ตอนที่ 2
หึงผมมาก?
"ภู!! พอได้แล้ว! นี่มันลานจอดรถนะ!"
ช่อลดา ปรามเลขาหนุ่มเสียงสั่นระริก เมื่อมือปลาหมึกเริ่มสอดเข้าไปยังชายกระโปรงทรงสอบและหยุดยังเนินเนื้ออวบอูมภายใต้แพนตี้ตัวบาง ขณะที่ปากและลิ้นของเขาละเลียดจูบขบเม้มบริเวณผิวเนื้ออ่อนข้างลำคอแผ่วละมุน จนอารมณ์ของเธอเริ่มปะทุขึ้นทีละนิดๆ
เขาร้ายกาจนัก
"บอกมาก่อนครับว่าหึงผมมาก"
ภูริช ถามเสียงนุ่มทุ้มต่ำชิดริมหูขาว
"ฉันไม่ได้หึงนาย ก็แค่...."
ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่น
ความจริงเธอหัวเสียมากตั้งแต่เมื่อช่วงบ่าย หลังจากที่เห็นไลน์เขาเด้งขึ้นมาและภาพน้องก้อยพนักงานฝ่ายบัญชีในชุดวาบหวิวก็ปรากฎให้เธอเห็นจะๆ เต็มสองตา
จนเธอรู้สึกหงุดหงิดโมโหและไม่คุยกับเขาทั้งวัน
แต่ช่อลดาก็ไม่อยากจะยอมรับว่าเธอหัวร้อนมากกับภาพนั้น หัวร้อนยิ่งกว่าสัญญาหลักร้อยล้านของบริษัทโดน cancel เสียอีก
"ก็แค่อะไรครับที่รัก?"
ใบหน้าหล่อเหลาทะเล้นขึ้น
"ภู! ตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ จะพูดอะไรให้ระวังด้วยสิ ก็ตกลงกันแล้วไงว่าความสัมพันธ์ของเราให้ปิดเป็นความลับ เดี๋ยวคนอื่นก็มาได้ยินหรอก"
หัวคิ้วของ ภูริช กระตุกไหว ดวงตาเข้มเหมือนจะดำมืดขึ้นยิ่งกว่าเดิม
"ก็เรียกกันอยู่สองคนนี่ครับ! ผมไม่ได้พูดต่อหน้าคนอื่นซะหน่อย จะละเมิดข้อตกลงของเราตรงไหนกัน?"
แม้เขากับเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จากเรื่องราวของค่ำคืนหนึ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงบริษัทเมื่อสองเดือนก่อน จนกลายมาเป็นความผูกพันที่ยากจะถอนตัว
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ บอสคนสวยของเขาก็ให้ปิดเป็นความลับอย่างยิ่งยวด
และเธอจะย้ำบอกเขาทุกครั้ง ที่เขามักจะเผลอตัว
....และเผลอใจ
"ภู! ช่วงหลังภูแสดงออกชัดเจนเกินไปหน่อยนะ แล้วตอนนี้เราสองคนก็กำลังอยู่ในลานจอดรถของร้านอาหารของเครือเศวตสิริที่อาจมีลูกค้าหรือคนรู้จักผ่านไปมา"
"แล้วไงครับ?"
ภูริช ยักไหล่ ขณะค่อยๆ คลึงนิ้วเรียวแข็งยังกลีบเนื้อที่เริ่มฉ่ำชื้นภายใต้ร่มผ้าบาง
"ก็บอสหึงผมและงอนผมขนาดนี้ จะให้ผมมีสมาธิไปทำอย่างอื่นเหรอครับ? ผมก็ต้องพูดหวานๆ ก็ต้องรีบง้อบอสก่อนสิครับ"
ช่อลดา เม้มริมฝีปากแน่น
"อื้ออออ ภู!!"
"ความจริงเมื่อกี้ผมก็หึงบอสเหมือนกันนะครับ ทำไมต้องทักทายด้วยการกอดคุณวิชิตแนบแน่นแบบนั้นด้วยล่ะ"
ภูริช กัดฟันแน่นดังกรอด ขณะสอดนิ้วเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวสวยลูบไล้กดคลึงยังรอยแยกของกลีบเกสรที่เริ่มฉ่ำวาว
ร่างสาวแอ่นโค้งขึ้น
"เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เราเคยเรียนประถมและมอต้นด้วยกัน ก่อนที่ฉันจะไปเรียนที่อังกฤษ อื้อ...ภู!!"
ช่อลดา จิกนิ้วกับต้นแขนของเขา เธอเกร็งไปทั้งตัว เมื่อนิ้วเรียวแข็งคลึงเคล้นหนักหน่วงขึ้น
"บอสก็รู้นี่นา ว่าผมไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนมาใกล้ชิดคุณแบบนั้น!"
นิ้วโป้งของเลขาหนุ่มกดคลึงและสอดนิ้วกลางเข้าไปจนสุดโคนนิ้ว
"อร้าย!! ภู!"
เธอครางเสียงหวาน โพรงนุ่มขมิบตอดรัดนิ้วเขาในทันที
ภูริช คำรามต่ำในลำคอ
"คุณตอดผมดีขนาดนี้ จะไม่ให้ผมหลงได้ยังไงครับบอส แค่นิ้วยังดีขนาดนี้" เขาคว้านนิ้วแล้วหงายมือขึ้น กดย้ำภายในโพรงนุ่ม ขณะโน้มหน้ากดจูบเนื้ออ่อนบริเวณข้างลำคอ ไล้ดูดเลียฉกลิ้นเข้าไปในใบหูของเธอ
ขนอ่อนในกายของช่อลดาเริ่มลุกชูชัน
"ภะ ภู!! อย่าแกล้ง!"
ช่อลดารู้สึกเหมือนจะขาดใจ
เธอรู้ดีว่าเลขาหนุ่มรูปหล่อคนนี้ร้ายกาจนัก
เขาสามารถทำให้เธอลุ่มหลงไปกับสัมผัสของเขา โดยไม่อาจจะต้านทานได้ และเธอก็หลงมัวเมาอยู่กับรสพิศวาสนั้นมาตลอด เหมือนกำลังเสพติดอะไรบางอย่าง
"แกล้งอะไรกันครับบอส! คุณอยากได้อะไร? อยากให้ผมทำอะไรก็บอกมาสิครับ!"
เขากดมือแช่ไว้อย่างนั้น ไม่ยอมขยับเขยื้อน คล้ายกำลังทรมานเธอ
และช่อลดาก็เกลียดนัก ที่เขารู้ใจเธอไปเกือบทุกอย่าง
"ไม่ได้อยากได้อะไร!"
เธอยังคงปากแข็งและพยศเขา "ยังไงฉันก็เป็นเจ้านายใจร้ายของเธอ จะไปสู้เด็กสาวแสนจะใจดีน้องฝ่ายบัญชีคนนั้นได้ยังไง"
มุมปากของ ภูริช ยกโค้งขึ้น
ก่อนจะหัวเราะออกมา
"หึงผมมากขนาดนั้นเชียว"
"ก็บอกแล้วไง! ว่าไม่ได้หึง!"
น้ำเสียงเธอสูงขึ้น
ภูริชยิ่งรู้สึกเอ็นดูกับท่าทางของเธอ มืออีกข้างจึงดึงมือของเธอมาทาบทับกึ่งกลางกายตัวเองที่เริ่มแข็งขึงจนแทบจะทะลุออกมานอกเป้ากางเกงสแล็คเนื้อดี
"ขนาดนี้ยังบอกไม่ได้หึงอีก"
"ปล่อย!"
เธอเสียงสูงขึ้น ด้วยต้องการอยากเอาชนะ
"เห็นไหมว่ามันแข็งแค่ไหน? อยู่ใกล้บอสทีไรผมก็แข็งทุกที"
"ฮึ!!"
เธอเชิดหน้าเสียงสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่ยอมชักมือกลับคว้าแน่นติดมือ ภูริชอมยิ้มออกมาจนเห็นแก้มบุ๋มเด่นชัด
"ผมเป็นของบอส ตรงนี้ก็เป็นของบอส ..ผมไม่สนใจใครหรอกครับ"
คำพูดของเลขาหนุ่มรูปหล่อที่อายุน้อยกว่าเธอถึงห้าปี ทำให้ใบหน้าของช่อลดาแดงก่ำขึ้น
เติบโตมาจนอายุปูนนี้
มีผู้ชายไม่กี่คน ที่ทำให้เธอรู้สึกใจสั่นจนควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้
"ให้มันจริงเถอะ! ไม่ใช่เขาถ่ายรูปแก้ผ้าส่งมาให้แบบนั้น แล้วจะตามไปหาเขาที่ห้องล่ะ"
เธอค้อนเขา เพราะลึกๆ แล้ว ก็แอบหวั่นไหวไม่ได้
ภูริช ยิ้มจนใบหน้าหล่อเหลาพราวระยับสว่างเจิดจ้า
ความจริงเขาชอบมาก เวลาที่เห็นเธอหึงหวงเขาจนแทบจะขาดสติแบบนี้
มันแสดงถึงว่าเขามีความสำคัญกับเธอพอสมควร
ความจริงแล้วเขาจงใจให้เธอเห็นแซทของน้องก้อยฝ่ายบัญชีที่ส่งมาเอง ด้วยการวางสมาร์ทโฟนไว้บนโต๊ะตอนที่กำลังคุยงานกับเธอ
และได้ผล
เธอหึงเขาจนหน้ามืดตามัว
"จริงสิครับ! ผมไม่ใช่คนหื่นที่เอาใครไม่เลือกขนาดนั้นนะ ผมแข็งง่ายแบบนี้เฉพาะกับคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ!"
"ฉันไม่ได้เป็นที่รองรับอารมณ์ของเธอนะภู!"
"ผมก็ไม่ได้ว่าบอสเป็นนี่นา! เพราะความจริงเป็นผมเองต่างหากที่รองรับอารมณ์ของบอสแทบทุกอย่าง"
เขาเลียติ่งหูของเธอ ขณะที่ปลดหัวเข็มขัดของตัวเองออกและรูดซิบลง แล้วจับมือเธอให้ล้วงเข้าไปโอบกุมท่อนเอ็นอวบใหญ่ที่แข็งขึงยิ่งกว่าเดิม
"บ้า!! เธอกล่าวหาฉัน"
"กล่าวหาอะไรครับบอส!"
มืออีกข้างเริ่มขยับนิ้วเข้าออกในโพรงนุ่มอีกครั้ง "แฉะขนาดนี้! บอสเองนั่นแหละต้องการผมมาก บอกมาสิครับว่าจะให้ผมทำอะไรต่อ"
“อื้อออ”
เขารู้จุดอ่อนของเธอเสมอ
และช่อลดาก็เกลียดนัก เมื่อร่างกายของเธอตอบสนองและแสดงออกถึงความต้องการในรสสัมผัสของเขาอย่างชัดแจ้ง
สุดท้ายเธอก็ต้องบอกเขาเสียงหวาน
"ภู ..พาฉันกลับเพนท์เฮ้าส์เดี๋ยวนี้ ด่วนเลย!"
****************