“การุณตื่นได้แล้ว การุณ..วันนี้มีเรียนนะคะ” อาวุธเอ่ยเรียกหญิงสาวพร้อมกับใช้สองมือดึงผ้าห่มที่เธอกอดแน่นแต่แม้จะพยายามดึงทึ่งออกจากมือบางหญิงสาวก็ไม่ยอมปล่อย
“งื้อออ.. พี่อาวุธ ขอนอนอีกหน่อย เพิ่งจะตีห้าเอง”
“ตีห้าอะไร จะเจ็ดโมงเช้าแล้ว ลุกเลยเด็กดื้อ!!” อาวุธใช้สองมือจับแขนน้องสาวต่างสายเลือดที่ยังหลับตาลุกนั่ง แม้ร่างกายจะนั่งแต่ดวงตาก็ยังหลับด้วยเพราะเธอไม่อยากไปเรียนเธอมีพี่ชายที่แสนน่ารักคอยเอาอกเอาใจดูแลเสมอ“...อย่างอแงนะ วันนี้ขอให้พี่ไปส่งที่คณะไม่ใช่เหรอตื่นเลย...”
“อื้ม..ก็ได้ น้องตื่นก็ได้”
แม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายปีจนอาวุธอายุยี่สิบสองปีแล้วการุณก็ยังเป็นน้องสาวที่ติดพี่ชายเช่นในวัยเด็ก บ้านหลังขนาดเล็กที่ประกอบและกรุณาเลือกซื้อให้คนทั้งสองได้พักอาศัยเพื่อเรียนหนังสือ ทั้งคู่เชื่อใจในตัวอาวุธที่มีความเป็นผู้นำในทุกด้าน การดูแลน้องสาวขี้อ้อนอย่างการุณจึงเป็นสิ่งที่เขาทำตั้งแต่พ่อกับแม่ร่วมเรียงเคียงหมอน
“น้องยอมตื่น เพราะว่าพี่จะไปส่งที่คณะเลยนะ พี่วุธรู้ไหมว่าเพื่อนของน้อง....อยากเจอพี่มาก...” เสียงพูดอย่างออดอ้อนลากยาวทั้งที่ยังไม่ได้แปรงฟันพ่นใส่หน้าพี่ชาย เธอจงใจพูดใส่ทั้งที่รู้ว่ามันจะต้องมีกลิ่นปาก ทำอย่างไรได้เมื่อเธอนั้นสนิทกับพี่ชายเหลือเกิน
“จริงเหรอ.....หื้ม!! จริงเหรอ!!” อาวุธก้มหน้าเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยังนั่งติดเตียง ก่อนที่เขาจะลงน้ำหนักเขกมะเหงกบนหน้าผากทุยของน้องสาวเป็นการทำโทษ“นี่แน่... ไปอาบน้ำแปรงฟันเลย”
“โอ๊ย....พี่อาวุธ น้องเจ็บนะ”
“ถ้าไม่เสร็จภายในสามสิบนาที ออมเลตหัวหอมของโปรดเด็กดื้อหมดแน่...”
“อร๊าย!! อย่ากินหมดนะ ต้องเหลือไว้ให้น้องนะ!!”
การุณตะโกนตามหลังพี่ชายที่กำลังเดินออกไปจากห้อง เธอคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าพี่ชายไม่มีทางกินอาหารของโปรดที่เธอชอบอ้อนให้เขาทำบ่อยแน่ แต่ก็ยังรีบร้อนตามที่พี่ชายขู่ด้วยความสดใสและมีความสุข
โต๊ะอาหารที่อาวุธนั่งกินข้าวจนอิ่มก่อนที่จะนั่งเล่นโทรศัพท์รอน้องสาว เขากำลังเรียนวิศวกรรมปีสี่ที่กำลังจะเรียนจบในไม่ช้า เขาคาดหวังต่อการสานต่อกิจการของพ่อที่เจริญก้าวหน้าด้วยได้รับความไว้ใจ ส่วนการุณเรียนคหกรรมด้วยความชอบในเรื่องละเอียดอ่อนเย็บปักถักร้อยและการอาหาร เธอเป็นเด็กปีหนึ่งที่หนุ่มน้อยใหญ่จ้องมองหมายปองในความงาม แต่ด้วยมีพี่ชายสุดหล่อตามประกบในทุกที่จึงไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามาจีบเป็นตัวตน
“พี่วุธน่ารักที่สุด... ออมเลตหัวหอมหอมฟุ้งเลย ฟอด!!” การุณกอดพี่ชายจากด้านหลังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก่อนจะกดจมูกหอมแก้มพี่อย่างเต็มแรงเป็นการให้รางวัล
คนถูกกระทำตัวแข็งชาทำอะไรไม่ถูกทั้งที่ปลายนิ้วปัดป่ายไปบนหน้าจอโทรศัพท์ ด้วยการกระทำที่แม้จะเล่นหยอกล้อกันบ่อยครั้งตามประสาพี่น้อง หากแต่วันนี้ทั้งเขาและการุณต่างเปลี่ยนแปลงไปทางร่างกายที่เต็มไปด้วยความหนุ่มสาว เขาพยายามข่มใจยิ้มราบเรียบไปยังน้องสาวที่เปลี่ยนไปนั่งจับช้อนและส้อมหน้าจานอาหารตนเอง
“การุณ ต่อไปนี้อย่าเล่นแบบนี้กับพี่อีกนะ ใครเห็นจะดูไม่ดี”
“ไม่ดียังไงเหรอคะ.. ก็เราเป็นพี่น้องกัน อื้มมม..อร่อย!!” การุณหลับตาพริ้มต่อรสชาติอาหารที่เข้าปาก ไม่ว่าจะกินกี่ครั้งเธอก็ยังรู้สึกว่ามันอร่อยเหลือเกิน
“อ๊า.. เออ..เอาเถอะ!! รีบกินเข้าจะได้ไปเรียน”
-----ตึกคหกรรม-----
การุณลากตัวพี่ชายที่ไม่มีเรียนเช้าเข้ามาหากลุ่มเพื่อนด้วยความตื่นเต้น สองแขนกอดรั้งแขนแกร่งของพี่ชายเดินไปตามทางเดินด้วยรอยยิ้ม หัวทุยที่ปล่อยผมยาวดำสะบัดไปตามการเคลื่อนไหวทิ้งตัวซบลงกับบ่าแกร่งพี่ชายอย่างแสนรัก การกระทำที่มีเพียงพี่ชายเท่านั้นที่เธออยากใกล้ชิด
“พี่ชายของเรามาแล้ว หล่อไหม!!” การุณร้องบอกต่อเพื่อนที่นั่งจับกลุ่มกันในยามเช้า
เพียงทุกสายตาหันมาหาคนทั้งสองอาวุธก็มีความขัดเขินเล็กน้อยที่ต้องตกอยู่ในความสนใจ แม้เขาไม่ใช่ผู้ชายพูดน้อยเช่นพ่อแต่ก็ไม่ได้เป็นเสือผู้หญิงเพียงพอที่จะคุ้นชินกับสายตาหญิงสาว รวมไปถึงชายจริงหญิงไม่แท้ที่พุ่งเข้ามาหาตัวอย่างน่าตกใจ
“อื้อ... หล่อแน่นมากเลยค่ะ พี่อาวุธข๋า...” บารมี หรือมีมี้ในชุดนักศึกษาชายรัดรูปลากมือไปตามหน้าท้องที่แข็งเป็นลอนของชายหนุ่ม“ขนาดหน้าท้องยังแข็งขนาดนี้ แล้วอย่างอื่นจะแข็งขนาดไหนเนี้ย!!”
“อะไรแข็งมีมี้ฮ่า ๆ ๆ ๆ ” การุณหัวเราะร่าต่อสิ่งที่เพื่อนสนิทพูดหยอกล้อ เห็นพี่ชายถูกลวนลามก็ยิ่งมีความสุขเพราะเห็นพี่ชายขัดเขินจนใบหูแดงไปทั้งหู
“ก็จะอะไรละแม่ชีการุณ ก็ไอ้อื้ม..” อาวุธเอามือปิดปากบารมีอย่างเต็มแรงเมื่อเขาไม่อยากให้น้องสาวรับฟังสิ่งไม่ดีเข้าไปในหู คนตัวเล็กที่พอจะรู้ความหมายอยู่บ้างหัวเราะร่ากับการกระทำของพี่ชาย
แต่บารมีที่ถูกอาวุธปิดปากไว้ก็ไม่ได้เกรงกลัว เมื่อเขาใช้มือลากไปตามหน้าท้องแข็งลงสู่ความเป็นชายผ่านเนื้อผ้า
“ว้าว!! มีมี้ เธอลวนลามพี่ชายเรา ฮะฮ่า ๆ ๆ ” การุณเอามือปิดตาทั้งที่ปากยังหัวเราะ
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนอาวุธสะบัดตัวบารมีออกแทบไม่ทัน เขารีบไปยืนหลังการุณด้วยความกลัวในหญิงประเภทสอง น้องสาวคนสวยทำท่าทีปกป้องด้วยการกางมือกันพี่ชายจากบารมีไว้ท่าทางน่ารักประหนึ่งว่าพวกเขาคือเด็กชายเจ็ดขวบและน้องสาวสามขวบ
“อย่าเข้ามานะมีมี้ เราจะปกป้องพี่ชายของเราจากเธอเอง ฮ่า ๆ ๆ เธอจะลวนลามพี่ชายของเราไม่ได้ ฮ่า ๆ ”
นานราวสิบนาทีกว่าบารมีจะหยุดก่อกวนอาวุธ น้ำแดงแก้วโตถูกวางลงตรงหน้าเมื่อบารมีทำหน้าที่ไปซื้อ อาวุธได้แต่มองน้องสาวที่เล่นเป็นเด็กจนเหงื่อท่วมตัว เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าก่อนที่จะเช็ดหน้าให้กับคนตัวเล็กข้างกาย หญิงสาวผู้น้องหันมายิ้มก่อนที่เธอจะให้เขาซับเหงื่อให้ มันเป็นการดูแลเอาใจใส่ของเธอทั้งสองเช่นปกติ
“งื้อออ.. มีซับเหงื่อให้กันด้วยอ่า ถ้าไม่มีใครรู้ว่าเป็นพี่น้องกันต้องคิดว่าเป็นแฟนกันแน่” บารมีว่าพร้อมกับกดกระดาษซับหน้ามันลงบนหน้าของตัวเองแม้ปากจากพูดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
“เป็นแฟนกันก็ดีสิ เราจะได้มีพี่อาวุธดูแลไปตลอดชีวิต” การุณพูดเสียงใสขณะที่อาวุธมองหน้าหญิงสาวอย่างตกใจ “มีมี้รู้ไหมว่าเราไม่อยากให้พี่อาวุธมีแฟนเลย ถ้ามีแฟนพี่อาวุธต้องรักแฟนมากกว่าเราแน่ ๆ ”
“พี่ไม่มีทางรักใครมากกว่าการุณหรอก” อาวุธพูดแทรกด้วยความรู้สึกใครเลยจะมาเทียบเท่าคนที่อยู่ในสายตาเสมอเช่นการุณ
บารมีได้แต่มองสองพี่น้องสลับกันไปมาด้วยความสนใจ เมื่อการสนทนาที่พอจะมองเห็นอะไรบางอย่างหลบซ่อนแม้จะไม่ปักใจเชื่อแต่ความรู้สึกมากมายมันบ่งบอก แม่ชีตัวน้อยที่มักใช้เรียกแสดงถึงความรักที่ตนเองมีให้เพื่อนที่แสนดีคนนี้ “จริงด้วยค่ะพี่อาวุธขา.. ใครจะรักแฟนมากกว่าน้องสาวใช่ไหมคะ มีมี้รู้”
“ออ...ใช่ เอ่อ..พี่ไปเรียนก่อนนะ แล้วเย็นนี้พี่จะมารับ”
++++++++
การุณมองตามหลังพี่ชายที่เดินแยกออกไปด้วยแววตาหวาน เมื่อเธอเองรู้แจ้งแก่ใจในความรู้สึกที่มีให้ ความใกล้ชิดในทุกคืนวันของช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้เธอรู้ว่านั่นคือความรัก ความรักที่ก่อเกิดขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ตัวมาก่อน
