เช้าวันต่อมา
“อื้ออ” ร่างบางตื่นนอนอย่างงัวเงีย บิดขี้เกียจไปมา ก่อนจะทำท่าลุกขึ้น แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อหันไปเห็นร่างสูงของอีกคนนอนหลับอยู่
“มาตั้งแต่เมื่อไร” ร่างบางพูดพึมพำคนเดียว
“เมื่อคืน” แต่ร่างสูงที่นอนหลับตาอยู่ตอนแรกก็พูดขึ้น
“นายตื่นแล้วเหรอ”
“อืม”
“จะมาทำไมไม่บอกละ” ร่างบางถามขึ้น
“ฉันมาเธอยังหลับไม่รู้ตัวเลย ถึงบอกเธอก็ไม่รู้หรอก” ร่างสูงพูดขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
“ก็ไหนว่าไม่มานอนด้วยไง” ร่างบางถามไปอย่างสงสัย เพราะตอนแรกร่างสูงบอกจะไม่มานอนค้างด้วย
“ขี้เกียจตื่นเช้ามารับ” ร่างสูงก็ตอบน้ำเสียงปกติ
“ไหนว่าเปลี่ยนไปแล้ว ยังขี้เกียจตื่นเช้าเหมือนเดิม” ร่างบางก็ตอบกลับไปอย่างกวนๆ
“หึ” ร่างสูงก็แค่แสยะยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“ที่จริงนายไม่ต้องมารับก็ได้ ฉันขับรถไปเองได้” ร่างบางก็เอ่ยออกไป เพราะปกติเธอก็ขับรถไปมหาลัยเองบ่อยๆ เวลาที่เธอกับคัตเตอร์เรียนไม่ตรงกันหรือเขาไม่ได้มานอนกับเธอ
“พูดมาก ไปอาบน้ำ” ร่างสูงพูดบอก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกม ร่างบางที่เห็นแบบนั้นก็ไปอาบน้ำตามที่ร่างสูงบอก
เมื่ออาบน้ำเสร็จร่างบางก็เดินออกมาแต่งตัวแต่งหน้าตามปกติ ส่วนร่างสูงก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อออาบน้ำชำระร่างกาย จนเวลาผ่านไปสักพัก
แอดด เสียงประตูของน้ำเปิดออกและร่างสูงที่มีน้ำเปียกไปทั่วร่างกายก็เดินออกมาตรงไปยังห้องครัวที่มีร่างบางยืนทำอาหารอยู่
“กระโปรงเธอไม่สั้นไปหน่อยเหรอ” ร่างสูงพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นกระโปรงที่ร่างบางสวมใส่ที่มีความยาวเหนือเข่าขึ้นมานิดหนึ่ง
“ปกตินะ” ฉันก็ตอบคัตเตอร์กลับไป
“ปกติ” คัตเตอร์พูดขึ้นเหมือนทวนคำที่ฉันพูด
“อื้ม”
“เมื่อก่อนเธอใส่ยาวกว่านี้นะ” คัตเตอร์พูดไปตามความคิดของตัวเอง
“นายคิดไปเองนะ รีบไปแต่งตัว แล้วมากินข้าวสิ”
“แต่” คัตเตอร์กำลังจะพูดต่อแต่ฉันก็รีบพูดแทรกขึ้น
“มัวแต่มาสนใจกระโปรงฉันอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ไปมหาลัยสายกันพอดี วิชาวันนี้โหดด้วย” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ ปกติฉันใส่กระโปรงยาวกว่านี้ แต่วันนี้ฉันหาไม่เจอน่ะ เลยหยิบตัวนี้ที่ยาวเพียง 16 มาใส่ สุดท้ายคัตเตอร์ก็ไม่ได้พูดอะไร ยอมเดินเข้าห้องนอนไปแต่งตัวตามที่ฉันบอก แล้วก็ออกมาทานข้าวไปมหาลัยกัน
@มหาลัยคิงตัน
