อีกด้าน
“เป็นไงล่ะมึง” ทิคเกอร์เดินเข้าไปตบไหล่และพูดขึ้น
“…” คัตเตอร์ก็เงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา เอาแต่มองไปทางประตูที่มีร่างบางของแฟนสาวเดินออกไป
“จะเอายังไงต่อ” ทิคเกอร์ก็ถามขึ้นอีกครั้ง
“…” ยังคงเงียบ
“เฮ้อ มึงจะเงียบอีกนานไหม” ทิคเกอร์ก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
“กูกลับละ” พูดจบ คัตเตอร์ก็เดินออกไปทันที
“ไอ้เวร จะเอายังไงก็ไม่พูด” ทิคเกอร์ได้แต่บ่นตามหลัง
@คอนโดZ
“โอเคไหมแก” เบลเดินเข้ามากอดร่างบางของรันเวย์ไว้
ร่างบางก็ได้แต่ส่ายหน้าร้องไห้ออกมา หลังจากที่เธอบอกเลิกคัตเตอร์ไป ร่างบางเดินออกมาจากตรงนั้นและกลับมาคอนโดทันที ซึ่งเบลก็ตามกลับมาด้วยเพราะเป็นห่วงเพื่อน เนื่องจากรันเวย์เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่เดินออกมา
“อยากร้องก็ร้องออกมาให้หมด” เบลกอดปลอบร่างบางอยู่อย่างนั้น
กริ๊ง กริ๊ง แล้วเสียงออดก็ดึงขึ้น เบลจึงเดินไปเปิดประตูห้องคอนโดของร่างบาง
“ยัยรันเป็นไงบ้าง” ลูน่าถามขึ้นทันทีที่มาถึง ตามด้วยน้ำที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เกิดอะไรขึ้น” เบลจึงเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้เพื่อนทั้งสองฟัง ก่อนที่ลูน่ากับน้ำจะเดินเข้าไปหายังร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงโซฟาหรูกลางห้อง
“ยัยรัน” รันเวย์ที่ได้ยินเสียงเพื่อนก็ปล่อยโฮ กอดเพื่อนไม่ปล่อย
“ไม่เป็นไรนะ มึงยังมีพวกกูอยู่ข้างๆ” ลูน่าเอ่ยปลอบเพื่อน
“กูน่าจะเชื่อพวกมึงตั้งแต่แรก” รันเวย์พูดออกไปทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด
“ไม่เป็นไรมึงๆ ทิ้งไปซะผู้ชายแบบนั้น”
“เดี๋ยวกูพาไปหาผู้ใหม่” ลูน่าพูดอย่างพยายามให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้น ร่างบางที่รับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากเพื่อนทั้งสามคนก็เริ่มหยุดร้องไห้
“ขอบคุณนะพวกมึง” ร่างบางเอ่ยออกไป พร้อมกับมือเช็ดใบหน้าที่มีแต่คราบน้ำตา
“กูขอแค่วันนี้วันเดียว” ร่างบางพูดออกมาอย่างพยายามที่จะกั้นเสียงสะอื้น
“ให้แค่วันนี้นะ” เบลพูดขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดปลอบเพื่อน รันเวย์ก็กอดตอบ
“อืม แค่วันนี้” รันเวย์พูดอย่างจริงจัง เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เสียใจให้ผู้ชายแบบนั้น เธอจะไม่อ่อนแอเพราะคนแบบนั้น
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
“เอาล่ะนักศึกษา วันนี้อาจารย์จะให้ให้ทำโปรเจ็คซึ่งเป็นงานกลุ่ม ซึ่งอาจารย์จัดไว้ให้แล้วเดี๋ยวอาจารย์จะแปะไว้ให้ดูหน้าห้อง” อาจารย์หนุ่มเอ่ยบอก
“งานกลุ่มอะไรหรอคะอาจารย์” นักศึกษาหญิงคนหนึ่งถามขี้น
“ให้นักศึกษาไปศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่นักศึกษาสนใจ แล้วนำข้อมูลมาทำสื่อโฆษณาออกมาให้น่าสนใจ” อาจารย์หนุ่มอธิบาย
“กี่คะแนนครับ” นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งถาม
“20 คะแนนดิบครับ แต่ถ้ากลุ่มไหนทำออกมาได้ดีที่สุด อาจารย์จะให้คะแนนพิเศษอีก 5 คะแนน” อาจารย์หนุ่มยังคงอธิบายเกี่ยวกับเรื่องคะแนน
“โถ่วว”
“คะแนนพิเศษ 5 คะแนนเลยเหรอ”
“คะแนนเยอะมาก” นักศึกษาในห้องต่างพูดคุยกันเมื่อฟังอาจารย์หนุ่มอธิบายเรื่องคะแนน
