บ้านทรงไทยหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมคลองย่านเมืองนนท์มีบริเวณกว้างขวางกว่ายี่สิบไร่มีผลไม้ทุกฤดูกาลวางขายริมคลองและมีนายสนั่นกับนางชวนชมสองตายายอาศัยอยู่และปกติจะมีตายายและหลานสาวหลานชายอาศัยอยู่ด้วยหลังเรียนจบก็เข้าไปช่วยงานที่โรงแรมหรูหกดาวที่นายสนั่นลงทุนร่วมหุ้นกับเพื่อนรักมานานกว่าสามสิบปีจนติดอันดับหนึ่งในสิบโรงแรมหรูในเมืองไทยที่มีกว่ายี่สิบแห่งทั่วประเทศที่ขยายเพิ่มตอนลูกเขยและลูกสาวมาสานต่อแล้วทั้งสองเลิกกันตอนหลานสาวหลานชายอายุแปดขวบกับหกขวบและลูกสาวของนายสนั่นเสียชีวิตในอีกสองปีถัดมาและนายสนั่นกับภรรยาก็ไว้ใจให้ลูกเขยช่วยดูแลบริหารต่อพร้อมกับลูกชายของเพื่อน และยังมีโรงแรมรีสอร์ทระดับกลางอีกหลายแห่งทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดหรูกลางเมืองกับน้องชายและเสาร์อาทิตย์หลานสาวก็จะมานอนด้วย แต่จากหลังหลานสาวแต่งงานก็ย้ายไปอยู่บ้านใหม่กับสามีก็มาทานอาหารกับตายายทุกวันเสาร์ยกเว้นมีธุระจึงไม่ได้มา ส่วนลูกสาวของนายสนั่นกับนางชวนชมเสียชีวิตเพราะโรคร้ายหลังจากเลิกกับสามีได้สองปี
“ใครมาอีกล่ะนั่นตา” ยายชวนชมได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้านก็ถามสามีที่นั่งตรงชานเรือนถึงเธอกับสามีจะเป็นชาวสวนแต่มีฐานะร่ำรวยหรือรียกว่าผ้าขี้ริ้วห่อทองแค่ที่ดินยี่สิบไร่ทำเลทองก็หลักร้อยล้านและที่ขายไปกว่าร้อยไร่ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่และหมู่บ้านจัดสรรคอนโดก็หลายร้อยล้านและบ้านสวนของพวกเขาถูกล้อมด้วยความเจริญทั้งห้างสรรพสินค้าและหมู่บ้านเศรษฐี
“ยังไม่ลงจากรถแท็กซี่เลย อ้อ ยัยพั้นซ์มาน่ะยาย” ตาสนั่นตอบภรรยาเมื่อเห็นหลานสาวลงจากรถแท็กซี่เพราะปกติจะมีคนขับรถมาส่งหรือไม่ก็หลานเขยมาส่งหรือขับรถมาเอง
“จริงเหรอตาแต่นี่มันวันพุธนี่นา ทำไมยัยพั้นซ์ถึงมาได้ล่ะ” ยายชวนชมถามสามีด้วยความแปลกใจปกติหลานสาวจะมาหาอาทิตย์ละครั้งเพราะต้องทำงาน
“หลานมาแล้วก็ถามเอาเองสิยาย” ตาสนั่นพูดกับภรรยาเพราะนั่งอยู่ด้วยกันจะรู้ได้ยังไงพอเห็นท่าทางของหลานสาวก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“สวัสดีค่ะตายาย” วธูเดินขึ้นมาบนเรือยกมือไหว้ตายายแล้วนั่งลงข้างยาย
“พั้นซ์มาได้ยังไงลูก ทำไมนั่งแท็กซี่มาล่ะแล้วพ่อเทมส์ไม่มาด้วยเหรอลูก” ยายชวนชมถามหลานสาวที่มีสีหน้าไม่สู้ดีจึงลูบศีรษะเบาๆด้วยความรักใคร่
“ยายจะให้พั้นซ์ตอบคำถามไหนก่อนดีคะ” เสียงหวานแหบพร่าถามยายแล้วยิ้มให้ท่าน
“ก็แล้วแต่พั้นซ์จะตอบยายสิลูก เสียงแหบแบบนี้ไม่สบายหรือเปล่าลูก” ยายชวนชมยกมือขึ้นอังหน้าผากของหลานสาว "ตัวร้อนด้วยนี่ลูก"
