สามปี เหตุที่ทำให้ทั้งสองคนต้องเลิกกันเป็นเพราะเธอต้องไปเรียนต่อที่อเมริกา ซึ่งมันก็ผ่านมานานหลายปีจนเธอได้เรียนจบแล้ว ทว่ายังคงคุยติดต่อกันอยู่ตลอด “จะให้ผมอยู่กับใครล่ะครับ เข้าบ้านกันดีกว่า” แน่นอนว่าเขาไม่เคยยิ้มให้ใคร ยกเว้นแต่กับชาลิสา นานเกือบสองปีที่ไม่ได้เจอกัน สถานะที่เธอให้เขาเป็นได้เพียงพี่น้องเท่านั้น ทุกคนในบ้านรู้จักชาลิสาเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก ตั้งแต่ที่เลิกกันไป ก็ไม่มีใครมาแทนที่เธอได้อีก เขาจึงได้กลายเป็นหนุ่มเพลย์บอยชอบสนุกไปวันๆ เพราะช้ำรักในอดีต เตมินทร์พาหญิงสาวมายังห้องพักที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้า จึงทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างเงียบๆ “พ่อแม่พี่ย้ายไปทำงานที่เมกา พอพี่กลับมาไทยเลยต้องมาอาศัยบ้านเซนอยู่” “ไม่เป็นไรครับ พี่หลิวจะอยู่นานๆเลยก็ได้” เขาดีใจด้วยซ้ำที่ชาลิสาเลือกที่จะมาพักพิงในบ้านของเขา เผื่อความรู้สึกเก่าๆจะกลับมาบ้าง “แค่อาทิตย์เดียวก็เกรงใจเซนจะแย่แล้ว” ในขณะที่หล่อนกำลังพูด ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นในตู้เสื้อผ้า กึก! กึก! “เสียงอะไร เซนได้ยินไหม” ชาลิสาหันไปมองตู้เสื้อผ้า ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา “เสียงเหรอครับ?” เขามองแต่หญิงสาว สนใจแต่เธอ หูฟังแค่สิ่งที่เธอกำลังพูด จึงไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “ใช่ พี่ได้ยินมาจากทางนี้” หล่อนเอื้อมมือเปิดตู้เสื้อผ้าออก ก่อนจะผงะตกใจเมื่อเห็นสาวใช้นั่งคุดคู้อยู่ในนั้น “นี่เธอ!” “เธอมาทำอะไรในบ้านของฉัน” คนที่ตกใจกว่าคือเตมินทร์ เขาแทบจะเดือดพล่านเมื่อเห็นนลินนิภาใส่ชุดยูนิฟอร์มของสาวใช้อยู่ในบ้านของเขา “เอ่อ...คือว่า...คือดิฉันขอโทษค่ะ ดิฉันแค่เข้ามาเอาไม้กวาดที่ลืมไว้ แต่ว่าพี่...เอ่อ...คุณ ก็เข้ามาพอดี เลยไม่อยากรบกวนค่ะ” นลินนิภาละล่ำละลักบอก เธอเกือบจะพลั้งปากเรียกเขาว่าพี่ แต่ก็เปลี่ยนสรรพนามทัน ก่อนหน้านี้เธอได้รับคำสั่งให้ทำความสะอาดห้องพักรับรองแขก โดยที่ไม่ทราบมาก่อนว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นของเตมินทร์ โลกนี้ช่างกลมจริงๆ “ออกไป!” เขาตะคอกเสียงใส่เด็กสาวอย่างฉุนเฉียว “คือดิฉัน ดิฉัน...” คนตัวเล็กน้ำตาแทบร่วง เธอแค่ไม่อยากให้เขารู้ว่ามีเธออยู่ในห้อง “เซน ใจเย็นๆก่อนสิ” ชาลิสาปราม เมื่อเห็นว่าเตมินทร์แสดงออกถึงอารมณ์ฉุนเฉียวเกินไป “ใครรับเธอเข้าทำงาน” เขาเห็นแกหญิงสาว จึงได้ปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง แต่พอนลินนิภาเอาแต่มองเขาตาปริบๆ ก็ยิ่งทำให้โมโหกว่าเดิม “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง” “ดิฉันย้ายมาอยู่กับแม่ค่ะ แม่เพิ่งได้งานเป็นแม่บ้านที่นี่” ร่างบางสั่นเทา รีบก้มหน้างุด “ไปให้พ้นหน้าฉันได้ละ” เตมินทร์พูดจบก็หันไปมองทางอื่น รอกระทั้งเด็กสาวขยับตัวออกมาจากตู้เสื้อผ้า พร้อมกับไม้กวาดในมือ “ค่ะ” นลินนิภาพยักหน้าหงึกๆ แล้ววิ่งออกมาทางประตู ตอนนี้หัวใจเธอยังเต้นแรงไม่หยุด ตอนกลางวันเธอเพิ่งจะโดนเตมินทร์ขโมยจูบแรกไป พอตกเย็นเธอกับแม่ก็ย้ายมาอยู่ในบ้านของเขา เธอควรจะดีใจ หรือเสียใจมากกว่ากัน “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พี่หลิวจะได้พักผ่อน” ก่อนหน้านี้เขายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากคุยกับชาลิสา แต่พอนลินนิภาโผล่หน้ามาก็ทำเอาเขาหมดอารมณ์ไปเสียทุกอย่าง พอเตมินทร์พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทันที ทำเอาหญิงสาวได้แต่มองตามอย่าง งงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD