เลิกเรียนยาหยีเดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนเพื่อไปรอขึ้นรถหน้ามหาวิทยาลัยอย่างเช่นทุกวัน ความจริงเธอไม่อยากให้ใครเห็นว่ามีรถหรูมารับเธอต่างหากเพราะไม่อยากเป็นอย่างข่าวลือว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง
ทว่า..ยิ่งเลี่ยงก็เหมือนยิ่งเจอ ยาหยีได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษาพวกนั้นอยู่พร้อมเพรียงกันหน้ามหา'ลัย..ราวกับตั้งใจมาจับผิด ยาหยีไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าข่าวลือที่ว่ามาจากไหนและใครต้องการปลุกปั่นข่าวนี้เพื่อใส่ร้ายเธอ
และถ้าเป็นอย่างนั้นทำทำไม ทำเพื่ออะไร หรือเป็นเพียงเพราะหน้าตาผิวพรรณของเธอแตกต่างจากคนอื่นๆที่นี่ ยาหยีรู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้แค่อดทนๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจะเป็นบ้าตายวันล่ะหลายๆรอบ
"รอแดดดี้มารับเหรอจ้ะ?"
สาวผมลอนหนึ่งในแกงค์นักศึกษากลุ่มเดิมเปิดก่อนเป็นคนแรก
"จะรอใครมันก็เรื่องของฉัน"
ยาหยีโต้กลับเธอเริ่มจะหมดความอดทนกับคำพูดจา สีหน้าและน้ำเสียงที่ดูถูกดูแคลนของคนพวกนี้มากขึ้น ยิ่งอดทนมากเท่าไหร่เหมือนว่าคนพวกนี้จะยิ่งได้ใจ พวกมีปม ขี้อิจฉาคนอื่นไปวันๆ
"อีหนึ่งมันว่ามึงเสือก!"
คนตัวอ้วนที่สุดในกลุ่มโพล่งขึ้นเหมือนเป็นการยุยงปลุกปั่นอีกคน
"ว้าย!อีนี่"
ยกฝ่ามือขึ้นทำท่าจะตบยาหยี ยาหยีเตรียมตั้งรับตอนนี้ความอดทนของเธอขาดผึงลงแล้วเป็นไงเป็นกันล่ะวะ
"หยุดนะ!"
อคินเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพอดี ยาหยีรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที อย่างน้อยอคินก็มาช่วยเธอไว้ได้ทันเวลาพอดี
"เป็นถึงนักศึกษาแต่ทำตัวต่ำเหมือนกับคนไม่มีการศึกษา"
อคินใช้สายตาเข้มๆมองตำหนิทีล่ะคน ไม่เว้นแม้แต่ยาหยี ทุกคนรีบก้มหน้างุดราวกับรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
"รถจอดอยู่ทางโน้น ไปขึ้นรถได้แล้ว"
อคินออกคำสั่งพร้อมกับชี้ไปทางรถตู้คันหรูสีดำที่จอดเลียบฟุตบาทอยู่ไม่ไกลมาก นักศึกษาเหล่านั้นพากันทำหน้าตาเลิ่กลั่กเมื่อรู้ว่าคนที่ยาหยีมารอคืออคินหาใช่ตาแก่หงำเหงือกอย่างที่เข้าใจกันไม่
"แต่หนูไม่ได้เริ่มก่อนนะคะพี่คิน"
ยาหยีแย้ง
"ถ้าเธออดทนมากพอมันจะไม่มีเหตุการณ์อย่างเมื่อครู่เกิดขึ้น ชอบมากนักเหรอทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียง"
ยาหยีสะอึกไม่คิดว่ากลายเป็นตัวเธอเองที่ผิด ทั้งๆที่เธอไม่ได้เริ่มก่อน
"ไปขึ้นรถ ไปสิ!"คราวนี้อคินตวาดเสียงดัง ยาหยีน้ำตาคลอก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถด้วยความรู้สึกเสียใจ เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงความรู้สึกอ่อนแอออกมา เพราะเสียใจที่โดนตำหนิทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิด
ลับหลังยาหยี
"อย่าให้รู้ว่าพวกเธอมารังแกน้องสาวของฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าคนอย่างฉันไม่เตือน"
อคินยกนิ้วชี้ขึ้นแกว่งไปมาคาดโทษทุกคน ไม่รู้หรอกว่าพวกนี้มาหาเรื่องยาหยีเพราะอะไร แต่คนของเขาคนอื่นไม่มีสิทธิ์มารังแก
"ขอโทษค่ะคุณคิน อย่าตัดทุนการศึกษาของหนูนะคะ "
สาวผมสั้นยกมือขึ้นไหว้คิดไม่ถึงว่าคนที่เป็นพี่ชายของยาหยีคือคุณอคินที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเธอ คราแรกเธอคิดว่าจะเป็นผู้ชายแก่ๆที่บังเอิญมีนามสกุลคล้ายกับอคินซะอีก
คิดได้ดังนั้นหน้าตาก็ซีดเผือดได้แต่ยิ้มแห้งๆให้อคินอย่างคนสำนักผิด หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ไม่น่าเลย
"ฉันตัดแน่หากพรุ่งนี้พวกเธอทั้งหมดไม่ไปขอโทษน้องสาวของฉันต่อหน้า"
"ได้ค่ะคุณคินได้ค่ะ พวกหนูจะไม่ทำตัวแบบนี้แล้วค่ะ ขอ..ขอโทษค่ะ"
ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกันอย่าเลิ่กลั่ก