“พันซ์รู้สึกไม่สบายก็เลยหยุดงานไปหาหมอแล้วเลยมาหาตายายนี่แหละค่ะ” เมื่อวานเธอไปตรวจงานโรงแรมที่กระบี่พร้อมกับกาญธิดาเพื่อนสนิทและเป็นน้องสาวของสามีและเธอปวดหัวตั้งแต่เมื่อคืนจึงกินยาแล้วนอนแล้วเช้ามาไม่ดีขึ้นจึงไปหาหมอและหมอบอกว่าเธอเป็นไมเกรนเพราะพักผ่านไม่เพียงพอจึงให้ยามากินแล้วเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมกับกาญธิดาแล้วแยกมาพักผ่อนที่บ้านสวนเพราะที่นี่ทำให้เธอเป็นตัวของตัวเองมีอิสระ แม้ว่าเธอกับกฤติธีจะไม่ได้รักกันแต่พวกเธอก็เต็มใจแต่งงานกับเขาเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองและไม่ให้ทรัพย์สินของตระกูลตกไปเป็นของคนนอกตามที่ปู่ย่าและตายายของเขากับเธอได้สัญญากันไว้ตอนร่วมหุ้นทำธุรกิจด้วยกันจนตอนนี้มีทั้งโรงแรมรีสอร์ทและคอนโดทั้งขายและเช่าในเมืองท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยและยังขยายไปต่างประเทศและทำเงินให้มหาศาลและยังมีอสัหาริมทรัพย์อีกมากมายและปู่ย่าตายายของเขากับเธอได้ทำสัญญากันไว้จึงตกมาที่รุ่นเธอกับสามี
“งั้นก็พักผ่อนนะลูก ว่าแต่พันซ์ทานข้าวเช้ามาหรือยังลูก ดูสิมัวทำแต่งานพั้นซ์ทำงานหลานยายผอมลงไปเยอะเลยเดี๋ยวยายให้นอมมันทำอาหารให้นะลูก” ยายชวนชมพูดกับหลานสาวอย่างอ่อนโยนเพราะวธูกับอนินทร์เป็นตัวแทนของลูกสาวท่านที่จากไปก่อนะทันเห็นความสำเร็จของลูก
“ไม่เป็นไรค่ะยาย พั้นซ์ยังไม่หิว เอาไว้ทานมื้อเที่ยงทีเดียวเลยละกันค่ะ พั้นซ์ขอไปนอนพักก่อนนะคะ” วธูไม่ได้ตอบยายว่าทำไมสามีไม่มาด้วยก็เพราะเขาไปต่างประเทศเป็นอาทิตย์และกลับบมาตอนเธอไปตรวจงานพอดีจึงไม่ได้เจอกันและรู้ว่าเขาแวะหาแฟนสาวของเขาที่อังกฤษเพราะแฟนของเขาส่งรูปมาให้ดูและเหตุนี้ทำให้เธอนอนไม่หลับเพราะถูกแฟนขอเขาก่อกวนแต่ไม่คิดจะบอกเขาและถ้าเธอหมดความอดทนเมื่อไหร่จะจัดการเอง
“งั้นตาเข้าสวนไปดูผลไม้มาให้หลานดีกว่านะ” ตาสนั่นบอกหลานสาวก่อนจะลงจากเรือนเพื่อเข้าไปดูผลไม้ในสวนมาให้หลานสาว หากมีเรื่องอะรไเดี๋ยววธูก็คุยให้เขาฟังเอง แม้เขาจะปล่อยมือจากธุรกิจอยู่แต่ในไร่ในสวนแต่เขาก็ติดตามข่าวสารเศรฐกิจอยู่ตลอดเวลาและเขายังเป็นที่ปรึกษาให้ลูกเขยและหลานสาวหลานชาย
วธูก็เข้าห้องนอนส่วนตัวของเธอเพื่อพักผ่อนและเธอได้บอกเพื่อนและพ่อแม่ของสามีไว้แล้วว่าจะค้างบ้านสวนแล้วพรุ่งนี้จะไปทำงาน แต่พ่อแม่ของสามีบอกให้เธอหยุดพักผ่อนให้หายดีก่อนแล้วค่อยมาทำงานเพราะเป็นห่วงลูกสะใภ้ที่เห็นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกจึงรักและเอ็นดูวธูดุจลูกในไส้ของตัวเอง
ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าภรรยาไม่สบายก็ทำงานของเขาที่ยุ่งทั้งวันเพราะช่วงนี้ใกล้เทศกาลวาเลนไทน์ทางโรงแรมจึงจัดโปรโมชั่นสำหรับคู่รักที่มาดินเนอร์และพักที่โรงแรมทุกสาขาเครือโรงแรมมันตราคีรี แกรนด์ ไฮเอนด์ กรุงเทพที่มีกว่ายี่สิบแห่งในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทยตามเกาะใหญ่อย่างภูเก็ต สมุย พะงันและยังมีโรงแรมรีสอร์ทแอนด์สปาอีกหลายแห่งนับไม่ถ้วนและยังมีขยายไปต่างประเททั้งแถบเอเชียและยุโรปและกฤติธีเป็นหลานชายคนโตจึงรับตำแหน่งประธานบริษัทถึงจะเป็นการสืบทอดแต่เขาก็ได้ตำแหน่งมาด้วยความสามารถ ส่วนน้องสาวและญาติพี่น้องก็เป็นกรรมการบริหารและภรรยาของเขาก็เป็นรองประธานบริหารซึ่งแบ่งหน้าที่ตามความสามารถแม้จะมีปัญหาภายในเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างมันก็ไม่ได้รุนแรง