“นายจอดตรงนี้แหละ” ฉันเอ่ยบอก หลังจากที่เราขับรถมาถึงหน้าคณะของฉัน ฉันกับคัตเตอร์เราเรียนกันคนละคณะ ฉันเรียนนิเทศ คัตเตอร์เรียนวิศวะน่ะ แต่ตึกคณะเราก็ไม่ไกลกันมากนะ มีตึกบริหารคั่นแค่ตึกเดียว และอีกอย่างคัตเตอร์น่าจะมีธุระ ฉันเห็นโทรศัพท์เขาสั่นตลอดเวลาตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว เห็นเพื่อนๆเขาทักมาไม่หยุด
“ทำไม” คัตเตอร์ถามกลับมา แต่ก็ยอมจอดตามที่ฉันบอก
“เดี๋ยวฉันเดินไปเอง เพื่อนฉันรออยู่หน้าตึก” ฉันบอกออกไป
“อืม” เขาก็ตอบกลับมาแค่นั้น ฉันจึงเปิดประตูเดินลงจากรถไป
ตึก ตึก
เสียงสองเท้าบางของฉันเดินเข้าไปยังในตึกคณะนิเทศที่ฉันใช้ชีวิตในการเรียนที่นี่มาสองปีแล้ว และกำลังจะเข้าปีที่สาม
“มาช้านะจ้ะ” ลูน่าเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามานั่งยังโต๊ะที่มีลูน่า เบล และน้ำ นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว
“รอคัตเตอร์น่ะ” ฉันบอกออกไป
“แหม่ๆ ตั้งแต่แกกลับมานี่ทำตัวดีขึ้นนะ” ลูน่าเอ่ยขึ้นไม่จริงจัง
“หึ” ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่แสยะยิ้มออกมา
“ว่าแต่วันนี้เจออาจารย์เต้ด้วย” อยู่ๆยัยเบลก็พูดขึ้น อาจารย์เต้ที่ว่าก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาของสาขาฉัน ที่โหดและเนียบมาก ใครๆก็ต่างกลัวไม่อยากเรียนกับเขาสักเท่าไร เพราะเขาให้เกรดยากมาก แถมยังโหดสุดๆ
“เจอตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ” ลูน่าพูดขึ้นทำหน้าเซ็ง
“ฮ่าๆ ยังไงปีสามก็ต้องเรียนกับเขาอยู่แล้ว หนีไม่พ้นหรอก” ฉันพูดอย่างให้กำลังใจเพื่อน ก่อนจะหันไปมองยังน้ำ ที่เอาแต่นั่งกดโทรศัพท์ไม่พูดคุยอะไรกับใคร
“น้ำมึงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ ตั้งแต่มาเอาแต่เล่นโทรศัพท์” ยัยลูน่าก็พูดขึ้น
“เดี๋ยวกูมานะ” แล้วยัยน้ำก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป
“มึงจะไปไหน” เบลถามขึ้นทันที
“ห้องน้ำ” พูดจบ ยัยน้ำก็เดินออกไป
“มึงว่าช่วงนี้น้ำมันแปลกๆปะ” ลูน่าหันมากระซิบกับฉันและยัยเบลทันทีที่เห็นว่าน้ำเดินออกไปแล้ว
“ยังไง” ฉันก็ถามออกไปอย่างสงสัย เพราพฉันพึ่งกลับมาไทยเลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร
“ก็ติดต่อไม่ค่อยได้ ชวนไปไหนก็ไม่ไป พออยู่กับพวกเรามันก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ถามอะไรก็ไม่บอก” ลูน่าอธิบาย ฉันกับยัยเบลก็คิดตาม
“หรือว่า” แล้วลู่น่าก็พูดขึ้นอีก ด้วยสีหน้าตกใจ
“หรือว่าอะไร”ยัยเบลถาม
“หรือว่ามันจะแอบมีผัวแล้วไม่บอกพวกเรา”