'เพราะอีน้ำตาลแท้ๆที่มาเมาท์ว่ายาหยีคือเด็กเสี่ย ใครจะคิดว่าจะกลายเป็นน้องสาวคุณอคินไปได้'
จบเรื่องอคินก็เดินตามยาหยีมาขึ้นรถ แต่ดูเหมือนว่าจะถูกอีกคนเมินใส่ด้วยท่านั่งกอดอกหันหน้าออกนอกรถ สีหน้าบึ้งตึงจนปากกับจมูกแทบจะติดกัน อคินแอบขำกับท่าทางเหมือนเด็กสาวขี้งอนเมื่อหลายปีก่อนคนนั้นไม่มีผิด....รู้สึกอย่างไร อคินก็ทำได้เพียงเก็บเอาไว้ข้างใน..ตีสีหน้าเคร่งขรึมไม่ได้เอ่ยคำพูดจาใดๆออกมา
"ออกรถ"
อคินหันไปสั่งคนขับรถ ปกติแล้วเขาจะกลับรถอีกคัน ทว่า วันนี้ไม่มีงานด่วนที่ไหนอีกแล้วจึงตั้งใจจะมารับยาหยีกลับบ้านพร้อมกัน
และโชคดีที่วันนี้เขามารับยาหยีจึงได้รับรู้ถึงสภาพแวดล้อมสังคมในมหาวิทยาลัยว่าเป็นอย่างไร สงสารก็สงสารแต่ก็ไม่อาจพูดปลอบออกมาได้
ตอนนี้ยาหยีมีอายุแค่สิบแปดปี ต้องเรียนรู้ที่จะอดทน เขาไม่ใช่ภูริชที่เลี้ยงน้องสาวอย่างไข่ในหินเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นยาหยีจะไม่สามารถยืนอยู่บนโลกนี้ด้วยขาของตัวเองได้
หากวันนึงไม่มีเขาเป็นเกราะคุ้มกันให้ ยาหยีจะต้องยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ได้ด้วยตัวเองให้ได้
โลกใบนี้ไม่ได้สวยงามอย่างโลกในนิทาน ยาหยียังต้องพบเจอกับเรื่องราวต่างๆอีกมากมายและทุกเรื่องที่เผชิญหนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
"หนูไม่ได้ผิด..พี่คินไม่ควรต่อว่าหนูต่อหน้าคนพวกนั้น"
เมื่ออคินไม่พูดอะไร ยาหยีจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ต่อความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆ
อคินไม่ถามไถ่ด้วยซ้ำอยู่ๆก็มาดุและตวาดเธอต่อหน้าคนอื่น และพรุ่งนี้ไปเรียนพวกมันคงได้ใจทำกับเธอหนักกว่าเดิมงั้นเหรอ
ยาหยีไม่ยอม ไม่มีคนคอยปกป้องก็ช่าง ยาหยีปกป้องตัวเองก็ได้ คิดได้ดังนั้นปากบางอมชมพูระเรื่อก็เม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรงก่อนจะถอนลมหายใจออกมาเบาๆอย่างคนตัดสินใจ
"ทำไมต้องเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ"
อคินปรายตามองคนดื้อเล็กน้อย เด็กก็คือวันยังค่ำและคล้ายว่าเจ้าหล่อนจะไม่ยอมง่ายๆ
"พี่คินไม่รู้ว่าวันนี้ทั้งวันหนูโดนอะไรมาบ้าง"
น้ำตาซึมออกมาน้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือ อารมณ์น้อยใจ เสียใจ โกรธ ปะปนกันจนแทบจะแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร อคินสั่นหน้าปัญหาแค่นี้ยาหยียังผ่านมันไปไม่ได้แล้วในวันข้างหน้าปัญหาอีกร้อยพันจะผ่านมันไปได้ยังไง
"แล้วการที่ไปตอบโต้ต่อหน้าคนมากมายแบบนั้น ไม่คิดบ้างเหรอว่าจะถูกคนอื่นมองยังไง ไม่มีใครเขารู้รายละเอียดหรอกนะว่าใครผิดใครถูก พฤติกรรมแบบนั้น เผลอๆโดนเหมารวมว่าเป็นพวกเด็กใจแตกก้าวร้าว ไม่รู้ว่าจะโดนแอบถ่ายคลิปไว้บ้างมั้ย เลิกสนใจคนพวกนี้เถอะ วันหลังเจออีกก็เดินหนีไปซะก็สิ้นเรื่อง"
ยาหยีหันควับมามองผู้ปกครองหนุ่มอย่างรู้สึกน้อยใจหนักกว่าเดิม ผิดหวังกับคำพูดของเขาที่เหมือนจะแคร์คนอื่นมากกว่าความรู้สึกของเธอ
"พี่แม่งใจร้าย พี่ไม่เหมือนพี่ภูแม้แต่นิด ยาหยีจะรีบเรียนจบและไปให้พ้นๆจากที่นี่ ที่ที่มีแต่คนใจร้าย ใจดำ ยาหยีไม่อยากอยู่ที่นี่ ได้ยินมั้ยคะ ไม่อยากอยู่ที่นี่"
ยาหยีตะโกนใส่หน้าเขา พร้อมๆกับรถเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าตึกของตัวบ้านพอดี หญิงสาวรีบเปิดประตูวิ่งผลุนผลันออกไปทันที
"ยาหยี! หยุดนะ ยาหยี"
"แบบนั้นคงโกรธมากแล้วล่ะครับนาย"
นายผลคนขับรถคนสนิทของอคินเอ่ยขึ้น ทำเอาอคินต้องส่งสายตาเข้มๆใส่คล้ายจะเตือนว่า..อย่าสาระแน
"อุย ขอโทษครับ"
ก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวขาอาดๆตามเด็กเอาแต่ใจไป รู้สึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูก ภรรยาในอนาคตของเขาเป็นเด็กน้อยคนนี้จริงๆอย่างนั้นหรือ อคินได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าออกมา..รู้สึกหนักอกหนักใจขึ้นมาในทันที