Prologue
ร่างบางเย้ายวนในชุดรัดรูปแนบเนื้ออวดสัดส่วนโค้งเว้าที่รับกันอย่างลงตัว กำลังวาดลวดลายอย่างเซ็กซี่ตามจังหวะของเสียงเพลง หญิงสาวปล่อยตัวให้ไหลไปตามอารมณ์และฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
“คุณหนูครับ เมามากแล้วนะ รีบกลับดีกว่า เดี๋ยวนายใหญ่กลับมา แล้วรู้ว่าคุณหนูยังไม่กลับจะแย่เอานะครับ” พฤกษ์เดินเข้ามาเรียกคุณหนูของตนที่ตอนนี้ กำลังเต้นเลื้อยไปมาโดยไม่สนใจคนรอบข้าง
“ป๊าไม่รู้หรอกน่าเฮียพฤกษ์ เพราะว่าวันนี้ป๊าไม่กลับบ้าน”เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้
ทำไมเธอถึงรู้นะเหรอว่าวันนี้ป๊าเธอจะไม่กลับบ้าน ก็ตั้งแต่แม่เธอเสียไปเมื่อยังเด็ก ทุกๆวันอาทิตย์พ่อของเธอก็จะไม่อยู่บ้าน จนโตขึ้นมาเธอถึงได้รู้ว่าพ่อไปหาความสุขสำราญให้ตัวเองทุกวันอาทิตย์ แต่เธอก็เข้าใจนะว่าท่านคงเหงา เลยไม่ว่าอะไรในเมื่อมันเป็นความสุขของท่าน
“กลับดีกว่าครับนี่ก็ดึกมากแล้วนะ”
“กลับก็ได้ เฮียพฤกษ์อุ้มเจ้าสัวไปขึ้นรถหน่อยสิ เดินไม่ไหวแล้ว จะอ้วก”พฤกษ์ส่ายหน้า ก่อนจะแบกคุณหนูตัวน้อยที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องสาวขึ้นบ่า จะไม่ให้เขาเอ็นดูเธอได้ไงก็ตั้งแต่นายหญิงเสียไปตอนคุณหนูอายุเพียงห้าขวบ เขาก็ต้องคอยเป็นทั้งบอดี้การ์ด ทั้งเพื่อนเล่น คอยช่วยเจ้านายเลี้ยงคุณหนูตัวน้อยมาตั้งแต่เด็ก
เจ้าสัว หรือนางสาวนลินญา เทวัญอัศวะภักดิ์ อายุ19ปี เป็นลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของป๊าเหมันต์ เทวัญอัศวะภักดิ์ เศรษฐีที่รวย
ติดอันดับต้นๆของประเทศ และเพราะคุณแม่ที่เสียไปมีดีกรีเป็นถึงนางงาม ทำให้คุณหนูอย่างเธอมีพร้อมทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ ที่ไม่เป็นรองใคร หากพูดถึงเรื่องหน้าตา เธอยอมรับแบบแมนๆเลยว่าเธอสวยมากกกก ไม่ต้องรอให้ใครมาชมเธอก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่าเธอสวยได้แม่ หน้าตาดีได้พ่อแต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เข้าใจก็คือ ทำไมคนสวยอย่างเธอถึงได้โดนทิ้ง!! และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเมาในวันนี้ แฟนคนแรกที่คบกันมาตั้งแต่มอปลายจนเข้ามหาลัย มาขอบอกเลิกเธอด้วยเหตุผลที่ว่า เจ้าสัวเธอดีเกินไป เราเลิกกันเถอะ
เหตุผลน้ำเน่าที่เธอไม่คิดว่าหญิงสาวตัวน้อย ที่ทั้งสวยและรวยมากอย่างเธอจะได้รับ แม้เธอจะรู้ว่าเหตุผลจริงๆที่แฟนหนุ่มขอบอกเลิกเธอนั้น เป็นเพราะคบกันมาเป็นปีแล้ว แต่เธอไม่ยอมให้เขาเจาะไข่แดงเธอนั่นเอง แล้วมันผิดด้วยหรือที่เธออยากเก็บซิงไว้ชิงโชค
ปัง ปัง
เสียงปืนที่ดังขึ้น ทำให้รถที่ขับอยู่ในซอยเปลี่ยวต้องหยุดจอดอย่างกะทันหัน เนื่องด้วยเส้นทางนี้เป็นทางลัดที่พฤกษ์เคยใช้ประจำ คืนนี้ที่ดึกแล้วเขาเลยเลือกพาคุณหนูมาทางนี้
“มีคนจุดพลุเหรอเฮียพฤกษ์ เจ้าสัวขอไปดูหน่อยนะ”พูดจบคนเมาที่เข้าใจว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงพลุ เปิดประตูรถลงไปยังต้นเสียงทันที
“เฮ้ย คุณหนูนั่นไม่ใช่เสียงพลุ กลับมาครับ”พฤกษ์รีบดับเครื่องยนต์แล้ววิ่งตามคุณหนูไปอย่างไว เพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับเจ้าตัวเล็กของเขา
ร่างบางเดินโซซัดโซเซมาด้วยความเมายืนนิ่งด้วยความตกใจ เมื่อเธอเดินมาถึงบ้านไม้โทรมๆหลังหนึ่ง ดวงตาคู่สวยมองเห็นชายหญิงคู่หนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่