“พี่เทมส์อยู่หรือเปล่าคะคุณบู้” กาญธิดาหรือ แทมมี่ วัยยี่สิบแปดปีสวยเซ็กซี่เปรี้ยวจนเข็ดฟันถามเลขาหน้าห้องของพี่ชายเพราะเธอเพิ่งกลับมาจากไปตรวจงานที่กระบี่กับพี่สะใภ้เพราะมีปัญหาเรื่องอาหารและฝ่ายจัดซื้อวัสถุดิบทุจริตรายการอาหารสดที่ลดคุณภาพไม่ได้มาตรฐานสมกับราคาอาหารที่แพงทำให้ลูกค้าร้องเรียนจึงต้องไปจัดการพร้อมกับพี่สะใภ้วัยเดียวกันและยังเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กและกลับมาถึงกรุงเทพเมื่อตอนสายของวันนี้และไล่เพื่อนรักไปพักผ่อน
“อยู่ครับ แต่จะมีประชุมเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาครับ” บุพกรเลขาคนสนิทที่คอยดูแลจัดการเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวของเจ้านายมาตั้งแต่กฤติธีเข้ามารับตำแหน่งประธานบริษัทตอบน้องสาวของเจ้านาย
“ผลั้วะ..”
“แทมมี่เข้าห้องทำงานพี่ทำไมไม่เคาะประตู” กฤติธีหรือเทมส์ หนุ่มหล่อวัยสามสิบสองปีเขาเพียบพร้อมด้วยรูปร่างหน้าตาการศึกษาและชาติตระกูลมีฐานะร่ำรวยและยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่สามารถพาธุรกิจเติบโตได้ภายในไม่ถึงห้าปี พอเสียงประตูเปิดก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ็ดน้องสาวที่เปิดประตูเข้ามาขณะที่เขากำลังทำงานเพลินๆ
“ขวัญอ่อนจริงนะพี่เทมส์ แล้วมาทำงานอยู่นี่รู้หรือเปล่าว่าพั้นซ์มันไม่สบาย” กาญธิดามาถึงก็ใส่พี่ชายที่นั่งทำงานหน้าตาเฉยทั้งที่เมียไม่สบาย
“แล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าพั้นซ์ไม่สบาย ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แล้วนะ” ชายหนุ่มนิ่วหน้าแล้วคิดถึงคนตัวเล็กที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นอาทิตย์และมันก็เป็นเรื่องปกติของเขากับเธอหากไม่มีธุระร่วมกันก็ไม่ค่อยได้เจอวธูและเขาเองเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อวานและเพิ่งจะรู้ว่าภรรยากับน้องสาวไปตรวจงานที่กระบี่
“ก็ปวดหัวตั้งแต่เมื่อคืน และเมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่องแทมมี่ก็พาไปหาหมอมาแล้วแต่ยัยพั้นซ์มันดื้อพอลงจากเครื่องก็จะมาทำงาน แทมมี่ก็เลยไล่กลับบ้านไปหาคุณตาคุณยายที่บ้านสวนโน่นค่ะถึงยอมไป” กาญธิดาบอกพี่ชายและรู้สถานการณ์ของพี่สะใภ้กับพี่ชายดี
“เดี๋ยวพี่จะโทรถามคุณยายละกัน” พอน้องสาวพูดเขาก็อดเป็นห่วงภรรยาสาวไม่ได้
“งั้นก็โทรเลยสิ”
