ตอนที่ 6 : ระบบมาช่วยหรือมาซ้ำ

2088 Words
“เอ๋?”จ้าวเฟิงที่ทำหน้าสงสัย ในหัวคิดว่าใครกันที่อยากฆ่าภรรยาเขา ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอาชญากรรมร้ายแรงหรือ แต่มันก็ทำให้นายพลหลีตัดเธอออกจากผู้ต้องสงสัย เขาไม่ได้คิดว่าเธอสมรู้ร่วมคิด แต่อยากแน่ใจว่าเธอไม่ได้รู้อะไร ถึงฉวยโอกาสช่วยเหลือ เพื่อเรียกร้องการตอบแทน “เอาเป็นว่าเธอคือผู้มีพระคุณ ฉันจะตอบแทนเธอแน่ พักผ่อนเถอะ” “แค่เนี่ย? ไปซะแล้ว” จ้าวเฟิงส่ายหน้า แต่ไม่ได้ใส่ใจอีก แค่รอดตายจากภารกิจก็พอ เมื่อห้องกลับมาสงบไร้คนอื่น จ้าวเฟิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า “คราวก่อนเกือบโดนฟ้าผ่า แต่ครั้งนี้หนีไม่พ้นโดนชนจริง คราวหน้าจะเจออะไรอีกหนอ?” “ภารกิจสำเร็จ! รางวัลเงินสดห้าพันหยวนกับบัญชีเงินฝากถูกนำเข้าระบบ สามารถดำเนินการใช้จ่ายได้ทันที” “เฮ้อ! เกือบไม่ได้ใช้เงิน” “ด้วยความล่าช้าและคำนวณระยะเวลาคลาดเคลื่อนเล็กน้อย คุณจะได้รับยาเพื่อรักษาอาการ ภายในสองวันจะหายเป็นปกติ” “ค่อยยังชั่ว! ฉันยังต้องจัดการอีกหลายอย่าง นอนเจ็บเป็นเดือนมันเสียเวลา” “ยาเป็นของคุณ” “หือ? ดะเดี๋ยวนะ! ไม่ ไม่ใช่ยากินหรือ” เกือบจะยิ้มได้แต่ต้องเบิกตากว้าง! เมื่อเข็มฉีดยาหลอดโตๆ เท่าสองนิ้วปรากฏลอยเคว้งอยู่เบื้องหน้า ขนาดเข็มที่ใหญ่มันเหมือนเข็มที่เอาไว้เจาะเลือดมากกว่าฉีด จ้าวเฟิงที่กลัวเข็มอยู่เป็นทุนพยายามจะขยับหนี “เพื่อความรวดเร็วในการฟื้นตัว การฉีดเข้าเส้นเลือดเป็นหนทางที่รวดเร็วที่สุด รับรองว่าภายในสองวันคุณจะไม่รู้สึกเจ็บ” “ไม่เอา ฉันไม่อยากฉีดยา!” “คำเตือน! หากมีการดิ้นจนเข็มแทงผิดตำแหน่ง จะต้องถูกแทงซ้ำจนกว่าจะแม่นยำ โปรดให้ความร่วมมือ” “แล้วฉันเลือกอะไรได้มั้ย? เลือกไม่โดนฉีดยาได้รึเปล่า!” แต่ระบบไม่สน… “อ๊ากเจ็บ!” โดนยาเข็มใหญ่จิ้มเข้าที่ก้น ถึงขั้นสลบเหมือด! พยาบาลที่ได้ยินเสียงเข้ามาดูแต่พบเพียงคนไข้ที่กำลังหลับ จึงส่ายหน้าขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เดินออกไปจัดเตรียมเอกสารด้านนอก สองวันผ่านไปไวมาก จ้าวเฟิงที่เบื่อห้องแคบเหม็นกลิ่นยาเริ่มเบื่อหน่าย หมอในโรงพยาบาลค่อนข้างประหลาดใจกับการฟื้นตัวแบบฉับพลัน เขามั่นใจว่าตนเองประเมินอาการเธอแม่นยำแล้ว ทำไมถึงหายราวกับไม่เคยบาดเจ็บ ถึงจะเป็นเรื่องดีก็ทำให้มึนงงไปอีกสักพัก “หมอ ฉันกลับบ้านได้รึยัง” “ได้แล้ว เธอนี้มหัศจรรย์เหลือเกิน ทั้งที่เจ็บขนาดนั้นกับไม่มีแม้รอยถลอกเล็กๆ” “ถ้าฉันต้องตัวลายเหมือนงูเหลือม น่ากลัวอนาคตจะจบสิ้น” “ก็จริง ว่าแต่ญาติมารับรึเปล่า ต้องรอใครไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนั่งรถลากกลับเอง” “จะไม่บอกคุณนายหลีหรือ เขาน่าจะให้ไปส่ง” “ฉันไม่อยากรบกวน ฝากบอกว่าฉันหายดีแล้วก็พอ” “ได้ ไว้ฉันจะโทรไปบอกให้ เอาล่ะกลับบ้านได้ ไม่มียาให้นะ เพราะเธอเป็นปกติดี” หมอพูดจบจึงเดินไป จ้าวเฟิงในชุดใหม่ที่ฝากพยาบาลซื้อจึงเดินออกจากโรงพยาบาล เธอคิดจะเรียกรถลาก แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทั้งตัวไม่มีเงิน ปิ๊ง! “เอ๋? มาจากไหนเนี่ย” จู่ๆ กระเป๋ากลับปรากฏขึ้นบนบ่า จึงคิดว่าน่าจะเป็นระบบที่ทำ ด้วยความอยากรู้จึงไม่รอช้า เปิดค้นดูพบมีเงินสดอยู่จำนวนมาก นับในกระเป๋าโดยไม่เอาออกมา มีจำนวนห้าพันหยวนเป๊ะๆ! “มีเงินแล้ว เยี่ยมไปเลย!” พอรู้ว่าเผลอส่งเสียงดังจึงมองไปรอบๆ โชคดีที่แถวนี้เสียงดังจอแจ คนจึงไม่ได้ยิน แต่ยังลดความตื่นเต้นในภาษากาย มีเพียงนัยน์ตาที่วาววับอย่างสุขใจยิ่ง “แต่ว่า… ชีวิตต้องดำเนินต่อ อืมไว้ค่อยคิดแล้วกัน” สำคัญคือกลับบ้าน วันนี้หมอฝูไม่ได้มาหาเธอ เห็นเขาบอกว่าค่อนข้างยุ่ง ไม่รู้โจวกุ้ยเหมยฟื้นรึยัง “รถลาก ทางนี้!” คล้อยหลัง โรงพยาบาลที่ได้โทรแจ้งไปยังบ้านนายพลหลี เมื่อคุณนายหลีทราบจึงบ่นอุบให้สาวใช้ข้างกายฟัง “ได้ยินว่าเด็กคนนั้นออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่เธออยากกลับเอง” “นั่นเพราะเธอรู้จักที่ต่ำที่สูง ฉันคิดว่าเหมาะสมแล้ว ตอนแรกได้ยินว่าเจ็บหนักแต่ตอนนี้หายดีเป็นปลิดทิ้ง คุณนายไม่จำเป็นต้องใส่ใจเธอนัก” “ยังไงเธอก็ช่วยฉันไว้ ทั้งไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด เธออาจไม่เหมือนคนอื่น ที่เข้าหาฉันเพื่อผลประโยชน์” “คุณมองโลกในแง่ดีเกินไป เกรงว่าเด็กคนนั้นจะเป็นนางนกต่อ อย่าไปสนิทสนมกับเธอนักเลยค่ะ คนเราเชื่อใจยาก” “อืม ฉันรู้” ถึงจะรู้สึกว่าจ้าวเฟิงไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่คนจ้องทำร้ายมีมาก จึงไม่อาจไม่ระวัง สาวใช้เห็นว่ากล่อมเจ้านายได้จึงสบายใจ แค่เด็กคนหนึ่งให้เงินไปก็คือจบ ใครคิดยังไงจ้าวเฟิงไม่รู้ เธอนั่งรถลากกลับมาถึงบ้าน โดยไม่มีเสียงแปลกๆ บอกให้ทำภารกิจก็พึงพอใจ มือดันประตูหน้าเบาๆ พบว่าไม่ได้ลงกลอนจึงผลักเข้าไป เห็นมีผู้หญิงแปลกหน้านั่งอาบแดดกินของว่างอยู่สองคน หัวคิ้วขมวดเข้าทันที “เธอเป็นใคร? ทำไมเข้ามา” “ฉันควรจะถามพวกเธอมากกว่าว่าเป็นใคร ใช่คนของท่านนายพลหรือไม่” แม้จะยังเด็กแต่ ท่าทางที่โตเกินวัย ยังดวงตาที่กวาดมองก็ทำให้คนอึดอัด “เอ่อใช่… เธอคือจ้าวเฟิงงั้นหรือ?” “คือฉัน และตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว ฝากขอบพระคุณท่านนายพลกับคุณนายที่ช่วยส่งคนมาดูแลพี่สาวของฉัน” ผู้หญิงสองคนหน้าแดง นายพลส่งพวกเธอมาดูแลคนป่วย แต่เห็นว่าอีกฝ่ายยังนอนไม่ได้สติจึงแค่เช็ดตัวป้อนยา จากนั้นก็นั่งเล่นสบายใจ ไม่คิดว่าเจ้าของบ้านจะออกจากโรงพยาบาลมาเห็นภาพนี้ และยังพูดเป็นนัยเพื่อไล่กลับ หากว่าเรื่องนี้ไปถึงหูคุณนาย ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่! “คือว่า…” “ไม่จำเป็นต้องกลัว ฉันไม่ใช่คนขี้ฟ้อง ฉันแค่เหนื่อยมากอยากพัก รบกวนเก็บของพวกนี้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง” จ้าวเฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เธอไม่คิดเอาเรื่องจุกจิกพวกนี้ไปพูด อย่างไรก็เป็นสาวใช้บ้านนายพล พวกเขาไม่เต็มใจทำนั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพียงแต่ค่อนข้างน่าเกลียดถึงขั้นนอนขาพาดโต๊ะ ทำตัวสบายเช่นนี้ในบ้านของคนอื่น สาวใช้สองคนลูกขึ้นเก็บของให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปอย่างอับอาย ถูกเด็กสิบกว่าปีพูดสั่งสอนเสียจนหน้าชา จ้าวเฟิงปิดประตูเมื่อส่งคนออกไป สิ่งแรกที่เธอทำคือเดินไปยังห้องนอนดูอาการของโจวกุ้ยเหมย และพบว่าพี่สาวกำลังนั่งอยู่ ใบหน้าหันมองนอกหน้าต่าง “พี่กุ้ยเหมย! พี่… ตื่นแล้ว” เด็กหญิงวิ่งมาหาแต่ไม่กล้าจับตัว เธอกลัวจะทำอีกฝ่ายต้องรู้สึกเจ็บ ทว่าสายตากวาดมองอย่างประเมิน นอกจากผิวที่ซีด ลมหายใจดูสม่ำเสมอดีจึงโล่งอก “ฉันไม่เป็นไร” เสียงที่แหบนัยน์ตาเศร้า มือข้างหนึ่งเผลอลูบท้องอย่างลืมตัว ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันเสียใจ ที่ช่วยลูกพี่ไว้ไม่ได้” “อาจเป็นเรื่องที่ดี การเกิดมาของเด็กไม่เพียงจะกดดันตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าเขารู้ว่าพ่อไม่ต้องการถึงขั้นจะฆ่าเขา จะกลายเป็นปมในใจที่ติดไปตลอด ยิ่งไม่รู้ว่าคนตระกูลซ่งจะคิดชั่วร้ายอะไรอีก” จ้าวเฟิงเห็นใจ นั่งลงกุมมือโจวกุ้ยเหมยไว้หลวมๆ อยากพูดปลอบสักคำแต่หัวตื้อคิดไม่ออก ได้แต่เม้มปากอยู่เช่นนั้น “ได้ยินว่าเธอประสบอุบัติเหตุเพราะช่วยคน หายดีแล้วหรือถึงออกจากโรงพยาบาล” “อื้ม! ยาฝรั่งดีมาก แค่ฉีดยาก็หายปวด ตอนแรกเจ็บหน้าอกสุดๆ ยังดีตอนร่วงฟันไม่สับกับพื้น ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ฟันหลอน่าเกลียด” “เสี่ยวเฟิง ขอบคุณที่ช่วยฉันออกมาจากหลุม ทั้งที่หัวเธอก็เจ็บ” “...?” จ้าวเฟิงกลับชะงัก! ใช่แล้ว ตอนที่เธอพิสูจน์ว่าคือฝันไหม ด้วยการเอาหัวโหม่งฝาอย่างแรง จำได้ว่าเลือดโชกเจ็บแทบแย่ แต่ทำไมตอนที่พาโจวกุ้ยเหมยออกจากตระกูลซ่งจึงไม่เจ็บเลย กระทั่งแผลยังไม่มี มันหายไปตอนไหนนะ? “ไม่ต้องคิด เพื่อให้การหนีราบรื่น จึงใช้ฝนทิพย์เยียวยาบาดแผลของคุณ แต่มันไม่สามารถใช้กับตัวละครในเรื่อง” “แสดงว่า… ฉันหลุดเข้ามาอยู่ในนิยายที่ยายซื้อจริงหรือเนี่ย!” “แต่เนื้อหาในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นคุณจะได้รับภารกิจเพื่อให้ตอนจบของเรื่องคงเดิม” “หมายความว่ายังไง! ที่บอกให้จบเหมือนเดิม