“คุณหนู!! คุณหนูครับ”พฤกษ์จับร่างบางที่ตกใจกับภาพตรงหน้าจนเสียขวัญมากอดแนบอกแล้วลูบหัวปลอบเรียกสติเธอให้กลับมา
“พ่อ แม่ ตื่นสิ ตื่น ฮืออออ”ไม่ทันที่ทั้งคู่จะหายตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เด็กชายตัวน้อยรูปร่างผอมบางวิ่งผ่านทั้งสองคน เข้าไปกอดร่างที่นอนเปื้อนเลือดอยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร
“เฮียพฤกษ์เรียกรถพยาบาลหน่อย” หญิงสาวที่เพิ่งได้สติเอ่ยบอกให้ชายหนุ่มเรียกรถพยาบาลมารับคนที่โดนยิงทั้งสองคน เธอได้แต่ภาวนาขอให้คนทั้งคู่อยู่รอดปลอดภัย
เธอขอให้พฤกษ์พาเธอตามมาที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อมาถึงก็เห็นเด็กชายร่างผอมบางนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างน่าเวทนา
“ไอ้หนูพ่อแม่เป็นยังไงบ้าง”พฤกษ์ถามเด็กชาย แม้เขาจะพอเดาได้บ้างว่าคำตอบมันเป็นอย่างไร
“พ่อกับแม่ผมตายแล้ว”เสียงสะอื้นเอ่ยบอกคนแปลกหน้าทั้งสองที่เป็นคนเรียกรถพยาบาลให้มารับพ่อแม่เขา
“พี่เสียใจด้วยนะ” นลินญานั่งลงกอดปลอมเด็กชายที่ดูแล้วอายุคงไม่เกินสิบขวบอย่างไม่คิดรังเกียจ
“แล้วเราจะเอายังไงต่อ มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกรึเปล่าให้พี่ติดต่อให้มั้ย”
“ไม่มีแล้วครับ ผมมีแค่พ่อกับแม่”เสียงสะอื้นเอ่ยบอก
“แล้วจะอยู่ยังไง ปล่อยให้อยู่คนเดียวก็คงไม่ได้ด้วย”
“ผมอยู่คนเดียวได้”เด็กชายพูดออกมา แม้เขาจะอายุเพียงสิบขวบ แต่เขาเคยช่วยแม่ทำงานขายพวงมาลัยมาตั้งแต่เด็ก และเขาก็ไม่อยากจะไปเป็นภาระให้ใคร
“อยู่คนเดียวได้ยังไง ตัวเท่าลูกหมา”
“ไปอยู่บ้านฉันไหม ลูกหมาตัวเดียวฉันเลี้ยงได้”นลินญาเอ่ยชวนเด็กน้อย เธอทำใจทิ้งเด็กที่น่าสงสารคนนี้ไปไม่ลงจริงๆ
“ไม่เอาครับ ผมไม่อยากไปเป็นภาระใคร” เด็กชายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น
“ภาระอะไร พ่อฉันรวย และฉันก็รวยแถมใจดีมากกก รับเลี้ยงลูกหมาคนเดียวสบายมาก”เธอโอ้อวดแถมยิ้มให้เด็กชายอย่างเป็นมิตร
“....”เด็กชายได้แต่นั่งเงียบ ด้วยไม่รู้ว่าจะต้องจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับทำให้เขารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ถึงแม้เธอจะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม
“เอาเป็นว่าตกลง ไปอยู่บ้านฉัน ถ้าไม่สบายใจที่จะอยู่เฉยๆพอโตจนทำงานได้ก็ค่อยช่วยทำงานก็ได้ จะได้สบายใจโอเคไหม”
เด็กชายพยักหน้ารับ อย่างน้อยไปอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า อาจจะดีกว่าต้องเร่ร่อนอยู่คนเดียว เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือใครให้พึ่งพาแล้ว ถ้าไม่ไปอยู่กับคนตรงหน้าก็คงต้องอยู่ข้างถนนเป็นแน่
“ดีมาก นายชื่ออะไรลูกหมาน้อย”นลินญาจับจูงมือเล็กให้เดินไปด้วยกัน
“ชื่อดินครับ ชื่อจริงแผ่นดิน ศิวะราช”เด็กชายแผ่นดินเอ่ยตอบเสียงอู้อี้
“แผ่นดิน ชื่อเท่ห์ดีหนิ ฉันชื่อเจ้าสัว เรื่องพ่อแม่นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวเฮียพฤกษ์จะจัดการให้”เธอหันไปบอกชายหนุ่มที่เดินตามมาด้านหลัง
พฤกษ์ได้แต่ยิ้มรับ และทำตามคำสั่งของหญิงสาวตัวเล็กที่ตกใจจนสร่างเมา แถมยังไปรับเลี้ยงเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาอีก นี่ถ้าเจ้านายเขารู้เข้าคงด่าเขาหูดับ แต่จะให้ห้ามลูกสาวก็คงไม่ทำเพราะเจ้านายเขาทำเป็นแค่อย่างเดียวคือตามใจลูกสาวคนสวย