“เออๆ สั่งจริงๆน้องหรือแม่วะเนี่ย” ชายหนุ่มว่าน้องสาวหากเป็นเรื่องของวธูละก็น้องสาวของเขาจะออกหน้าให้ตลอดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาภรรยาสาว
“ตู้ดดๆๆ..” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนมันตัดไปแล้วชายหนุ่มก็โทรอีกครั้งก็เป็นเหมือนเดิมจึงโทรหาคุณตา
“ฮัลโหล”
“ผมเองครับคุณตา”
“ผมน่ะใคร ไม่บอกชื่อแล้วฉันจะรู้ได้ยังไง” นายสนั่นรู้อยู่แล้วแต่เขาไม่พอใจหลานเขยที่ทำอะไรไม่คิดทั้งที่แต่งงานแล้วก็ยังติดต่อแฟนเก่าอีก แม้เขาจะผิดที่ทำเรื่องยุ่งให้ลูกหลานลำบากใจก็เพราะอยากใหมีความสุขเพราะเขาเห็นหลานชายเพื่อนมาตั้งแต่เด็กและทั้งสองก็รักใครกันดีเขาก็คิดว่าจะไปกันได้ดีแต่เขาคิดผิดและกฤติธีเต็มใจแต่งงานกับหลานสาวของเขาและยังไม่เลิกกับแฟนนี่แหละที่เขาไม่พอใจ
“ผมเทมส์ครับคุณตา” เขารู้ว่าคุณตาสนั่นรู้ว่าเป็นเขาและท่านพูดรวนเขา
“อ้อ เทมส์เองเหรอ มีอะไรล่ะ”
“พั้นซ์อยู่บ้านสวนใช่มั้ยครับ”
“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี่เอง” เขาไม่บอกว่าหลานสาวไม่สบายอยากรู้นักว่าหลานเขยจะใส่ใจมั้ย
“ผมเพิ่งรู้จากแทมมี่ว่าพั้นซ์ไม่สบายแล้วน้องเป็นยังไงบ้างครับ”
“ยายเขาดูอยู่น่ะ” ตาสนั่นตอบอย่างไม่เคลียร์แต่น้ำเสียงของกฤติธีเป็นห่วงหลานสาวของเขาอาจเป็นเพราะความผูกพันของทั้งสองมากกว่า
“ผมขอคุยกับพั้นซ์หน่อยได้มั้ยครับ”
“ตาอยู่ในสวน แล้วทำไมไม่โทรหายัยพั้นซ์เองล่ะ”
“โทรศัพท์ของพั้นซ์น่าจะแบตหมดครับ”
“งั้นก็โทรเข้าบ้านละกัน แค่นี้นะพอดีตากำลังคุยกับพ่อค้าเขารอนานแล้ว” ตาสนั่นพูดจบก็วางสายทันทีเพราะเห็นกฤติธีมาตั้งแต่เด็กจะโกรธจะเกลียดใจมันก็ทำไม่ลง
“คุณตาครับ..” ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วมองน้องสาว
“คุณตาหนั่นว่าไงคะพี่เทมส์”
“ก็ไม่ได้ว่าไง ท่านอยู่ในสวนน่ะ เดี๋ยวพี่จะไปดูพั้นซ์หน่อยนะ” ชายหนุ่มตัดสินใจไปดูภรรยาที่บ้านสวนไม่งั้นทัวร์ลงที่เขาแน่นอนและลงไปแล้วหนึ่งทัวร์จากคุณตาสนั่น
“งั้นรีบไปเลยค่ะ” กาญธิดาสนับสนุนพี่ชาย
“คุณบู้เลื่อนการประชุมไปบ่ายสามโมงพรุ่งนี้นะ พอดีพั้นซ์ไม่สบายผมจะพาไปหาหมอก่อน”
“ครับคุณเทมส์”
“พี่ครเตรียมรถไปบ้านสวนด้วยครับ” กฤติธีโทรบอกคนขับรถแล้วเดินไปที่ลิฟต์ลงไปที่จอดรถ
“เฮ้อ..” กาญธิดามองตามหลังพี่ชายแล้วถอนหายใจ
“เป็นอะไรครับคุณแทมมี่” บุพกรถามเจ้านายสาวยิ้มๆ
“ก็หมั่นไส้เจ้านายคุณบู้น่ะสิคะ เมียไม่สบายยังไม่รู้เลยอยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ..”
“เรื่องของเจ้านายและเรื่องผัวๆเมียๆผมไม่มีความเห็นครับ” เขาไม่มีความเห็นเรื่องผัวๆเมียๆของเจ้านาย
“แล้วเรื่องแม่นั่นละคะคุณบู้ ตอนนี้พี่เทมส์ยังโอนเงินให้อยู่หรือเปล่าคะ”
“เอ่อ.."บุพกรอ้ำอึ้งเพราะเป็นเรื่องของเจ้านายเขาจะเอาไปพูดพล่อยๆไม่ได้แต่น้องสาวของเจ้านายน่ะเจ้าเล่หและมักจะเอาปู่มาอ้างและเขาก็กลัวท่านด้วยสิ
"หรือจะให้คุณปู่มาถามเองคะ”
“โอนครับ แต่ลดไปกว่าครึ่งครับ”