“โอ้ย คิดว่าเรื่องอะไรใหญ่โตทำหน้าตกใจ” ยัยเบลก็พูดขึ้นอย่างปลงๆกับยัยลูน่าที่ชอบโอเวอร์แอคติ้ง
“เรื่องใหญ่ดิมึง ถ้ามันแอบมีผัวไม่บอกพวกเรา”
“แล้วทำไมมันต้องบอกมึงด้วย มึงเป็นพ่อมัน เหรอ” ยัยเบลก็ถามกลับไป
“ไม่ใช่พ่อ แต่เป็นเพื่อนรักจ้ะ”
“แล้วยังไง” ยัยเบลถาม
“เพื่อนรักกันนะเว้ย ก็ไม่ควรปิดปังก่อนสิ” ยัยลูน่าก็ตอบกลับ
“โอ้ย เราแค่เพื่อน มันจะแอบมีผัวมีกิ๊กก็ปล่อยมันเถอะ” ยัยเบลก็พูดขึ้นอีก
“แต่ &@#%>$€¥” แล้วฉันก็ต้องนั่งฟังมันสองคนเถียงอย่างไม่มีใครยอมใครอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเวลาผ่านไป
“ผ่านมาจะ 20 นาทีละ ยัยน้ำยังไม่มีเลย” แล้วเบลก็พูดขึ้น เมื่อมองนาฬิกาเวลาได้ล่วงเลยไปนานแล้ว แต่ยัยน้ำก็ยังไม่กลับจากห้องน้ำ
“จะได้เวลาขึ้นเรียนแล้ว” ลูน่าก็พูดต่อ
“มึงโทรตามมันสิอิรัน” ยัยเบลหันมาเอ่ยบอกฉันที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ฉันก็พยักหน้ารับ กดโทรหายัยน้ำทันที
ตู้ดด ตู้ดดดด
“น้ำไม่รับว่ะ” ฉันบอกออกไปพยายามกดโทรหาอีกรอบ
ตู้ดด ตู้ดดด
“เดี๋ยวกูเดินไปตามแล้วกัน” ยัยเบลเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่ายัยน้ำไม่ยอมรับสาย
“เดี๋ยวกูไปตามให้” ฉันพูดขึ้นก่อนที่ยัยเบลจะเดินออกไป
“หื้อ” ยัยเบลก็ทำหน้างง
“กูจะไปเข้าห้องน้ำพอดี” ฉันบอกไปตามความจริง แล้วก็เดินออกไปยังห้องน้ำใต้ตึกคณะฉัน
ฉันเข้ามาในห้องน้ำแต่ก็ไม่พบใคร ฉันจึงทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ และเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก่อนจะเดินกลับมายังโต๊ะ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ามีห้องน้ำด้านหลังตึกบริหารอยู่ซึ่งมันเป็นห้องน้ำที่อยู่กึ่งกลางระหว่างคณะนิเทศ บริหาร และวิศวะ ซึ่งนักศึกษามักจะไปเข้าเมื่อห้องน้ำในคณะเต็ม ตอนยัยน้ำมาห้องน้ำใต้ตึกอาจจะคนเยอะก็ได้ ฉันจึงเดินไปยังห้องน้ำหลังตึกบริหารทันที
ตึก ตึก
เมื่อเดินไปกำลังจะถึงห้องน้ำ ฉันก็เห็นยัยน้ำเดินออกมาจากหลังห้องน้ำพอดี ก่อนจะสายตาฉันจะเหลือบไปเห็นชายร่างสูงที่ฉันคุ้นเคย ฉันจึงเดินเข้าไปหา
“น้ำ” ฉันเอ่ยเรียกเพื่อนตัวเองขึ้น
“เอ้า รันมาทำอะไรเนี่ย” ยัยน้ำก็หันมาถามฉันทันที
“กูก็มาตามหามึงไง จะถึงเวลาเรียนแล้ว” ฉันเอ่ยบอกออกไป
“แล้วนายมาทำอะไรตรงนี้” แล้วฉันก็หันไปถามร่างสูงที่ยืนอยู่ ซึ่งก็คือคัตเตอร์นั่นเอง
“สูบบุหรี่” แล้วคัตเตอร์ก็ยกบุหรี่ที่เหลืออีกครึ่งม้วนขึ้นมาสูบ
“พอดีกูมาเข้าห้องน้ำ แล้วเห็นคัตเตอร์ยืนสูบบุหรี่อยู่น่ะ เลยเข้ามาทัก” ยัยน้ำเอ่ยบอกฉัน
