BAD BOYFRIEND 8 สงสัย

2051 Words
@โรงอาหาร “รันเวย์คนสวยนั่งด้วยกันสิ” ทิคเกอร์พูดขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินมาพร้อมกับคัตเตอร์ “เอ่อ เพื่อนฉันรออยู่ตรงนู้นน่ะ” ฉันบอกพร้อมชี้นิ้วไปยังเพื่อนที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง “งั้น...พวกเราไปนั่งกับรันเวย์กัน” แล้วทิคเกอร์ก็หันไปบอกพวกทรัชที่เดินมาถึงโต๊ะพอดี “อะไรของมึง” ทรัชพูดแบบงงๆ “ไปนั่งกับสาวๆ กัน” ทิคเกอร์ตอบกลับ ก่อนจะเดินนำไปยังโต๊ะที่เพื่อนฉันนั่งอยู่ ฉันและพวกคัตเตอร์จึงเดินตามหลังไป “หวัดดีสาวๆ” ทิคเกอร์เอ่ยทักทายเพื่อนฉัน “เอ่อ หวัดดี” ยัยเบลหันมาพูดกับทิคเกอร์ “ขอนั่งด้วยนะ” ทิคเกอร์ก็เอ่ยบอก ก่อนจะนั่งลงโดยยังไม่มีใครอนุญาต “ไม่ต้องขอแล้วก็ได้นะ” ยัยเบลพูดออกไป “วันนี้วันดีจริงๆ มีผู้ชายหล่อมานั่งกินข้าวด้วย” ตามด้วยเสียงของลูน่าที่ดูลั้นล่าเป็นที่สุด “ขอโทษที่เพื่อนฉันเสียมารยาทด้วยนะ” ทรัชหันไปเอ่ยบอกเพื่อนของฉัน “ไม่เป็นไร ชินแล้ว” ยัยเบลก็ตอบกลับไปตามปกติ เพราะรู้นิสัยทิคเกอร์ดี ทิคเกอร์เป็นคนเฟรนลี่ เวลาเจอกันก็มักจะเข้ามาทักทายเล่นกันแบบนี้เสมอ พวกฉันชินแล้ว “นั่งกันสิหนุ่มๆ” ยัยลูน่าเอ่ยชวนพวกคัตเตอร์ที่ยืนกันอยู่ ทรัชกับกราฟฟิคเดินไปนั่งข้างทิคเกอร์ ส่วนฉันก็นั่งลงข้างยัยลูน่า คัตเตอร์จึงเดินมานั่งลงข้างฉัน “กินอะไร เดี๋ยวไปซื้อให้” คัตเตอร์หันมาถามฉัน “ข้าวมันไก่ก็ได้” ฉันตอบกลับไป แล้วคัตเตอร์ก็ลุกออกไปซื้อข้าว “นี่ทุกคน ปีสามจะอยู่ชมรมไรกัน” แล้วก็เป็นทิคเกอร์ที่เอ่ยขึ้นมา “อืมม ไม่รู้สิพวกเรายังไม่ได้คิดเลย” ลูน่าบอกไป “งั้นมาอยู่ชมรมพวกฉันไหม” ทิคเกอร์ตอบกลับ “ชมรมพวกนาย” ยัยเบลก็พูดสีหน้าสงสัย “ใช่ อาจารย์ให้พวกฉันเปิดชมรม” ทิคเกอร์ก็ตอบกลับ “ชมรมอะไร” ฉันจึงเป็นฝ่ายถามบ้าง เพราะก็สงสัยเหมือนกันว่าคนแบดๆ กระล่อนๆ เจ้าชู้ แบบพวกเขาจะเปิดชมรมอะไรกัน “เอ่อ ชมรมอะไรวะไอ้กราฟฟิค” แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ทิคเกอร์ผู้เล่นไปวันๆ ก็หันไปถามกราฟฟิค “ชมรมจิตอาสา” กราฟฟิคที่นั่งกินข้าวอยู่ก็พูดขึ้นแค่นั้นก่อนจะกินข้าวต่ออย่างไม่สนใจอะไร “โอ้ย ช่วยอธิบายอะไรมากกว่าได้ไหม บอกแค่นั้นพวกฉันจะรู้ไหมว่าเกี่ยวกับอะไรคะสุดหล่อ” ยัยลูน่าก็โวยวายขึ้นไม่จริงจัง “คือ พวกฉันจะจัดค่ายจิตอาสา โดยการไปช่วยผู้ที่เดือดร้อนหรือขาดแคลนน่ะ” เป็นทรัชที่เป็นคนอธิบายรายละเอียดให้ฟังอย่างใจเย็น “อ่อๆ ดีอะได้ช่วยคน” ลูน่าพูดอย่างชื่นชม “ตกลงอยู่กับพวกฉันไหม เราจะออกค่ายกันเร็วๆ นี้” ทิคเกอร์จึงถือโอกาสถามกลับ “อืม เอาสิ ชมรมดีๆ แบบนี้” ยัยเบลตอบกลับ “พวกเธอว่าไง” ยัยเบลหันกลับมาถามพวกฉัน “ไม่พลาดอยู่แล้ว” ลูน่าตอบกลับไป “อืม อยู่สิ” ฉันก็ตอบยัยเบลไป “แล้วมึงละอิน้ำ” ยัยเบลก็หันไปถามน้ำที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ พรึ่บ แล้วเสียงจานข้าวก็วางลงตรงหน้าฉัน ตามด้วยร่างสูงของคัตเตอร์ที่นั่งลงข้างฉันพร้อมกับจานข้าวของเขา “ขอบคุณนะ” ฉันจึงหันไปเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับยิ้มให้ร่างสูง “กินให้หมดด้วย” คัตเตอร์ก็พูดบอกฉันเสียงนิ่ง เพราะฉันเป็นคนกินข้าวน้อย เขาจึงชอบดุฉันเวลาฉันกินข้าวไม่หมด “อิน้ำ อิน้ำ” แล้วเสียงยัยเบลที่เรียกน้ำก็ดังขึ้น “หะ ว่าไง” น้ำเหมือนได้สติก็หันกลับไปถามเบล “ตกลงจะเข้าชมรมไหม” เบลก็ถามย้ำอีกครั้ง “อืม เอาสิ” น้ำก็ตอบกลับมา “ก็ตามนั้น สรุปพวกฉันจะอยู่ชมรมพวกนาย” แล้วเบลก็หันไปเอ่ยบอกทิคเกอร์ที่นั่งอยู่อีกข้างหนึ่งของเบล “เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” น้ำหันพูดขึ้นกับยัยเบล ก่อนจะรีบเดินออกไป “อิน้ำมันเป็นอะไรของมัน ไม่พูดไม่จาเอาแต่เหม่อ” ลูน่าหันไปพูดกับเบล “ไม่รู้มัน คงมีเรื่องเครียดแหละ เดี๋ยวมันกลับมาค่อยถาม” เบลตอบกลับไป ฉันจึงหันไปมองตามน้ำที่เดินออกไปอย่างรู้สึกเป็นห่วง ครืนน ครืนน จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างฉันก็ขึ้นไม่หยุด ฉันจึงหันไปมองยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ (มาเจอกันหน่อยได้ไหมคะ) (ฟ้าคิดถึงคุณนะคะ) (เบนจะรอคุณนะคะ) คัตเตอร์ที่เหมือนจะรู้ตัวก็รีบหยิบโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋ากางเกงทันที ซึ่งฉันก็ทำได้แค่เงียบไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา เพราะรู้ว่าถึงถามออกไปก็ไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ฉันจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้แล้วนั่งกินข้าวไปเงียบๆ จนผ่านไปสักพัก “ไอ้เตอร์รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวต้องไปคุยเรื่องรมชมอีก” แล้วทิคเกอร์ก็เอ่ยบอกคัตเตอร์ขึ้น “ฉันไปก่อนนะ เย็นรอกลับพร้อมกัน” คัตเตอร์พูดแค่นั้น ก่อนจะเดินตามเพื่อนเขาออกไป ฉันก็มองตามไป ฉันรู้สึกมาตลอดว่าคัตเตอร์ต้องมีอะไรปิดบังฉันแน่ๆ ก็ เขาน่ะเสือร้ายตัวพ่อขนาดนั้น แต่ที่ฉันปล่อยผ่านไม่พูดไม่อะไร เพราะว่าฉันยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา ฉันจึงได้แค่ปล่อยไป แต่ถ้าวันไหนที่ฉันรู้และจับได้ ฉันก็จะไม่ทนอยู่แบบนี้แน่ อีกด้าน “มากันครบแล้วใช่ไหม” ทรัชเป็นคนเอ่ยถามในที่ประชุม “เอ่อ คือ” กรรมการชมรมคนหนึ่งกำลังจะเอ่ยบอก แต่ก็ต้องเงียบไป “เริ่มประชุมได้” กราฟฟิคเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “เรื่องออกค่าย อาจารย์ถามมาว่าปีนี้จะไปออกค่ายที่ไหน” ทรัชเอ่ย “ซึ่งที่ที่เราจะไปนั้น เราจะต้องทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด” ตึก ตึก แกร๊ก ขณะที่กำลังประชุมกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเท้าบางของใครบางคนวิ่งเปิดประตูเข้ามา ทำให้ทุกคนในห้องประชุมต่างหันไปมอง “เอ่อ ขอโทษที่มาช้านะคะ” ร่างบางก้มหัวบอกทุกคนในที่ประชุม “…” กราฟฟิคหันไปมองทางประตูด้วยสายตาเรียบนิ่ง “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลินดานะคะ อยู่ปีสองค่ะ” ร่างบางเอ่ยแนะนำตัวอย่างฉะฉาน “คือน้องลินดาเป็นท็อปของสาขาน่ะ อาจารย์ดาวเลยให้น้องลินดามาศึกษางานน่ะ ปีหน้าจะให้น้องเป็นประธานชมรม” ทรัชอธิบาย “เก่งแต่ไม่มีความรับผิดชอบ” กราฟฟิคเอ่ยเสียงนิ่ง “หนูมีธุระนิดหน่อยน่ะค่ะเลยมาสาย” ร่างบางก็พยายามอธิบาย “จะเป็นประธานต้องรู้จักหน้าที่” กราฟฟิคก็สบตาเอ่ยออกไปสีหน้านิ่งเสียงเย็นชาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “ขอโทษค่ะ” ร่างบางก็ได้แต่เอ่ยขอโทษ เพราะเธอมาสายจริงๆ “พอๆ ยังไงน้องก็มาแล้ว มึงอย่าดุนักเลย” ทิคเกอร์ก็เอ่ยบอกอย่างพยายามช่วยร่างบาง “น้องลินดามานั่งเถอะครับ” ทรัชหันไปเอ่ยบอกร่างบางให้มานั่งที่นั่งข้างเขา “ต่อ” แล้วกราฟฟิคก็เลิกสนใจร่างบางเอ่ยบอกประชุมต่อ “มีใครอยากเสนอสถานที่ไหม” ทรัชก็เอ่ยถามทุกคน “เราเน้นไปที่โรงเรียนในชนบท หรือที่ขาดแคลนไหม” หนึ่งในกรรมการชมรมเอ่ยบอกขึ้น “ดีเหมือนกัน มึงว่าไง” ทรัชก็หันไปถามกราฟฟิค “ลองหาสถานที่มา” กราฟฟิคตอบกลับ “เค งั้นเดี๋ยวเรามาดูสถานที่แล้วสรุปกัน จะได้ไปเสนออาจารย์” เป็นทรัชที่เอ่ยบอก ทุกคนก็เสริชหาสถานที่ และพูดคุยเกี่ยบกับชมรมกันไป ผ่านไปสักพัก.. “งั้นวันนี้พอแค่นี้ ครั้งหน้าค่อยมาคุยรายละเอียด” กราฟฟิคเอ่ยบอกพร้อมลุกขึ้น ทุกคนต่างก็ออกจากห้องประชุมไป รวมถึงลินดาที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อจะเดินออกไป “เดี๋ยว” แล้วกราฟฟิคก็เอ่ยขึ้น “คะ” ลินดาที่ได้ยินกราฟฟิคเรียกก็หันกลับมามองยังคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะประชุม “ถ้าคราวหน้าเธอมาสายอีก ฉันจะบอกอาจารย์ให้เอาเธอออก” กราฟฟิคบอกเสียงเรียบ “รับทราบค่ะ ครั้งหน้าลินจะมาก่อนพี่เลยค่ะ” ลินดาพูดขึ้นอย่างประชดประชัน “ทำให้ได้แล้วกัน” กราฟฟิคตอบกลับไป “ค่ะ ลินทำได้แน่” ลินดาพูดขึ้น “ถ้าไม่มีอะไรแล้วลินขอตัวนะคะ” พูดจบ ลินดาก็เดินออกไปจากห้อง “มึงจะอะไรกับน้องนักวะ” ทิคเกอร์หันมาโวยวายใส่กราฟฟิค “…” กราฟฟิคก็เงียบไม่ตอบ “น้องพึ่งมาประชุมครั้งแรก” ทรัชก็พูดเสริม พยายามช่วยน้อง “ครั้งแรกยังสาย” กราฟฟิคพูดจบ ก็เดินออกไป “เป็นบ้าอะไรของมัน” ทิคเกอร์โวยวายตามหลัง “มึงก็รู้นิสัยมัน ช่างมันเถอะ” ทรัชหันไปเอ่ยบอกเพื่อนก่อนจะเดินตามกราฟฟิคออกไป “กูกลับละ” คัตเตอร์ก็หันไปเอ่ยบอกทิคเกอร์ และเดินตามเพื่อนออกไปอีกคน “เออทิ้งกูไปกันให้หมด” ทิคเกอร์ก็โวยวายตามหลังเพื่อนๆ และเดินตามออกไป ด้านรันเวย์ “กลับเลยไหม” ลูน่าถาม “อืม ฉันต้องไปทำธุระให้แม่” เบลเอ่ยบอก “ฉันกลับก่อนนะ” น้ำพูดจบก็เดินออกไป “แกละ” ลูน่าหันมาเอ่ยถามฉัน “รอคัตเตอร์มารับ” ฉันตอบกลับไป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาคัตเตอร์ ตู้ดดด ตู้ดดด “คัตเตอร์ไม่รับเหรอ” ลูน่าถาม เมื่อเห็นว่าฉันเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเหมือนเดิม “อืม” ฉันพยักหน้าตอบกลับไป “ฉันไปส่งไหม” เบลก็ถามฉัน “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเดินไปหาคัตเตอร์ที่คณะ” ฉันบอกไป ก่อนจะเอ่ยลูน่าและเบล “ฉันไปก่อนนะ กลับกันดีๆ ละ” ฉันพูดพร้อมกับเดินออกมา ตรงไปยังหลังตึกคณะวิศวะที่คัตเตอร์ชอบนั่งอยู่ประจำ “ไม่อยู่เหรอ” ฉันพึมพาออกมาเบาๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะโทรหาอีกรอบ แต่สายตาฉันกลับเหลือบไปเห็นร่างสูงคนที่ฉันกำลังโทรหาเดินออกมาจากห้องน้ำของคณะบริหาร ก่อนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามออกมา และเมื่อคัตเตอร์เห็นฉันก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาหาฉัน “ทำไมไม่รอที่คณะ” คัตเตอร์ถามฉันเสียงเรียบ “ก็ฉันโทรหานายไม่รับ ก็เลยเดินมาหา” ฉันตอบกลับไป “งั้นกลับกันเลยไหม” คัตเตอร์พูดพร้อมกับจับมือฉันให้เดินตามเขาไป “เดี๋ยว” ฉันพูดก่อนจะเอามืออีกข้างนึงชี้ห้องน้ำ “มันห้องน้ำผู้ชายนี่” ฉันถามออกไปเสียงนิ่ง “….” คัตเตอร์ก็เงียบ “ทำไมผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำผู้ชายพร้อมนาย” ฉันถามเข้าประเด็น “เข้าผิดมั้ง ฉันออกมาก็เจอแล้ว” คัตเตอร์ก็ตอบกลับเสียงเรียบปกติ “งั้นเหรอ” ฉันก็พูดขึ้นอย่างจับผิด “อืม ไม่เชื่อเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามฉัน “เปล่า” ฉันตอบกลับไป “ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันพาเดินไปถามไหมละ” แล้วคัตเตอร์ก็จับมือจะพาฉันเดินไปหาผู้หญิงคนนั้น “ไม่เป็นไร” แต่ฉันก็เลือกที่จะปล่อยไป “…” คัตเตอร์ก็เงียบ ยืนมองหน้าฉัน “กลับกันเถอะ” ฉันบอกออกไป เขาจึงเดินนำฉันไปยังรถ นี่เป็นครั้งที่สองของวันนี้แล้วที่คัตเตอร์ทำให้ฉันสงสัยในตัวของเขา แต่ฉันก็เลือกที่จะเก็บมันไว้คนเดียว เพื่อรอวันที่ฉันแน่ใจกว่านี้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD