จุ๊บ
อึ้งครับ ผมกำลังโดนผู้ชายด้วยกันจูบ จูบแรกของผมดันตกเป็นของผู้ชาย แถมไอ้คนที่กำลังจูบผมอยู่ดันเป็นไอ้ขี้เมาผมเผ้ารุงรังศัตรูคู่อาฆาตของผมซะนี่ มันพลิกร่างผมลงไปอยู่ด้านล่าง ผมพยายามดันตัวมันออกแต่ไม่สำเร็จได้แต่เม้มปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นมันบุกรุกเข้ามาได้ มันเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปถูไถไซร้ซอกคอของผมแทน
“โอ๊ย” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อมันขบกัดลงที่ซอกคอผมพร้อมทั้งดูดเม้มแรงๆ แดงเถือกแน่ครับ ทั้งรอยกัด ทั้งรอยดูด ผมเลยต้องพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด
โครม
ในที่สุดความพยายามของผมก็ประสบความสำเร็จครับ ผมถีบมันออกไปสุดแรง มันลงไปกองอยู่ปลายเตียงส่วนผมไม่รอดูผลงานตัวเองนาน ลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเอง ไม่แม้แต่จะหันไปมองว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง ช่างหัวมันสิ
ถึงห้องผมก็รีบเข้าไปในห้องน้ำส่องกระจกดูคอตัวเอง แดงเถือกจริงๆ ด้วย แถมมีรอยกัด รอยดูดชัดเจนมาก เสื้อนอนของผมกระดุมหลุดจากรังไปสามเม็ดโดยที่ผมไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
“ไอ้ธีร์ กูจะฆ่ามึง” ผมได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สาปแช่งก่นด่ามันอยู่หน้ากระจก ไม่ออกไปดูด้วยว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง หลังหักตายไปหรือยัง หรือฟื้นคืนสติกลับบ้านไปแล้ว ช่างหัวมันก็แล้วกัน
“เฮ้อ”
ผมนอนไม่หลับจนถึงเช้า พยายามข่มตาอย่างไรก็หลับไม่ลง บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร ไม่ชอบที่มันจูบปาก ดูดคอ แต่ผมดันไม่ได้รังเกียจหรือขยะแขยงสัมผัสมันซะนี่ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเพราะตกใจมากจนต่อมความรังเกียจหยุดทำงานกะทันหัน พยายามคิดแค่ว่ามันเมา คนเมาไม่มีสติ แล้วผมก็ถีบมันตกเตียงซะเสียงดังด้วย ตื่นมาท่าจะเจ็บน่าดู ถือว่าหายกันก็แล้วกัน
09:00 น.
หลังจากที่ทนนอนกระสับกระส่ายกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอยู่นาน ผมเลยลุกไปอาบน้ำ แต่พอส่องกระจกดูคอตัวเองทีไร ความโกรธผมพุ่งปรี๊ดทุกที ยิ่งพอรอยนั้นโดนน้ำกับสบู่มันยิ่งแสบผมก็ได้แต่อาบน้ำไปด่ามันไปจนอาบเสร็จ แล้วแต่งตัวออกจากห้องเพื่อไปหาอะไรกิน
“หนาวหรือวะแยม” เสียงไอ้โจ้ มันกลับมาแล้ว และตอนนี้มันก็กำลังยืนหัวเราะผมอยู่ที่หน้าประตูเมื่อมันเห็นผมในชุดเสื้อคอเต่า ทุกคนคงจะรู้นะครับว่าทำไมผมถึงใส่เสื้อคอเต่า
“เออ หนาว” ผมตอบมันไปด้วยน้ำเสียงเซ็งเต็มที่
“ไม่สบายหรือไงมึง แดดข้างนอกเผากูจะสุกอยู่แล้วแต่มึงหนาวนี่นะ” มันยืนเท้าสะเอวถามผมพร้อมกับหัวเราะ
“เออ” ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี นอกจากรับคำมันไป
“แล้วนี่ไอ้ธีร์มันยังไม่ตื่นหรือ” ไอ้โจ้ถามผมพร้อมกับหันไปมองประตูห้องตัวเอง
“ไม่รู้เว้ย” ผมดันขึ้นเสียงใส่มันส่อพิรุธเข้าไปใหญ่ ไอ้โจ้มองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์พร้อมกับโน้มแขนมาเท้าพนักโซฟา ก่อนเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“อะไรกันน้องแย้มของพี่ธีร์ นอนด้วยกันทั้งคืน ไม่รู้ได้ไงว่าพี่ธีร์ของน้องแย้มตื่นหรือยัง” พูดเสร็จมันก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของผมที่คงจะแสดงอาการแปลกๆ ออกไปแน่ ร้อนครับ ตอนนี้หน้าผมคงแดงอยู่แน่ๆ เพราะมันร้อนลามไปถึงใบหูแล้ว
“อะไรวะ หยอกแค่นี้ โกรธหน้าแดงหูแดงเลยหรือวะ ชินได้แล้วนะน้องแย้มของพี่ธีร์” แล้วมันก็หัวเราะออกมาอีกรอบ ผมนี่อยากต่อยปากมันเหลือเกิน อยากตะโกนใส่หูมันด้วยว่าไอ้บ้านั่นไม่ใช่ของผมและผมก็ไม่ใช่ของไอ้บ้านั่นด้วย
แอ๊ด
เสียงประตูห้องไอ้โจ้เปิดออกพร้อมคู่กรณีของผมเดินออกมา ในมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กกำลังซับน้ำออกจากใบหน้าแต่ผมเผ้ายังกระเซอะกระเซิงรุงรังเหมือนเดิม ทำไมมันปล่อยให้ผมยาวขนาดนั้นก็ไม่รู้ อย่างกับโจร
“ตื่นแล้วหรือวะไอ้ประธาน” ไอ้โจ้ถามทั้งที่มันยังไม่หยุดหัวเราะ
อีกฝ่ายไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ แล้วมันก็หันมามองที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ ผมนี่สะดุ้งกับสายตามันเลย คือหน้ามันออกแนวดุแถมผมรกรุงรังนั่นยิ่งเสริมความโหดเถื่อนให้มันอีก ไม่รู้มันได้รับเลือกให้เป็นประธานนักศึกษาได้อย่างไร หรือเดี๋ยวนี้เขาชอบคนหน้าโหด เถื่อนๆ กัน
“หนาวหรือน้องแย้ม” มันถาม ผมนี่จี๊ดเลย โมโหกับสิ่งที่มันทำไว้ แต่ไม่อยากพูดกับมันเลยได้แต่ถลึงตาใส่ มันก็หัวเราะผมอีก
“อะไรกันน้องแย้ม ถามแค่นี้ทำเป็นโกรธ เมื่อคืนก็นอนร่วมห้องกันทั้งคืน” มันยังไม่หยุดกวนประสาท ผมนี่อึ้งเลย หรือว่าเมื่อคืนมันจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป มันต้องการแกล้งผม พอคิดแบบนี้แล้วควันออกหูเลยสิ กำลังจะเถียงมันกลับมันก็หันไปถามไอ้โจ้ซะก่อน
“ไอ้โจ้ ไปส่งกูเอารถที่ร้านเมื่อคืนหน่อยสิ”
“ไอ้เล็กขับมาให้มึงแล้ว จอดอยู่ข้างล่าง เอ้านี่กุญแจ” พูดจบมันก็โยนกุญแจให้ก่อนเดินเข้าห้องไป ไอ้หน้าโหดยัดกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงแล้วหันมาทางผม
“พี่ธีร์ไปก่อนนะจ๊ะน้องแย้ม” พูดเสร็จมันก็เดินออกไปเลยทิ้งผมให้นั่งโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว ยังไม่ทันได้รู้เลยว่าเมื่อคืนมันเมาจริงๆ หรือแค่แกล้งผมกันแน่ เพราะถ้าแค่แกล้งจริงมันก็เล่นแรงเกินไป นั่นจูบแรกของผมนะ ผมอุตส่าห์เก็บไว้ให้ผู้หญิงที่คู่ควรได้รับแท้ๆ แต่มันกลับมาล้อเล่นกับความรู้สึกของผม แค่คิดความน้อยใจก็แล่นเข้าจุกอกซะแล้ว
เอ๊ะ! น้อยใจหรือ ทำไมผมต้องน้อยใจไอ้บ้านั่นด้วย คงจะบ้าไปแล้ว นี่ผมเป็นอะไรไป ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วย ผมสะบัดหัวไปมาอย่างกับว่าถ้าสะบัดแรงๆ ความคิดเหล่านั้นจะหลุดออกจากสมองได้ ก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ผมต้องหาอะไรทำให้ลืมๆ เรื่องนี้ไปซะ
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วที่ผมไม่เจอกับมัน ร่องรอยที่คอก็หายแล้วและวันนี้เป็นวันแรกที่คณะของผมมีการเรียนการสอนเป็นวันแรกของปี 3 และเย็นวันนี้เป็นวันแรกที่มีการประชุมรวมของคณะ คือวิศวะฯ ทุกสาขาจะประชุมรวมกัน และผมคิดว่าวาระการประชุมวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการรับน้องรวม และเปิดตัวประธานนักศึกษาคนใหม่ของปีนี้ คงรู้กันนะครับว่าผมหมายถึงใคร
ผมแต่งตัวไปเรียนใส่เสื้อยืด เสื้อช็อป กางเกงยีนส์ ซึ่งมันก็เป็นการแต่งตัวตามปกติของเด็กคณะนี้ วันนี้ผมอาศัยรถไอ้โจ้ไปเรียนด้วยเพราะว่าเรียนเสคเดียวกันเลยไปพร้อมกันได้ หรืออีกนัยน์นึงคือผมขี้เกียจขับรถและก็ประหยัดน้ำมันด้วย
ผมเรียนเสคเดียวกับไอ้โจ้ ซึ่งนั่นหมายความว่าผมต้องเจอกับไอ้บ้านั่น แต่แปลกครับนั่งเรียนไปครึ่งคาบแล้วผมก็ไม่เห็นมันเลย หันไปถามไอ้โจ้ มันก็มองผมแปลกๆ แล้วก็ชวนกันหัวเราะกับพวกไอ้กิจ ไอ้มิน โดยก็ไม่ตอบคำถามผม สงสัยจะโดดเรียน ช่างทำตัวเหมาะสมกับฐานะประธานนักศึกษาซะจริง โดดเรียนตั้งแต่คาบแรก
นั่งเรียนไปสักพักผมก็รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองอยู่ข้างหลัง แต่พอหันไปหาก็ไม่เห็นมีอะไร เพราะส่วนใหญ่ที่นั่งเรียนอยู่นี่ผมก็รู้จักกันหมด ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทกันมากนักเพราะเรียนคนละสาขา แต่ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่นั้นผมรู้สึกจริงๆ หรือว่าผมจะโดนผีหลอก
ผมนั่งระแวงจนหมดคาบจนเพื่อนคนอื่นๆ เดินออกจากห้องไปแล้ว แต่พวกผมยังนั่งเตร่กันอยู่ในห้อง เพราะไอ้กิจมัวแต่หลับจนจดงานที่อาจารย์สั่งไม่ทันเลยขอลอกจากพวกผมแทน ระหว่างรอผมเลยเล่าว่าตอนนั่งเรียนอยู่รู้สึกเหมือนมีคนมองจากข้างหลัง แต่ก็ไม่เจอคนน่าสงสัย พวกมันบอกว่าผมประสาทหลอนคิดไปเองแล้วที่แปลกอีกอย่างคืออาจารย์บอกว่าวันนี้มีคนมาเรียนกันครบ แต่ทำไมผมไม่เห็นไอ้ธีร์ สาบานได้ว่าสายตาผมปกติดีทุกอย่าง แต่ผมไม่เห็นมันจริงๆ ถามพวกไอ้โจ้มันก็ไม่ยอมบอกเอาแต่หัวเราะผม และผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันหัวเราะผมเรื่องอะไร อยากรู้นะแต่ขี้เกียจถาม
“เฮ้ย กินข้าวกัน กูหิวแล้ว” ไอ้มินเป็นคนเอ่ยชวนเมื่อเห็นไอ้กิจจดงานเสร็จ
“กินไหนดี โรงอาหารหรือข้างนอก” ไอ้โจ้เป็นคนถาม
“ข้างนอกเถอะ โรงอาหารท่าจะคนเยอะ” ไอ้กิจตอบรับ แล้วพวกเราก็ยกโขยงกันไปร้านข้าวหลังมหาวิทยาลัยซึ่งใกล้ที่สุด
พอไปถึงที่ร้านก็เจอไอ้เล็ก ไอ้ทศ ไอ้ต้น และแก๊งสามนางคว้าที่ไอ้โจ้เป็นคนตั้งชื่อให้ ไม่ผิดครับนางคว้าจริงๆ เพราะพวกนางเป็นกระเทยที่มีร่างกายบึกบึน แต่นิสัยดีครับเรียนสาขาเดียวกับผม ประกอบไปด้วย เชอรี่ โรสและมิลค์ ผมไม่รู้หรอกว่าที่จริงแล้วชื่อเดิมของแต่ละคนชื่ออะไร พวกเขาไม่อยากบอกกันผมเลยไม่ถามเพื่อความสบายใจของพวกนั้น ส่วนไอ้เล็กเรียนเครื่องกล ไอ้ทศกับไอ้ต้นเรียนสาขาเดียวกับผม
“พี่แยมขา มานั่งกับเชอรี่มา” เชอรี่เรียกผมแล้วเดินมาคว้าแขนผมไปนั่งด้วยกัน พวกผมทั้งหมดเลยไปนั่งรวมกันโดยต่อโต๊ะเอา
“น้อยๆ หน่อยนังเชอรี่ เดี๋ยวไอ้ธีร์ก็ฆ่ามึงหรอก” ไอ้กิจพูดขึ้น ผมหันขวับไปมองหน้ามันเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่สาม
“ต๊ายยยย ปากเสียนะอีกิจ วันนี้ไอ้มหาโหดธีร์ไม่มาเรียนนี่ ฉันยังไม่เห็นมันเลย” เชอรี่ตอบกลับไปก่อนจะหันมากอดแขนผมเหมือนเดิม ผมก็ไม่ได้ผลักไสอะไรเพราะรู้ดีว่าพวกนี้แค่หยอกกันเล่นเฉยๆ
“ตาถั่วนะมึง พอๆ กับไอ้แยมเลย” ไอ้มินว่า มีพาดพิงถึงผมด้วย ว่าแต่ผมตาถั่วเรื่องอะไรล่ะนี่ ยังไม่รู้ตัวเลย ว่าจะถามแต่ข้าวที่สั่งไว้มาเสิร์ฟคั่นกลางซะก่อน
เงียบเหมือนป่าช้าเลยพอข้าวเข้าปาก ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว สงสัยจะหิวกันมาก หลังจากกินเสร็จ ต่างคนต่างจ่ายเงินส่วนของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมประชุมตอนบ่ายกันต่อ
เมื่อเดินมาถึงห้องประชุม พวกผมก็จับจองที่นั่งกันตามสะดวก ผมเลยไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ สาขาเดียวกันตรงกลางๆ ห้องเพื่อสะดวกเวลาปรึกษาหารือกัน ด้านซ้ายผมเป็นไอ้ต้น มันเป็นประธานรุ่นปี 3 ของสาขาผม ส่วนด้านขวาเป็นไอ้ทศ ด้านหลังนี่ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใคร
“พี่แยมขา พี่แยมว่าคราวนี้เราสองคนไปรับน้องกันที่ไหนดีคะ” เชอรี่เองครับ พอผมนั่งลงปุ๊บแก๊งสามนางคว้าก็มานั่งต่อหลังทันทีพร้อมกับพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว
“นี่นังเชอ ใครเขาให้หล่อนไปกับพี่แยมสองคนยะ พี่แยมเขาไปกับฉันย่ะ” โรสก็ไม่น้อยหน้า ยื่นหน้าเข้ามาคุยซะเกือบชิดแก้มผม ผละเกือบไม่ทัน พวกไอ้ต้น ไอ้ทศ กับพวกที่เห็นหัวเราะกันใหญ่
“เดี๋ยวไอ้ธีร์จับพวกมึงหักคอกูไม่ช่วยนะ ฮะ ฮะ” ไอ้ต้นพูดออกมาก่อนหันมาหัวเราะกับผม ทำไมเวลาคุยเรื่องผมถึงต้องมีชื่อไอ้บ้านั่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เข้าใจอยู่หรอกว่าแซวเล่น แต่บางทีมันก็เยอะไปจนผมเซ็ง แทนที่จะจับคู่ผมกับสาวๆ สวยๆ กลายเป็นไอ้บ้าผมรุงรังนั่นซะนี่ แล้วไอ้ธีร์มันก็ไม่ได้เป็นเกย์ด้วย หน้าโหดซะขนาดนั้น
ผมชอบผู้หญิงนะแต่ที่ยังไม่อยากมีแฟนใหม่หลังจากที่เลิกรากับเธอคนนั้นไปนานเพราะสัญญากับที่บ้านไว้ว่าขอเรียนจบก่อนแล้วค่อยหาแฟน หรือไม่ก็คุยๆ กันไปก่อนแต่จะยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟน อาจจะเพราะผมยังไม่มีใครพวกเพื่อนๆ ถึงได้จับคู่ผมกับไอ้ธีร์ ไอ้โจ้เคยบอกว่าดูการ์ตูนเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรแล้วคิดถึงผมกับไอ้ธีร์ เศร้าครับ มันเห็นผมเป็นโฉมงามไปซะแล้ว
นั่งคิดอะไรไปเพลินๆ อยู่ๆ ในห้องประชุมก็เงียบ อาจารย์วิฑูรย์ เป็นอาจารย์ปำจำภาคคณะและเป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอกสารจากอธิการบดีเรื่องการรับน้องให้จัดนอกสถานที่ได้ พออาจารย์ประกาศจบเท่านั้นแหละ เสียงโห่ร้องดีใจดังเซ็งแซ่ทั่วห้อง ผมก็ดีใจนะ จะได้เที่ยวไปในตัวด้วย
นอกจากเรื่องรับน้องนอกสถานที่แล้วอาจารย์วิฑูรย์ยังขอให้แต่ละสาขาส่งตัวแทนสาขาละ 2 คน เพื่อถ่ายแบบติดป้ายประชาสัมพันธ์สาขาของตัวเอง
“ไอ้แยม หน้าที่นี้มึงรับไปนะ เพราะในบรรดาพวกกูทั้งหมดมึงดูเป็นผู้เป็นคนสุดแล้ว หรือพวกมึงว่าไง” ไอ้ต้นโยนหน้าที่มาให้ผมพร้อมขอความเห็นจากคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครคัดค้าน
“ถ้าอย่างนั้นเชอรี่รับหน้าที่นี้คู่กับพี่แยมเองนะคะ จุ๊บๆ ” พูดเสร็จพร้อมยื่นหน้าทำปากจู๋จะจูบผม ดีที่ไอ้ทศไวกว่าตะปบหน้าเชอรี่ไว้ได้ทัน
“อีกคนนึงเขาเอาผู้หญิงเว้ย มึงอ่ะหมดสิทธิ์” ไอ้ต้นพูดตัดความหวัง ส่วนเชอรี่ก็นั่งหน้าบูดไปตามระเบียบ
“ชิชะ ไอ้ต้น พวกกูก็เป็นผู้หญิงนะ มีแต่มึงนั่นแหละตาถั่ว มองไม่เห็นความสวยของพวกกู” พูดเสร็จสะบัดหน้าเชิดใส่ไอ้ต้นซะคอแทบหัก ไอ้พวกที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้พากันหัวเราะครืนเลยทีเดียว
“ตกลงมึงกับน้ำไปถ่ายแบบนะ” ไอ้ต้นขอคำยืนยันอีกที
“เออ ก็ได้” ผมขี้เกียจปฏิเสธ เพราะเดี๋ยวมันก็หาเหตุผลมาให้ผมตกลงจนได้ ส่วนฟ้า คนที่จะถ่ายคู่ผม เธอตัวเล็ก น่ารัก ยิ้มเก่งครับ มีดีกรีเป็นรองดาวมหาวิทยาลัยด้วย เธอเลยได้รับหน้าที่นี้ไปโดยไม่มีใครโต้แย้ง
“เอาล่ะ เงียบๆ กันหน่อย” เสียงอาจารย์วิฑูรย์ดังขึ้นจนพวกเราต้องเงียบ
“วันนี้มีอีกเรื่องนึงที่จะประกาศ เป็นข่าวดี รู้กันแล้วใช่ไหมว่าคณะเราได้รับโหวตสูงสุดเมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษา ก็ขอแสดงความยินดีด้วย” อาจารย์ปรบมือให้ พวกเราเลยต้องปรบมือตาม
เมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษามีคนลงสมัครด้วยกัน 8 คน คณะวิศวะฯ ลงสมัครโดยไม่ได้สมัครใจแค่คนเดียวคือไอ้ธีร์ ที่บอกว่าไม่ได้สมัครใจเพราะโดนเพื่อนในกลุ่มเสนอชื่อลงสมัครโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่อง พอมันเห็นชื่อตัวเองอยู่ในบอร์ดประกาศรายชื่อผู้สมัครเท่านั้นแหละ มันโวยวายใหญ่เลยครับ ดีที่พวกเพื่อนมันช่วยกันกล่อมว่าไม่ต้องห่วงมันอาจไม่ได้รับเลือก ธีร์มันเลยยอม พอถึงวันเลือกตั้ง นับคะแนนกัน ผลออกมาเป็นอะไรที่ตกตะลึงกันมาก ไอ้ธีร์ชนะการเลือกตั้ง แถมได้คะแนนโหวตชนะขาดคนอื่นด้วย มันก็เลยต้องก้มหน้ารับหน้าที่อันทรงเกียจนี้ไป
“นายธีรพัฒน์ วัฒนกิจ เชิญออกมาด้านหน้าด้วย” อาจารย์วิฑูรย์เรียกไอ้ธีร์ออกไปโชว์ตัวพร้อมกับเสียงปรบมือ ผิวปากกันเกรียวกราว และสิ่งที่ทำให้ผมต้องแปลกใจก็คือ คนที่ผมเห็นบนเวทีหน้าห้องนั้นไม่ใช่ไอ้ธีร์ แล้วไอ้หล่อหน้าห้องนี่มันเป็นใคร