ความเดิม- “เออ..โกหกใครก็โกหกได้หรอก แต่ใจมึงอ่ะ.. รู้ดีที่สุด ระวังนะเว้ย หมาจะคาบไปแดก ทำเป็นเล่นตัว” จิรายุเอ่ยอย่างนึกหมั่นไส้เพื่อนรัก เพราะเขาได้รู้ข้อมูลมาบ้างแล้วว่ารีเซฟชั่นคนใหม่เป็นลูกคุณหนูตระกูลร่ำรวยและพออกพอใจเพื่อนรักของเขาอยู่ ติดอยู่ที่ว่าเพื่อนรักของเขาตีกรอบความคิด คิดว่าตัวเองต้อยต่ำจนเกินไป
……………………………………….
"ทำงาน ๆ ว่ะ วันนี้มึงได้เช็คระบบบ้างหรือเปล่า แล้วได้บอกนายให้หาดู ๆ เด็กหน้าใหม่ที่จะมาเรียนรู้ระบบมั่งหรือยัง" นวนนท์แกล้งเฉไฉไปเป็นเรื่องอื่น
"ระบบเช็คแล้วเมื่อเช้า ส่วนเรื่องหาดาวดวงใหม่ยังไม่ได้คุย นายไม่ว่าง" จิรายุตอบตามตรง
‘เหรอ ช่วงนี้ดูนายยุ่ง ๆ จัง’ นวนนท์ได้พึมพำกับตัวเองแล้วมีสมาธิในการทำงานต่อ จนกระทั่ง
เวลา 17.15 น.
"นิว กลับกัน ได้เวลาเลิกงานแล้ว" จิรายุเอ่ยชวนเพื่อนรัก
"อืม ไปก่อนเลย ขอดูตรงนี้ต่ออีกสักหน่อยก่อน" นวนนท์บอกเพื่อนรักทั้งที่สายตายังจดจ่อที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่
"มีอะไรหรือเปล่าว๊ะ"
"ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก ไปเถอะ" นวนนท์หันไปสบตาเพื่อนรักเพียงครู่แล้วจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อไป
ล่วงเลยจนเวลา 22.30 น. นวนนท์ปิดคอมพิวเตอร์ ดูแลความเรียบร้อยของห้องแล้วเดินเตร็ดเตร่ออกไปอย่างสบายอารมณ์ เขาเดินมาตามทางเชื่อมระหว่างตึกมาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นส่วนทางเดินของพนักงานโดยเฉพาะอย่างไม่เร่งรีบ จนมาถึงแผนกต้อนรับส่วนหน้า
"อ้าวพี่นิว วันนี้เวรพี่เดินออดิทหรือคะ" เพ็ญสุดาเอ่ยทักน้องชายคนสนิทของคนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแม้จะมีความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าในแววตาอยู่บ้าง
"เปล่าหรอกนั่งดูอะไรเพลิน ๆ น่ะ" นวนนท์กล่าวยิ้ม ๆ
"แน่ะแอบดู (สาว ๆ) หรือเปล่า.." เพ็ญสุดาแกล้งหยอกคนพี่ แต่คำในวงเล็บไม่ออกเสียง เพียงทำปากเป็นคำพูดแค่นั้น
"เออ..ไม่ต้องมาสงสัยพี่หรอก ไปเฝ้าสงสัยเฮียเกมนู่น" นวนนท์พูดยิ้ม ๆ
"ยังไงคะพี่นิว พี่เกมเค้าส่องใครอยู่หรือคะ พี่นิวรู้ต้องบอกหนูเลยนะ" เพ็ญสุดาพูดจาพาซื่อ
"อือ..ก็เห็น ๆ ส่องอยู่คนนึงนะ" นวนนท์ยังแกล้งต่อได้อีกอย่างนึกสนุก
"ใครเหรอคะ"
"ก็ลองไปส่องกระจกดูซิ หึหึ" คนตัวโตพูดแล้วเดินผ่านเลยไป
ชายหนุ่มเดินมาเรื่อย ๆ ที่ลานจอดรถพนักงานแล้วมาหยุดรถยนต์หรูคันไม่เล็กไม่ใหญ่คันหนึ่ง
"อ้าวพี่นิว ยังไม่กลับล่ะ วันนี้ไม่ใช่เวรพี่เดินออดิทนิ่ ทำไมไม่กลับไปพักผ่อนคะ" ณรรรดาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
"ก็พักนานไปแล้ว พอได้ทำก็เพลินดี เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ก็เลยเดินมาเรื่อย ๆ มาหาคุยกับเค้าไปเรื่อยน่ะ" นวนนท์ตอบแบบไหลไปเรื่อย
"เหรอคะ งั้นใบตองกลับก่อนนะคะ วันนี้เมื่อยจริง ๆ แขกเยอะ ไม่ค่อยได้นั่งเลย" ณรรรดากล่าวยิ้ม ๆ แต่เมื่อมองลึกลงไปในดวงตาจะเห็นความเหนื่อยล้าอยู่ในนั้น
"เหรอ ให้พี่ช่วยขับรถให้เอามั๊ย ดูเราเหนื่อย ๆ นะ" ชายหนุ่มตัดสินใจเอ่ยอาสาเพราะเห็นความอ่อนล้าในตวงตาของหญิงสาว
"ไม่เอาอ่ะ หนูห่วงพี่นิวมากกว่า ให้พี่ไปส่งหนูแล้วขากลับหนูก็ห่วงว่าพี่จะขับรถกลับมาแล้ววูบหรือเปล่านะซี"
"ไม่หรอก พี่สบายดีแล้ว"
"หนูขับได้ มีลูกน้องของเตี่ยคอยตามห่าง ๆ ค่ะ อยู่ตรงนู้นค่ะ"
"เหรอ งั้นพี่ค่อยเบาใจหน่อย เดี๋ยวขอไปคุยกับพวกเค้าหน่อยนะ"
จากนั้นชายหนุ่มก็เดินไปเรื่อย ๆ ตามที่หญิงสาวบอกและมาหยุดที่ชายรูปร่างสันทัดวัยน่าจะใกล้เคียงกันกับเขา แล้วจึงเอ่ยขึ้น
"สวัสดีครับ ผมชื่อนิวครับ ผมรู้จักกับป๋าเข่งครับ พวกคุณมาคอยดูแลความปลอดภัยของลูกสาวป๋าเข่งอย่างนั้นหรือครับ"
"สวัสดีครับคุณนิว พวกผมได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้มาดูแลคุณหนูใบตองครับ"
"หึหึ ตลกดีนะ กิจการของที่บ้านก็ใหญ่โตแต่เลือกมาเป็นลูกจ้างเค้า กลับดึกดื่นก็ยอม คุณหนูของพวกคุณนี่ ผมละยอมใจจริง ๆ"
"คุณหนู ก็คือคุณหนูแหละครับ"
"งั้นผมไม่รบกวนการทำงานของพวกคุณแล้วครับ รีบตามคุณหนูของพวกคุณไปเถอะ เธอกำลังเดินไปที่รถของเธอแล้วครับ"
"ครับ คุณนิว ไปก่อนนะครับ"
อีกด้านของผู้บงการ
ใครคนหนึ่งที่กำลังคุยสายกับใครบางคน
เหรอ/……..ดี ตามต่อไปนะอย่าให้คลาดสายตาล่ะ คอยสังเกตคนที่มาเกาะแกะด้วยถ้าไม่ใช่คนนั้นก็จัดการได้เลย/………/อืม ขอบใจมาก สัญญาณถูกตัดไป
15 นาทีผ่านไป
@บ้านพลผลาดล
เสียงรถยนต์สมรรถนะดีจอดที่โรงรถและเสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบพื้นและตามด้วยเสียงเปิดประตูบ้าน
"อ้าวเตี่ย ยังไม่นอนอีกเหรอคะ ดึกแล้วนะเนี่ย"
"ก็ยังไม่ง่วงน่ะ เจอพี่นิวบ้างมั๊ย หายดีหรือยัง"
"เพิ่งเจอกันที่โรงจอดรถพนักงานตอนออกกะนี่เองค่ะ ไม่รู้ทำอะไรนักหนา ตัวเองทำงานเวลาออฟฟิศไทม์แท้ ๆ แต่เลิกงานเหมือนพวกเข้ากะ เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีกหรอก นึกแล้วก็โมโห ดื้อจริง ๆ เลยลูกน้องเตี่ยนี่" ณรรรดาเล่าไปบ่นไป
"คงห่วงน่ะแหละ เฮ๊อ..เข้ามาแล้วปิดบ้านด้วยนะ เตี่ยจะไปนอนก่อนล๊ะ ง่วงแล้วพอดี" เขมรัฐตัดบทแล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านอย่างไม่เหลียวหลัง
‘อ้าวยังพูดไม่จบเลยเตี่ย พี่นิวห่วงใคร ห่วงโรงแรมน่ะเหรอ จะห่วงอะไรนนักหนา กิจการตัวเองหรือก็เปล่า..แน่ะ..ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีพูดทิ้งท้ายไว้ให้สงสัยให้นอนไม่หลับเล่น ๆ นิสัยไม่ดีเลยเตี่ย..’ ลูกสาวเตี่ยได้แต่บ่นพึมพำอย่างคนที่รับข่าวสารอะไรไม่เคลียร์ได้แต่หงุดหงิดในใจ
ส่วนอีกคนที่ลูกสาวเข้าใจว่าขึ้นห้องนอนไปแล้วแท้จริงเขายังแอบฟังลูกสาวขี้บ่น บ่นถึงตัวเองอยู่อย่างนึกขำในความลูกสาวคนเดียวของบ้าน