“ถ้าเข้าใจแล้ว นักศึกษามาดูรายชื่อกลุ่มที่ด้านหน้าได้เลยครับ” แล้วอาจารย์หนุ่มก็แปะรายชื่อไว้ที่ผนังด้านหน้าห้อง
“ไปดูรายชื่อกัน” ลูน่าเอ่ยขึ้นทันที ที่อาจารย์หนุ่มแปะรายชื่อเสร็จ แล้วพวกเราก็เดินไปดูรายชื่อ ฉันมองหาชื่อของฉันว่าอยู่กลุ่มไหน
“กูอยู่กลุ่มเดียวกับอิน้ำ” ลูน่าหันมาเอ่ยบอกพวกฉัน ฉันจึงหาชื่อฉันต่อ
“มึงอยู่กลุ่มเดียวกับกู” แล้วยัยเบลก็หันมาเอ่ยบอกฉัน ซึ่งฉันก็เจอชื่อฉันพอดี
“กลุ่ม5 รันลิษา เปมิกา กันตพล และธันย์กรงั้นหรอ” ฉันอ่านรายชื่อกลุ่มก่อนจะมาถึงชื่อคนสุดท้ายของกลุ่มทำให้ฉันชะงักไป
“ไอ้ทีเร็กซ์เราอยู่กลุ่ม5” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ฉันจึงหันกลับไปมองด้านหลัง จึงเห็นว่าทีเร็กซ์ยืนอยู่ด้านหลังแล้วมองมาทางฉันพอดี
“อืม” เขาตอบกลับเพื่อนเสียงนิ่งเรียบ แต่สายตายังคงมองฉันอยู่
“ทีเร็กซ์อยู่กลุ่มเดียวกับเราเหรอ” เบลหันมากระซิบกับฉัน ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป
“กูอยู่กับไอ้กรว่ะ” แล้วเพื่อนของทีเร็กซ์อีกคนหนึ่งก็พูดขึ้น
“แล้วรันลิษากับเปมิกา คือใครวะ เหมือนจะเป็นผู้หญิงนะ” เพื่อนทีเร็กซ์ที่อยู่กลุ่มเดียวกับฉันพูดขึ้น
“เอ่อ พวกฉันเองค่ะ” เป็นยัยเบลที่เอ่ยบอกออกไป
“ยังไงขอแอดไลน์ไว้หน่อยนะคะ” ยัยเบลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้เพื่อนทีเร็กซ์
“ครับ” เพื่อนทีเร็กซ์ก็ทำหน้างง
“ฉันจะสร้างไลน์กลุ่มไว้คุยเรื่องงานค่ะ” ยัยเบลอธิบาย
“อ่อครับ นี่ครับ” แล้วกันต์ก็หยิบโทรศัพท์มาพิมพิ์ไอดีไลน์ตัวเองก่อนจะยื่นคืนให้เบล
“ส่วนของไอ้ทีเร็กซ์เดี๋ยวผมดึงมันเข้าเองครับ” กันต์พูดขึ้น
“โอเคค่ะ มีอะไรก็ทักไลน์กลุ่มได้เลยนะคะ” เบลเอ่ยบอก
“งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เบลบอก ฉันจึงหันไปหาทีเร็กซ์ก่อนจะยิ้มให้เพื่อทำลายความอึดอัดระหว่างเรา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรือพูดอะไรออกมา ฉันจึงเดินออกมาพร้อมกับเบล
“ไปกินข้าวกันเลยไหม” น้ำเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อพวกเราเดินกลับมายังโต๊ะที่นั่งเรียน
“ไปสิ หิวจะตายอยู่แล้ว” ยัยลูน่าก็รีบเอายบอกพร้อมกับลูบที่ท้องบ่งบอกว่าหิวมาก แล้วเราก็เดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวพวกมึงเดินกันไปก่อนเลยนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” ฉันเอ่ยบอกเพื่อนออกไป
“ให้พวกกูรอไหม” เบลถาม
“ไม่เป็นไร ยัยลูน่าหิวจะตายและ” ฉันตอบกลับไป
“งั้นตามไปนะ” ลูน่าก็พยักหน้าบอก ฉันจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ
อีกด้าน
“สรุปว่าเราจะไปโรงเรียนที่น่านกันนะ” ทรัชเอ่ยขึ้นในที่ประชุม
“อืม” กราฟฟิคก็พยักหน้าตอบ
“กำหนดไปปลายเดือนนี้ มีใครติดขัดอะไรไหม” ทรัชเอ่ยถาม
“เอ่อ แล้วเรื่องเอกสาร ไหนจะติดต่อสถานที่เราจะดำเนินการทันหรอคะ” หนึ่งในกรรมการชมรมเอ่ยถามขึ้น เพราะตามที่ทรัชบอกก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน
“จะรับผิดชอบงานใหญ่ก็ต้องทำให้ได้” กราฟฟิคเอ่ยบอกเสียงเรียบนิ่ง
“ทันอยู่แล้วครับ เอกสารพวกพี่เตรียมไว้หมดแล้ว เหลือแค่ระบุสถานที่ แล้วถ้าทางโรงเรียนคอนเฟิร์มก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เดี๋ยวเราค่อยไปดูสถานที่จริงกันอีกที” ทรัชอธิบายอย่างใจเย็น