“อย่างงั้นเหรอ” ฉันก็ตอบกลับไป
“อื้อ” ยัยน้ำก็พยักหน้าตอบกลับมา ฉันก็ยิ้มบางๆให้ ก่อนจะหันกลับมาสบตากับร่างสูงที่ยืนอยู่
“สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอ” ฉันเอ่ยถาม เพราะวันนี้ตั้งแต่อยู่คอนโดเขาสูบบุหรี่ไปแล้วสองตัว ตอนฉันอาบน้ำ แล้วก็ก่อนออกจากคอนโด
“อืม” คัตเตอร์ก็ตอบกลับมา
“นายสูบบ่อยไปแล้วนะ” ฉันก็พูดเตือนเขาปกติ
“หมดตัวนี้พอแล้ว” เขาตอบกลับมาตามปกติ ก่อนจะโยนสูบบุหรี่ทิ้งแล้วเอาเท้าขยี้
“พอแค่ตอนนี้น่ะสิ เดี๋ยวฉันไปนายก็สูบอีก” ฉันพูดไปตามความจริง
“หึ” เขาก็แสยะยิ้มตอบกลับมา
“รันมึงมาตามกูไม่ใช่เหรอ รีบไปเรียนกันเถอะเดี๋ยวไปสายโดนเช็ดขาดอีก” ยัยน้ำก็พูดขึ้นเตือนฉัน
“อืม” ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป
“ฉันไปเรียนก่อนนะ” ฉันหันไปพูดกับคัตเตอร์
“อืม” เขาพยักหน้าตอบกลับมาแค่นั้น แล้วฉันก็เดินออกมาพร้อมกับยัยน้ำ
“แปลกแหะ” อยู่ๆฉันก็นึกอะไรขึ้นได้
“แปลกอะไรเหรอ” ยัยน้ำก็ถามฉันกลับมา
“ปกติกูไม่ค่อยเห็นมึงคุยกับคัตเตอร์เลย” ฉันบอกไปตามความจริง เพราะตั้งแต่ฉันคบกับคัตเตอร์มา ฉันไม่ค่อยเห็นยัยน้ำไปทักหรือคุยอะไรกับคัตเตอร์ เวลาเจอกันคัตเตอร์มักจะทำหน้านิ่งๆ ยัยน้ำก็เดินหนี หรือเลี่ยงที่จะไม่คุยแล้ว และฉันก็คิดมา ตลอดว่ายัยน้ำไม่ชอบคัตเตอร์ อย่างที่เคยเล่าว่าตอนฉันตกลงคบกับคัตเตอร์ ยัยน้ำคือคนที่ไม่เห็นด้วยกับฉันมากที่สุด ถึงกับโกรธฉันไม่คุยกันไปเป็นอาทิตย์น่ะ
“ก็บังเอิญเจอน่ะเลยทัก” ยัยน้ำก็ตอบกลับมาสีหน้าปกติ
“อ่อๆ” ฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรต่อ
“รีบเดินกันเถอะ อิเบล อิลูน่า คงรอนานแล้ว” แล้วยัยน้ำก็เอ่ย พร้อมกับเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
อีกด้าน
“มันไปตามกันถึงไหนเนี่ย” ลูน่าเอ่ยขึ้น เมื่อผ่านไปเกือบสิบนาทีแล้วเพื่อนทั้งสองก็ยังไม่มา
“มึงโทรหายัยรันอีกคนสิ” ลูน่าก็หันไปบอกเบล
“อืม” เบลก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะกดโทรหารันเวย์
“ไม่ต้องละมึง มานู่นละ” ลูน่าเอ่ยบอก พร้อมพนักงานไปยังสองคนที่กำลังเดินเข้ามา
“มึงไปตามกันถึงไหนเนี่ย” เมื่อฉันเดินมาถึง ยัยเบลก็หันมาถามฉันทันที
“แล้วนี่มึงไปเข้าห้องน้ำอะไรนานจัง” แล้วเบลก็หันไปถามยัยน้ำต่อ
“โทษที กูท้องเสียน่ะ” ยัยน้ำก็ตอบกลับมา
“แล้วโทรหาก็ไม่รับ” ยัยเบลยังคงบ่นไม่หยุด
“อย่ามัวแต่บ่นเลย รีบเข้าเรียนเถอะสายแล้ว” ฉันหันไปเอ่ยบอกเพื่อน แล้วพวกเราก็รับเดินไปเข้าห้องเรียนพร้อมกัน