ตอนห้าขวบอุบัติเหตุจากทางรถยนต์ทำให้ยาหยีต้องเสียผู้เป็นบิดาและมารดาไปตลอดกาล ใครเลยจะคิดว่าสิบสามปีต่อมาเธอจะต้องสูญเสียพี่ชายเพียงคนเดียวไปเพราะโรคหัวใจอีกครั้ง
แท้จริงแล้วทุกอย่างเกิดจากโชคชะตาหรือเป็นเพราะว่าเธอเป็นตัวซวยกันแน่ ยาหยีเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
สุดท้ายแล้วชีวิตของเธอตอนนี้เหลือเพียงตัวคนเดียว ธุรกิจถูกขายต่อไปยังบุคคลที่ผู้เป็นพี่ชายไว้ใจ นั่นก็คือผู้ปกครองของยาหยีคนล่าสุด
"เก็บของเถอะค่ะคุณหนู เดี๋ยวคุณอคินจะให้คนมารับ"
ยาหยีส่งสายตากวาดมองไปรอบๆบ้านหลังใหญ่อีกเป็นครั้งสุดท้าย บ้านที่เธอใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่กับมันมาจนอายุครบสิบแปดปี เป็นปีที่สิบแปดที่ไม่เหลือใครอยู่เคียงข้างเธออีกแล้ว...เหตุใดหนอโชคชะตาถึงยังปล่อยเธอเอาไว้
รู้หรือไม่คนอยู่เจ็บปวดรวดร้าวกว่าคนตายมากมายนัก แต่..ถึงจะเจ็บปวดแค่ไหน ยาหยีก็จะไม่หลั่งน้ำตาออกมาให้ใครเห็น
เธอต้องเข้มแข็ง..จะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแม้ว่าจะมีญาติของเธอบางคนนินทาว่าร้ายว่าดวงของเธอเป็นกาลกิณีอยู่ใกล้ใครก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นตายจากไปหมด
ยาหยีไม่สนใจ..เธอไม่เชื่อว่าเธอคือคนที่เกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายขนาดนั้น ยาหยียังเชื่อในหลักวิทยาศาสตร์ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
"พี่อคินไม่ได้มาเองเหรอคะ?"
"คุณอคินไปเมืองนอกค่ะคุณหนู แต่ท่านฝากฝังคุณหนูไว้กับคนที่บ้านท่านแล้ว"
ยาหยีพยักหน้ารับทราบ คุณอคินคือเพื่อนสนิทของพี่ชายยาหยีคนที่พี่ภูริชไว้ใจมากที่สุดแล้วที่จะให้เข้ามาดูแลยาหยีต่อ คำลาของพี่ภูริชยังดังก้องอยู่ในหู
'อคินเป็นคนดี ไม่มีพี่แล้วยาหยีจะได้คนที่เหมาะสมที่สุดคอยอยู่ดูแลยาหยีแทนพี่ ดังนั้นยาหยีต้องทำตัวน่ารัก ไม่ดื้อกับพี่อคินนะรู้มั้ย'
คำสั่งเสียที่ออกมาจากหน้าตาอันซีดเซียวของภูริชเป็นสิ่งที่ยาหยีไม่สามารถจะปฎิเสธได้ ด้วยวัยที่ห่างกันหลายปีทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยยาหยีเลยไม่ค่อยสนิทกับพี่ชายอย่างพี่น้องบ้านอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะดื้อดึงและต่อต้าน แต่เล็กจนโตยาหยีทำตามคำสั่งของพี่ภูริชอย่างเคร่งครัดเป็นอย่างดีเสมอมา
อคิน ปัญญาสกุล อายุสามสิบห้าปี เขาเป็นหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ทำธุรกิจหลายอย่างครอบคลุมไปทุกภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง โรงแรมและโรงงานผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก อีกมากมายหลายอย่าง..ถูกต้อง!รวมทั้งธุรกิจของบ้านยาหยีที่ถูกอคินควบรวมเข้าไปกับปัญญาสกุลด้วย ยาหยีไม่ได้ขัดข้องเรื่องนี้เพราะปัญญาของเธอตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้
พี่อคินคือชื่อที่ยาหยีใช้เรียกเขาเวลาพบเจอกัน เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง หล่อสะดุดตาไม่มากแต่มีเสน่ห์ดึงดูดเหลือร้าย ยิ่งเข้าใกล้จะเผลอหลงรักเข้าให้อย่างไม่รู้ตัว ข่าวว่าเขาเป็นคนดุและดูเคร่งขรึมจริงจังตลอดเวลา..ที่สำคัญพี่ภูริชเคยบอกว่าเขายังไม่แต่งงาน
"รถมาแล้วค่ะคุณหนู"
กระเป๋าต่างๆถูกขนไปใส่ไว้ท้ายรถโดยคนขับรถ บ้านหลังนี้ยังคงมีคนดูแลเหมือนเดิมแม้ว่าจะเปลี่ยนมือเป็นของปัญญาสกุลไปแล้วก็ตามสักวันยาหยีจะเอ่ยปากขอให้พี่คินขายบ้านหลังนี้กลับคืนให้เธอ
"ถ้าหนูว่าง หนูจะเข้ามาเยี่ยมนะคะป้าวรรณ"
ร่ำลาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ภูริชพี่ชายเธอสอนไว้ว่า อ่อนแอสักแค่ไหนก็ต้องไม่แสดงความรู้สึกออกมาต่อหน้าคนอื่นมากเกินไป อย่าแสดงจุดอ่อนให้คนอื่นรู้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
เพราะในชีวิตจริงเราไม่สามารถรู้ได้ในทันทีว่าคนไหนเป็นศัตรูคนไหนเป็นมิตรที่แท้จริง
"คุณอคินบอกว่า คุณหนูสามารถกลับมาเยี่ยมที่นี่ได้ตลอด รักษาเนื้อรักษาตัวนะคะคุณหนู"
"ค่ะป้า ไม่ต้องเป็นห่วงหนู"
ความเศร้าจากการพลัดพรากทำให้ยาหยีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ควรชินชา ทว่า...ไม่เลย เจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเอ่ยปากร่ำลาใครสักคน
ยาหยีขึ้นมานั่งบนรถตู้คันหรู รถเคลื่อนไปที่สนามบินเพื่อมุ่งหน้าลงใต้สู่จังหวัดภูเก็ตบ้านเกิดของพี่อคิน
เกาะภูเก็ตเมืองไข่มุกแห่งอันดามันที่ใครๆก็อยากไปเยือนไม่เว้นแม้แต่ยาหยีเองก็ตาม