“วันนี้พอแค่นี้” กราฟฟิคเอ่ยบอก แล้วทุกคนก็ต่างพากันเดินออกไป
“กูจะไปสูบบุหรี่ไปปะ” ทิคเกอร์เอ่ยถามเพื่อนขึ้น แล้วพวกเขาก็เดินไปสูบบุหรี่ข้างตึกคณะนิเทศ วันนี้พวกเขามาประชุมกันที่คณะนิเทศ เนื่องจากห้องของคณะวิศวะถูกใช้ในการจัดงานนิทรรศการ ทำให้ไม่มีห้องสำหรับการประชุม จึงต้องมาใช้ห้องของคณะนิเทศ
“ไอ้ทีเร็กซ์แล้วมึงจะทำงานได้หรอวะ” จู่ๆ ก็มีเสียงชายกลุ่มหนึ่งเดินคุยกันมา
“ทำไมวะ” กันต์ถามขึ้น
“ก็มันอยู่กลุ่มเดียวกับรันเวย์” กรตอบกลับไป
“รันเวย์ เพื่อนที่มึงชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่งอะนะ” กันต์ก็คิดทวบทนจนนึกขึ้นได้ จึงเอ่ยออกไป
“เออดิ แล้วงี้จะทำงานกันได้ไหมเนี่ย” กรพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ก็ทำปกติ” ทีเร็กซ์ก็ตอบกลับอย่างปกติ
“แล้วมึงยังชอบเขาอยู่ไหม” แล้วกรก็ถามขึ้น
“…” ทีเร็กซ์ก็ไม่ตอบ
“ไอ้ทีเร็กซ์ เขามีแฟนแล้วนะเว้ย” กรเอ่ยบอก
“เลิกแล้ว” ทีเร็กซ์ตอบกลับเสียงนิ่ง
“แล้วคือยังไง มึงจะจีบ” กรถามกลับไป
“…” ทีเร็กซ์ก็เงียบไม่ตอบ ก่อนจะหันไปเห็นร่างบางที่มีชื่ออยู่ในบทสนทนาเมื่อกี้
ด้านรันเวย์
“เอ้า ฝนตกเหรอ” ฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำจะเดินตรงไปยังโรงอาหารคณะ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นเม็ดฝนตกลงมา
“เอาไงดี” ฉันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจจะวิ่งผ่าสายฝนไปยังโรงอาหาร แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อฉันกำลังก้าวเท้าวิ่งออกไป จู่ๆ ก็มีร่มมากางให้ฉัน ฉันจึงหันไปมองก็พบว่า
“ทีเร็กซ์” ฉันเอ่ยชื่อคนที่ยืนกางร่มให้ฉันออกไป
“จะไปไหน” เขาถามฉันกลับมา
“โรงอาหาร” ฉันก็ตอบกลับไป มองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ไปสิ” แล้วทีเร็กซ์ก็เดินเข้ามาโอบไหล่ฉันให้ตัวเขาเข้ามาให้ร่มเดียวกับฉัน และพาฉันเดินไป
“ดะ เดี๋ยวสิ” ฉันพยายามจะเอามือเข้าออก แต่เขาก็จับไว้แน่น ขณะที่ฉันจะขัดขืน แต่สายตาของฉันก็ดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ยืนมองมาทางเราอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาคนนั้นคือคนที่ฉันพยายามเลิกนึกถึงมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาคือคัตเตอร์ยังไงล่ะ เราสบตากับแป๊บนึง ก่อนที่จะเป็นฉันที่หลบสายตาและเลิกขัดขืนทีเร็กซ์เดินไปยังโรงอาหาร
ด้านคัตเตอร์
“มันเอาจริงเหรอวะ” กรเอ่ยถามกันต์ขึ้น
“ชัดเจนขนาดนั้น” กันต์ตอบกลับก่อนจะพากันเดินออกไปจากตรงนั้น ซึ่งคัตเตอร์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้นได้ยินบทสนทนาตั้งแต่แรก ทำให้เขากำหมัดแน่น และมองไปยังภาพที่ทีเร็กซ์โอบไหล่รันเวย์เดินออกไป
“ไงล่ะมึง” ทิคเกอร์เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเหตุการณ์และได้ยินทุกอย่าง
“…” คัตเตอร์ก็นิ่ง
“เลิกแค่อาทิตย์เดียว เขาก็มีคนกางร่มให้ละ” ทิคเกอร์เอ่ยขึ้นอีก
“หุบปาก” คัตเตอร์หันไปเอ่ยบอกทิคเกอร์ด้วยความหงุดหงิด
“หึ มึงมาโกรธอะไรกู” ทิคเกอร์ตอบกลับไป
“กูเคยเตือนมึงแล้ว” ทรัชเอ่ยต่อ
“….” เงียบ
“หึ สมควร” ทรัชพูด
“มึงปล่อยเขาไปเจอคนดีๆ แหละดีแล้ว” ทิคเกอร์พูดออกไป
“ไม่มีทาง” คัตเตอร์ตอบกลับเสียงนิ่ง เขาไม่มีทางปล่อยรันเวย์ไป