นับจากวันที่ต้องมาเรียนต่อกรุงเทพฯและใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกับพี่ชาย มันทำให้เธอรู้ว่าความรักที่มอบให้กับอาวุธคือความรักเช่นชู้สาว ไม่ใช่ความรักเฉกเช่นพี่น้องในสายตาทุกคน ทั้งที่รู้ดีว่าเธอและเขาไม่ใช่พี่น้องโดยสายเลือดแต่ก็ไม่อาจแสดงความรักออกไปตามตรงด้วยเพราะมันเป็นสิ่งที่ผิด
ใครเลยจะรับได้กับการที่พี่น้องน้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง สายตาคนภายนอกที่มองเข้ามาจะเป็นเช่นไรเมื่อพ่อกับแม่ได้กัน ลูกกับลูกของคนทั้งสองก็มีสายใยแบบนี้ ทุกอย่างที่ไตร่ตรองด้วยวุฒิภาวะจึงทำให้เธอเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจ
“แม่ชีการุณ อย่าบอกนะว่าเธอนะหลงรักพี่ชาย...อื้มมม” การุณใช้มือเรียวปิดปากเพื่อนสาวที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แม้ตอนนี้จะอยู่กันสองคนก็ไม่อยากที่จะให้ใครมาได้ยินเรื่องนี้
“อย่าพูดไปนะ..เราขอร้อง” การุณอ้อนวอนด้วยความเห็นใจ ช่วงเวลาที่เรียนที่นี่เธอสนิทและไว้ใจบารมีมากที่สุด ทุกเรื่องในชีวิตจึงถูกเล่าให้เพื่อนสาวได้เข้าใจว่าเธอและอาวุธไม่ใช่พี่น้องกันโดยแท้
“ไม่พูดหรอกน่า... เห้อ!!” บารมีถอนหายใจพร้อมกับมองไปรอบ “ความจริงมันก็ไม่ได้ผิดนะ ก็เธอไม่ได้เป็นพี่น้องจริง ๆ กับพี่อาวุธ ถ้าจะรักจะชอบก็ไม่เห็นจะเป็นไร”
“เป็นสิ...” การุณพูดเสียงเศร้า เธอคิดมาเป็นเวลานานทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามันมีผลเสียอะไรบ้าง “ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ตากับยายก็คงจะมองเราสองคนไม่ดี พ่อกับแม่ก็ต้องอับอาย มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ใคร ๆ ก็รู้ดี ขอร้องนะ..มีมี้อย่าบอกใคร”
“......”
“นะมีมี้... เราไว้ใจมีมี้ที่สุดนะ”
“อะ ๆ ก็ได้ จะไม่บอกใคร” บารมีรับปากในที่สุด แม้จะเป็นชายไม่จริงหญิงไม่แท้แต่ก็ไม่มีนิสัยเอาเรื่องคนอื่นไปพูดให้เสียหาย
“ฮัลโหล...อะไรไม่บอกใครคะ บอกหน่อยอยากรู้” คนผู้มาใหม่เอ่ยถามเมื่อได้ยินประโยคที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
จิตราเพื่อตั้งแต่สมัยมัธยมที่เรียนที่เดียวกับการุณมาตลอด เธอเป็นที่หนึ่งในทุกด้านด้วยพยายามทำตัวเหนือกว่าการุณที่เป็นลูกคนรวย การตามมาเรียนที่เดียวกับเจ้าหล่อนก็ไม่ใช่ใจรัก เพียงแค่เธออยากได้รับการยอมรับจากครอบครัวที่เป็นลูกจ้างของกรเมท พ่อที่ทำงานเป็นผู้บริหารของบริษัทแต่ก็ไม่ใช่เจ้าของ เธอมองเห็นความโดดเด่นของการุณมาตลอดนับจากเข้าโรงเรียน ผู้หญิงที่อยู่เหนือกว่าด้วยฐานะทางสังคมแต่ก็ไม่เคยชนะเธอสักเรื่อง ทั้งการเรียนและงานคหกรรมที่จิตราเอาชนะได้ทุกอย่าง
“ไม่มีอะไรหรอกจิตรา มีมี้แอบรักผู้ชายนะ”
“ช่าย..หล่อมากเลยนะแก” บารมีเสริมในสิ่งที่การุณได้ปูทางไว้ สรรพนามที่ใช้เรียกกับจิตราก็จะแตกต่างออกไปด้วยคนหนึ่งเรียบร้อยอ่อนหวาน อีกคนทำทีเป็นเรียบร้อยเท่านั้น
“ใครเหรอ ฉันรู้จักไหม!!”
“ไม่บอกยะ เรื่องผู้ชายเรื่องใหญ่ ฉันไม่บอกแกเด็ดขาด”
“โอเค..” แม้จิตราจะไม่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เพื่อนสนทนากันก่อนหน้า แต่เธอก็พอจะคาดเดาได้ว่ามันต้องเกี่ยวกับอาวุธพี่ชายของการุณ ด้วยเธอมองเห็นแก้วน้ำสามแก้ววางอยู่บนโต๊ะ มันคงไม่ใช่ความหวังดีที่เพื่อนจะซื้อรอเธอเป็นแน่
อาวุธนั่งอยู่ในรถอยู่นานเพื่อตั้งสติในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผ่านมาแล้วกี่ปีที่เขากับการุณได้ชื่อว่าเป็นพี่น้อง
ผ่านมาแล้วกี่วันที่เขารักและหวังดีกับการุณมาเสมอ
ผ่านมาแล้วกี่นาทีที่เขาไม่อาจเอาเธอออกไปจากหัวใจ
ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนความรู้สึกในใจก็เหลือแค่เพียงความหมายเดียว ความหมายที่มันคือความรักที่เขามอบให้กับน้องสาว ความรักที่เขาอยากให้มันเกิดกับคนอื่นที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกตัวเองได้ ‘เขารักการุณเช่นคนรัก’
“น้องสาว การุณคือน้องสาว แกจะต้องไม่คิดอะไรไปมากกว่านี้” เสียงพร่ำบอกกับตัวเองเพื่อย้ำเตือนในสิ่งที่ไม่ควรจะเกิด เขาไม่ควรที่จะรักเธอด้วยความรู้สึกมากกว่าพี่น้อง แต่วันคืนก็ทำให้ความรู้สึกมันชัดเจนมากขึ้นทุกคืนวัน
LINE!!!
สายฝน : วันนี้พี่ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอคะ มาทำไม
อาวุธอ่านข้อความในมือถือก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ รถ มองเห็นสายตาของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษารัดรูปจ้องมองมายังเขา สายฝนคือน้องสาวของสายฟ้าเพื่อนสนิทของเขาเอง สายฟ้าพยายามจะให้น้องสาวได้เป็นแฟนกับอาวุธผู้มีนิสัยดีและไม่เจ้าชู้ เขาเองก็พยายามเข้าหาน้องสาวของอาวุธเช่นกันแต่ก็ถูกกันท่าด้วยพี่ชายตลอดเวลาที่ผ่านมา
การทักทายที่อาวุธไม่ได้ตอบข้อความกลับไปแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปหา หญิงสาวอกอวบที่หลายคนในมหาลัยก็ต่างหมายปองอยากได้เป็นเจ้าของ แต่เธอก็เลือกว่าใครที่จะดีเพียงพอที่จะพาชีวิตอับเฉาไร้เงินทองของเธอขึ้นที่สูง และอาวุธคือหนึ่งในคนที่เธอเลือกแล้ว
“ฝนมาหาพี่สายฟ้านะค่ะ เห็นพี่นั่งหน้าเครียดอยู่ในรถ คิดว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ.. วันนี้ฟ้ามันก็ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ ฝนจำผิดรึเปล่า”
“......” สายฝนยิ้มจางเมื่อแท้จริงแล้วเธอมาหาอาจารย์ที่เป็นเหยื่อกระเป๋าหนักให้เธอได้ไถเงินซื้อของตามชอบใจ แลกกับการนอนไม่กี่ครั้ง “นั่นสิ.. ฝนนี่แย่จังเลยนะคะ นี่ฝนก็ติดต่อพี่ฟ้าไม่ได้ พี่ฟ้าบอกว่าจะเอาเงินของเดือนนี้มาให้ ฝนไม่มีเงินแล้วตอนนี้ พี่ชายไม่เคยจะดูแลเลย”
“เอาของพี่ไปก่อนสิ...” อาวุธหยิบกระเป๋าเงินก่อนที่จะส่งแบงค์สีเทาให้กับหญิงสาวตรงหน้าสองใบ ชีวิตตอนนี้ของเขามีเงินมากพอที่จะใช้สอยแต่เขาก็ไม่เคยจะฟุ่มเฟือยด้วยรู้ว่าชีวิตที่มันลำบากรสชาติเป็นยังไง ความที่เห็นหญิงสาวเป็นอย่างน้องสาวจึงอยากช่วยเหลือ
“ไม่ดีกว่า.. ฝนเกรงใจ เดี๋ยวฝนพยายามโทรหาพี่ฟ้าก็ได้...”
“เกรงใจอะไร เอาไปใช้ก่อน..วันนี้ไอ้ฟ้ามันไม่เข้ามาแน่ แล้วฝนจะกินอะไร เกิดจำเป็นต้องใช้” อาวุธจับยัดเงินใส่มือของหญิงสาวพร้อมกับการบอกกล่าว
“......” คนรับเงินยิ้มอย่างพอใจเมื่อเธอคิดว่าเลือกถูกแล้วที่จะเป็นอาวุธ หลุมเงินหลุมใหญ่ที่เธอจะกอบโกยเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ “ขอบคุณนะคะ ฝนจะรีบเอาเงินที่พี่ฟ้ามาคืนค่ะ”
“ครับ.. พี่ไปก่อนนะ”