คงไม่ใช่…” “ตัวละครที่ถูกลิขิตให้ตาย ตอนจบยังต้องตาย! คุณมีหน้าที่นำพาคนตระกูลซ่งให้ตายหมู่อีกครั้ง รวมถึงให้โจวกุ้ยเหมยได้แก้แค้นและตายไปพร้อมพวกเขา” “อะไรนะ!” จากที่คิดในใจกลายเป็นโพล่งออกมา โจวกุ้ยเหมยสะดุดตกใจ ก่อนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น “เสี่ยวเฟิง เป็นอะไรไป หืม?” “เอ่อเปล่าค่ะ ฉันแค่ใจลอย จริงสิ พี่กินอะไรรึยัง” “ยังเลย ฉันเพิ่งตื่น แล้วเธอก็เข้ามา” “ถ้าอย่างนั้นพี่รอเดี๋ยว ฉันจะออกไปแถวนี้หาซื้อข้าว ถ้าทำมันจะช้าเสียเวลา แป๊บเดียวฉันจะรีบกลับมา” “ระวังตัวด้วย” “อื้ม” จ้าวเฟิงมือสั่น รู้สึกไม่ยุติธรรม ทั้งที่โจวกุ้ยเหมยน่าสงสารขนาดนี้ กลับต้องตายไปพร้อมกับพวกคนชั่ว ควรเป็นพวกเขาสิที่ต้องตายอย่างทรมาน “คำเตือน! อย่าท้าทายอำนาจของผู้สร้าง ไม่อย่างนั้นคุณจะได้รับผลกระทบจากการต่อต้าน” “ฉันไม่เห็นด้วย! ในเมื่อเส้นเรื่องมันต่างไปจากเดิม ทำไมไม่กำหนดตอนจบใหม่ ให้คนเลวตายอย่างอนาถ แต่ให้กุ้ยเหมยมีชีวิตที่ดี” “คำตอบจากผู้สร้าง เพราะในยุคนี้สิทธิเสรีภาพยังไม่สมบูรณ์ ตัวละครอย่างโจวกุ้ยเหมยที่เคยแต่งงาน แท้งบุตร มีลูกไม่ได้ เรื่องข่าวฉาวกับผู้ชายในขณะสมรส สังคมไม่ยอมรับ! ไม่อาจมีชีวิตที่ดีอย่างที่คุณคิด เธอจะทุกข์ทรมานติดอยู่ในคำเสียดสี ยิ่งหากเธอทำลายบ้านสามีจนพินาศ ผู้คนจะสาปแช่งเธอ” จ้าวเฟิงอึ้ง! เธอไม่ได้คิดถึงจุดนี้ รู้แค่ไม่ต้องการให้พี่สาวที่น่าสงสารต้องตาย “มันไม่สามารถเปลี่ยนได้เลยหรือ? ช่วยถามผู้สร้างได้มั้ย ฉันขอ…ยื่นอุทธรณ์ เราน่าจะหาช่องว่างเล็กๆ ที่พอจะช่วยพี่กุ้ยเหมย โดยไม่กระทบกับตอนจบแบบเดิม” “ไว้จะถามให้ ตอนนี้ผู้สร้างกำลังยุ่ง เมื่อได้คำตอบแล้วจะแจ้งให้ทราบ” “ขอบคุณ ขอให้ร่ำให้รวยสวยหล่อ ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดสิบชาติภพ” “บอกฉันหรือบอกผู้สร้าง?” “ทั้งคู่เลย นี่คือคำอวยพรดีๆ แห่งยุค” “รู้แล้ว” “หือ?” ที่ว่ารู้แล้วนี่คืออะไร? ทำไมหายเงียบไปเลย… เดินไปราวห้านาที ได้บะหมี่มาสองห่อ ซาลาเปา ข้าวเหนียวแช่น้ำมัน เป็นอาหารดั้งเดิมทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ คือข้าวเหนียวที่แช่ในน้ำมัน ใส่หมูใส่พริกถั่วและเครื่องเคียง ไม่คิดว่าแถวนี้จะมีคนขาย อดไม่ได้ที่จะซื้อมากิน ยังได้ของทานเล่นอีกสองสามอย่าง เป็นผลไม้แห้งกับถั่วขนมงา พวกนี้มีสองอย่างที่เก็บไว้ได้นาน ในบ้านไม่มีใบชา จึงถือโอกาสซื้อกลับมาด้วย หมู่นี้ฝนตกบ่อย บางครั้งอากาศเย็นจนหนาว ไม่รู้ว่าทำไมโลกของนิยายฤดูกาลจึงมั่วไปหมด ยังไงเสียการได้ดื่มชาร้อนๆ กับของว่างชมสายฝน ก็รื่นเริงไปอีกแบบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD