BAD BOYFRIEND 7 ทีเร็กซ์

1983 Words
@ห้องเรียน ตึก ตึกๆๆๆ เสียงเท้าของสี่สาวรีบวิ่งมายังห้องเรียนที่ตอนนี้ได้เริ่มคลาสเรียนไปเกือบสิบห้านาทีแล้ว “ขออนุญาต ขะ เข้าห้องค่ะ” เสียงเบลเอ่ยบอกอาจารย์ผู้สอนอย่างตะกุกตะกักด้วยความเหนื่อย “ทำไมมาสาย” อาจารย์ผู้สอนถามด้วยเสียงดุๆ “ขะ ขอโทษค่ะ” แล้วทั้งสี่ก็รีบยกมือขอโทษพร้อมกัน “ผมถามว่าทำไมมาสาย ไม่ได้ให้ขอโทษ” “พะ พอดีหนูท้องเสียน่ะค่ะ” น้ำรีบบอกอาจารย์หนุ่ม “แล้วอีกสามคนละ” อาจารย์หนุ่มหันไปถามอีกสามคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ “คือเพื่อนมัวแต่ไปตามหนูน่ะค่ะ เลยพากันสาย หนูขอโทษจริงๆ นะคะ” น้ำก็เป็นคนอธิบาย เพราะรู้ว่าที่มาสายเป็นตนเอง “เธอโตแล้วนะ ไม่จำเป็นที่เพื่อนต้องไปตามถึงสามคน” อาจารย์หนุ่มก็บอกเสียงดุ “ขะ ขอโทษค่ะ” ทั้งสี่ก็ยกมือขอโทษอีกครั้ง “ครั้งนี้เห็นว่าเป็นคลาสเรียนแรกผมจะอนุโลมให้” “ขอบคุณค่ะๆๆๆ” “แต่ถ้าครั้งหน้ามาสายอีกผมจะทำตามกฎ คือไม่เช็คชื่อ และหักคะแนน 5 คะแนนต่อการมาสายหนึ่งครั้ง” “เข้าใจไหม” อาจารย์หนุ่มถามขึ้นเสียงดัง “ขะ เข้าใจค่ะๆๆๆ” ทั้งสี่สาวก็พยักหน้ารับรู้ “ไปนั่งที่ได้” พูดจบ อาจารย์หนุ่มก็หันกับไปสอนตามเดิม ทั้งสี่สาวก็พากันเดินมานั่งยังหลังห้อง เพราะพวกเธอมาช้าจึงไม่เหลือที่ว่างให้นั่งแล้ว ทุกคนก็ต่างฟังอาจารย์หนุ่มอธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่เรียนไป จนกระทั่ง “เอาล่ะการบ้านของวันนี้คือ ให้ทุกคนไปศึกษาว่า การโฆษณาที่ดีคืออะไร แล้วมานำเสนอให้ฟังเข้าใจมั้ย” “เข้าใจค่ะ เข้าใจครับ” นักศึกษาทั้งชายและหญิงต่างตอบอาจารย์หนุ่ม “วันนี้พอแค่นี้ เลิกคลาสได้” แล้วอาจารย์หนุ่มก็เดินออกไป “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณครับ” นักศึกษาก็ขอบคุณ และต่างคนต่างเก็บของเดินกันออกไป “อิรันเร็วๆ หิวข้าวนะตายแล้ว” ยัยเบลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันกำลังก้มเก็บของลงกระเป๋า พรึ่บ แล้วจู่ๆ ก็มีอะไรบ้างอย่างมาวางอยู่ตรงหน้าฉัน ซึ่งก็คือสมุดโน๊ตนั่นเอง ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองยังคนที่เอามาวาง “ทีเร็กซ์” ฉันเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้า “เห็นว่าเธอมาสายน่ะ” ทีเร็กซ์บอกออกมาสีหน้าปกติ “แล้วนายเอามาให้ฉันทำไม” ฉันถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ “ช่างที่เธอยังไม่มาเป็นเนื้อหาสำคัญ” ทีเร็กซ์พูดเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินออกไปไม่รอให้ฉันได้พูดอะไรต่อ “ดะ เดี๋ยวสิทีเร็กซ์” ฉันรีบร้องเรียก แต่ทีเร็กซ์ก็ไม่สนใจ เดินออกไปไม่หันกลับมามองฉันเลย “แหม่ๆ ทีเร็กซ์นี่เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เลยนะ” ลูน่าเอ่ยแซวฉันขึ้นมาทันที “เหมือนทีเร็กซ์จะยังไม่เลิกชอบมึงนะ” น้ำก็พูดขึ้นตามความรู้สึก “นั่นสิ ขนาดรู้ว่ามึงมีแฟนแล้วแต่ก็ยังคอยห่วงใยมึงอยู่เลย” ยัยเบลพูดเสริมขึ้น “ไม่หรอก ก็เพื่อนกัน” ฉันพูดออกไปอย่างตัดบท “เพื่อนอะไรกัน เข้าสายสี่คนแต่เอามาให้มึงคนเดียว” เบลก็พูดดูสีหน้ารู้สึกอิจฉา “ก็ทีเร็กซ์มีเล่มเดียวไง” ฉันก็บอกไปอย่างปัดๆ “แล้วทำไมเลือกให้มึงล่ะ” ยัยเบลก็พูดต่อ “….” ฉันก็เงียบอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ “สรุปเลยนะ กูว่าทีเร็กซ์ยังไม่เลิกชอบอิรันชัวร์” ลูน่าพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ “กูขอคอนเฟิร์มด้วย” เบลก็พูดเสริม “แต่กูมีแฟนแล้วนะ” ฉันพูดออกไปเสียงเบา “กูเอาไปคืนทีเร็กซ์ดีกว่า” พอคิดได้แบบนั้น ฉันก็ทำถ้าจะเดินออกไปตามทีเร็กซ์ “หยุดเลย เสียน้ำใจหมด” ลูน่ารีบคว้าแขนฉันไว้ “แต่ถ้ากูรับไว้ ทีเร็กซ์จะเข้าใจผิด” ฉันบอกออกไปตามความคิดถ้าทีเร็กซ์ยังชอบฉันอยู่จริง ฉันต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม “มึงไม่ได้ยินที่ทีเร็กซ์พูดเหรอ” ยัยเบลถามฉัน “อะไร” ฉันก็ทำหน้างงกลับไป “ก็ที่บอกว่าช่วงที่เรายังไม่มามันมีเนื้อหาสำคัญไง” ยัยเบลอธิบาย “ถ้ามึงเอาไปคืน แล้วพวกเราจะรู้เนื้อหาได้ยังไง วิชานี้ยากด้วย” ลูน่าพูดเสริม “ก็จริงนะ แต่…” “ไม่มีแต่จ้ะ เก็บลงกระเป๋าไปเลย” แล้วยัยลูน่าก็เอาสมุดโน๊ตยัดใส่ในกระเป๋าฉัน “ตอนนั้นทำไมมึงไม่เลือกทีเร็กซ์” จู่ๆ น้ำก็ถามฉันสีหน้าจริงจัง “หะ” ฉันก็ทำหน้างง ที่จู่ๆ ยัยน้ำก็ถามเรื่องนี้ “ที่กูบอกให้มึงเลือกทีเร็กซ์แทนคัตเตอร์ ทำไมมึงถึงไม่เลือก” “….” ฉันก็เงียบ “ทำไมต้องเลือกคัตเตอร์” ไม่รู้ฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่ฉันรู้สึกว่าน้ำเสียงและแววตาที่ยัยน้ำพูดประโยคนี้ดูไม่ค่อยพอใจฉันเท่าไหร่ แต่ก็ดูมีความเศร้าอยู่ในแววตาของเธอ “เออนั่นสิ พวกกูก็สงสัย” ยัยลูน่าก็พูดขึ้น “ทั้งๆ ที่ทีเร็กซ์ชอบมึงมานาน ก่อนมึงจะเจอคัตเตอร์ซะอีก” ยัยเบลถามเสริม “ไม่รู้สิ กับทีเร็กซ์กูคิดแค่เพื่อนมาตั้งแต่แรกแล้ว” ฉันบอกออกไปตามความจริง “แต่กับคัตเตอร์ความรู้สึกมันต่างออกไป” “ไอ้ทีเร็กซ์มาสักทีสิ” จู่ๆ ก็มีเสียงเพื่อนเรียกทีเร็กซ์ดังขึ้น ฉันและเพื่อนรีบหันไปมองยังประตูห้องเรียน “ทีเร็กซ์งั้นเหรอ” ฉันพูดขึ้น ก่อนจะรีบวิ่งไปยังประตูห้องเรียน แต่ก็ไม่พบร่างสูงของทีเร็กซ์แล้ว “ทีเร็กซ์จะได้ยินไหม” ยัยเบลถามออกมาเสียงเบา “พูดดังขนาดนั้น ไม่ได้ยินก็คงหูหนวกแล้ว” ลูน่าก็หันไปตอบกลับยัยเบล “เฮ้อ” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ดี ฉันกับทีเร็กซ์เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้ว ฉันเข้ามาเรียนฉันไม่มีเพื่อน ไม่รู้จักใครเลย ตอนรับน้อง จู่ๆ ก็มีทีเร็กซ์เดินเข้ามาทักแล้วบอกว่า เขาไม่มีเพื่อน ขอให้ฉันเป็นเพื่อนเขาได้มั้ย แล้วจากนั้นฉันก็ได้เป็นเพื่อนกับเขา แต่เราเรียนกันคนละสาขา ฉันกับเขาจึงไม่ได้เรียนด้วย ฉันเลยได้มาเจอพวกเบล ลูน่า น้ำ ฉันก็เลยสนิทกับทั้งสามคน แต่ฉันกับทีเร็กซ์ก็ยังคุยกัน แล้วเขาก็ช่วยเหลือฉันมาตลอด จนมาปีสอง จู่ๆ เขาก็มาบอกว่าชอบฉัน และเป็นช่วงเดียวกับที่ฉันคุยกับคัตเตอร์ และคัตเตอร์ขอฉันคบพอดี ฉันเลยตอบทีเร็กซ์ไปว่าฉันมีแฟนแล้ว แล้วหลังจากวันนั้นฉันกับทีเร็กซ์ก็ไม่ค่อยได้คุยกันอีก ฉันหวังมาการที่เราไม่ได้คุยกันจะทำให้เขาเลิกชอบฉันไปได้เอง แต่เหมือนฉันจะคิดผิดนะ “ว่าแต่ทีเร็กซ์เรียนวิชานี้ด้วยหรอ” ยัยเบลถามขึ้น “วิชานี้เป็นวิชาเรียนรวมของเอกโฆษณากับเอกภาพยนตร์นี่ ลืมคิดไปเลย” ยัยลูน่าก็พูดขึ้นเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ “อย่างงี้ก็” แล้วยัยลูน่าก็หยุดพูด ใช่ อย่างงี้ฉันกับทีเร็กซ์ก็จะต้องเจอกันทั้งเทอม “เอาน่า อย่าคิดมาก” แล้วยัยเบลก็พูดปลอบฉัน “นั่นสิ ไปกินข้าวกันเถอะหิวแล้ว” ลูน่าพูดต่อ “อืม” ฉันตอบกลับไป ก่อนที่พวกเราจะเดินออกจากห้องเรียนไป แต่พอเดินไปหน้าตึกสายตาของฉันดันเหลือบไปเห็นทีเร็กซ์กำลังยืนสูบบุหรี่มองมายังฉัน ฉันจึงทำท่าจะเดินไปหาเขา เพื่อเอาสมุดโน๊ตไปคืน แล้วพูดกับทีเร็กซ์ให้เคลียร์ แต่จังหวะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหาทีเร็กซ์นั้น “รันเวย์” จู่ๆ ก็มีคนเรียกฉันดังขึ้น ฉันจำเสียงนั้นได้ดี เขาคือคัตเตอร์ไงละ ฉันจึงหันกลับไปหาคัตเตอร์ “นายมาทำอะไรตึกนิเทศเหรอ” ฉันถามกลับไปอย่างสงสัย เพราะปกติเขาไม่ค่อยมาตึกเรียนฉันเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้มารับฉันหรือมีเรียนวิชานอกคณะ “พวกไอ้ทิคเกอร์มันอยากมากินข้าวโรงอาหารคณะนิเทศ” คัตเตอร์ตอบกลับมาตามปกติ “อ่อ งั้นเหรอ” ฉันก็ตอบกลับสีหน้าปกติเช่นกัน “หวัดดีรันเวย์ ไม่เจอกันนานเลยนะ” ทิคเกอร์ที่เดินตามหลังมาเอ่ยทักฉันขึ้น “หวัดดีทิคเกอร์ ทรัช กราฟฟิค” ฉันก็หันไปทักทายเพื่อนของคัตเตอร์ “อืม” กราฟฟิคตอบกลับตามสไตล์ผู้ชายเย็นชา ซึ่งเป็นปกติของเขา ตั้งแต่คบกับคัตเตอร์มาฉันก็ได้ยินเสียงกราฟฟิคพูดนับคำได้เลยมั้ง “หวัดดีรันเวย์” ตามด้วยทรัช ที่ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ใจดี “แล้วเมื่อกี้เธอจะเดินไปไหน” คัตเตอร์ถามฉัน เพราะเพื่อนของฉันได้เดินไปทางโรงอาหารแล้ว แต่เมื่อกี้ฉันกำลังจะเดินไปหาทีเร็กซ์ที่อยู่ข้างตึกคณะ “อ่อ จะไปห้องน้ำน่ะ” ฉันก็ตอบปัดๆ ไป เพราะคัตเตอร์ก็พอรู้เรื่องทีเร็กซ์มาบ้าง ฉันจึงไม่อยากมีปัญหา “ไปสิ ฉันพาไป” พูดจบคัตเตอร์ก็จับมือพาฉันเดินมาทางห้องน้ำ “นายรอตรงนี้นะ” ฉันบอกคัตเตอร์ เมื่อเขาพาฉันเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ฉันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จฉันก็จะเดินออกจากห้องน้ำ “คัตเตอร์มาทำอะไรคณะนิเทศเหรอคะ” ฉันหยุดชะงักเท้าตัวเองทันที เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงพูดคุยกับคัตเตอร์ “กินข้าว” คัตเตอร์ตอบกลับไปเสียงเรียบนิ่ง “พลอยใสก็กำลังจะไปกินข้าวเหมือนกัน ไปกินด้วยกันมั้ยคะ” ผู้หญิงคนนั้นยังคงพูดชวนคัตเตอร์ไม่หยุด ฉันก็ยังคงยืนแอบฟังอยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่งมีผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาในห้องน้ำ “แกเมื่อกี้มันพี่คัตเตอร์คณะวิศวะปะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น “ใช่ดิ แล้วมายืนทำไรหน้าห้องน้ำผู้หญิง” ผู้หญิงอีกคนหนึ่งพูดต่อ “ไม่รู้ว่ะ เห็นคุยอยู่กับพี่พลอยใสดาวคณะด้วย” อีกคนก็พูด ตอนพวกเธอเข้ามาคงไม่ได้สังเกตฉัน เพราะฉันยืนหลบอยู่ตรงประตู ซึ่งถ้าคนที่เดินเข้ามาจะมองไม่เห็น “สองคนนี้เคยกินกันปะ เมื่อตอนปีสองอะ” “น่าจะใช่นะ เห็นมีข่าวลืออยู่ช่วงนึง” ฉันที่ทนไม่ไหว จึงเดินออกไปหน้าห้องน้ำ “คัตเตอร์” ฉันเรียกคัตเตอร์ขึ้น ก่อนจะเดินไปยืนข้างๆ “เอ้า รันเวย์” พลอยใสหันมาเรียกชื่อฉันด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าไม่ชอบฉันเอาซะเลย “หวัดดีพลอยใส” ฉันก็แสร้งทำเป็นเอ่ยทักทายไปตามปกติ “เสร็จแล้วเหรอ” คัตเตอร์หันมาถามฉัน “อื้ม ไปกินข้าวกันเลยไหม” ฉันก็ถามร่างสูงขึ้น จงใจให้ยัยพลอยใสได้ยิน “อืม” พูดจบ ฉันกับคัตเตอร์ก็เดินออกมา “แอบฟังตั้งนาน ทำไมไม่เดินออกมา” คัตเตอร์หันมาถามฉัน “รู้เหรอ” ฉันจึงถามกลับไปด้วยสีหน้างงๆ เขารู้ได้ยังไง “หึ” คัตเตอร์ก็แสยะยิ้มกลับมา ก่อนที่เราจะเดินไปยังโรงอาหารที่มีเพื่อนๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD