ญาดาก้าวเข้าไปในห้องผู้บริหารกลิ่นน้ำหอมแบบเดียวกับเมื่อคืนตีขึ้นจาง ๆ
โต๊ะไม้โอ๊คตัวใหญ่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างกระจกสูง
เวหา กำลังยืนพิงขอบโต๊ะ ฝ่ามือไขว้หลัง สูทดำแนบเนื้อดูหรูและทรงอำนาจจนใจเธอเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้พูดอะไรในทันทีแค่หันมาช้า ๆ และมองเธอเต็มตา
ดวงตาคมนั่น…เหมือนกำลังอ่านความคิดเธอทะลุทะลวง
“เชิญนั่งครับ...คุณญาดา”
เสียงเขานุ่มลึกเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิดญาดาก้าวไปนั่งตามคำเชิญ
เธอยืดตัวตรง มือประสานบนหน้าตัก ใจเต้นแรงแต่พยายามไม่ให้สีหน้าเปลี่ยน
“มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ?”
เวหายังไม่ตอบทันทีแค่เปิดแฟ้มงานตรงหน้า กวาดตามองข้อมูลเล็กน้อย
ก่อนจะพูดเบา ๆ
“ผมแค่เรียกมาขอบคุณสำหรับงานเช้านี้ รายงานของคุณ...ละเอียดและมีประโยชน์มาก”
เขาพูดเหมือนหัวหน้าในที่ทำงานทั่วไปแต่สายตา...ยังจ้องเธออยู่ไม่วาง
ญาดายิ้มบาง ๆ “ขอบคุณค่ะ ดิฉันแค่ทำหน้าที่ค่ะ”
เขาเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนพูดเสียงเรียบ
“โบนัสพิเศษของเดือนนี้ ผมจัดการให้แล้ว”
เธอเลิกคิ้วน้อย ๆ อย่างตกใจ
“คะ?”
“อย่าแปลกใจ…ผมให้เพราะคุณสมควรได้”
“และเพราะเมื่อคืน…”
เวหาพูดช้าลง จนเธอหายใจสะดุดเล็กน้อย
เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะหันกลับไปมองแฟ้มงานในมือตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ญาดากลืนน้ำลายอย่างพยายามควบคุมตัวเองเธอลุกขึ้น ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างเป็นทางการ
“ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง”
เธอกำลังจะหมุนตัวกลับแต่เสียงเขากลับดังขึ้นอีกครั้ง
“แล้วเจอกัน...ดินเนอร์หน้า”
ญาดาชะงักก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่หันกลับไปมอง
แต่หัวใจของเธอ…...เต้นแรงยิ่งกว่าเดิมญาดากลับมานั่งที่โต๊ะอย่างเงียบเชียบ
เธอวางกระเป๋าลง ก่อนจะค่อย ๆ เปิดโน้ตบุ๊ก
ลมหายใจยังอุ่นร้อนในอก เพราะแววตาของเขาเมื่อครู่
คำพูดเรื่องโบนัส…คำพูดเรื่อง “ดินเนอร์หน้า”…
“เขา...รู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาเป็นใครในคืนนั้น?”
หรือว่าเขาแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
เธอไม่ใช่เด็กสาวไร้ประสบการณ์ และรู้ดีว่า…
ผู้ชายแบบเวหา ไม่มีอะไรที่ ‘บังเอิญ’
ปลายนิ้วเรียวเคาะคีย์บอร์ดเบา ๆเธอเปิดแท็บใหม่
และพิมพ์คำว่า
LUNA TOWER — Owner — History
ไม่มีอะไรน่าสงสัยในหน้าแรก
เป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานของตึกสูงที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
เจ้าของในนามบริษัทคือ Luna Horizon Holding
ไม่มีชื่อเวหา ไม่มีอะไรเชื่อมโยงตรง ๆ
ญาดาเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนจะใช้โปรแกรมเฉพาะของบริษัทลองค้นลึกอีกนิด
กรรมการร่วมทุนเธอเห็นชื่อที่ขึ้นต้นว่า “V.H.” ข้างหลังมีหมายเหตุ:
“บุคคลสำคัญในระบบปิด / ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ”
หน้าจอกลายเป็นสีขาวชั่วครู่ ก่อนจะโหลดข้อมูลเพียงบางส่วน
เธอเห็นชื่อบริษัทลูก ๆ ที่ไม่มีข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์
และชื่อที่ปรากฏอยู่ใต้สุด…
V.H. Confidential Identity / Not Public Listed
“V.H.?” ญาดาขมวดคิ้วเธอรู้ว่าเธอไม่ควรค้นลึกกว่านี้
แต่หัวใจเธอมันเต้นแปลก ๆเหมือนบางอย่างในตัวเธอกำลังบอกว่า...
“เขาไม่ได้เชิญเธอเพราะบังเอิญ”
เธอปิดหน้าจออย่างเงียบ ๆและกลับมาทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ในใจกลับมีคำถามมากมายที่เริ่มแทรกซึมเธอไม่รู้เลยว่า…
บนชั้นสูงสุดของตึก
ใครบางคนกำลังยืนมองภาพจากกล้องวงจรปิดของแผนกเธอ
พร้อมรอยยิ้มที่ลึกเกินกว่าใครจะเข้าใจ…
ภายใต้แสงไฟสลัวของห้องทำงานส่วนตัวบนชั้นบนสุดของ LUNA Tower
เวหานั่งพิงพนักเก้าอี้หนังสีดำ มือข้างหนึ่งคีบไวน์สีแดงอีกแก้ว
สายตาคมกริบมองหน้าจอเบื้องหน้าอย่างเงียบงันหน้าจอนั้น...
คือภาพการพิมพ์ของญาดาแบบเรียลไทม์
ตัวอักษรบนคีย์บอร์ดที่เธอกด ปรากฏตรงหน้าชายหนุ่มไม่ต่างกันแม้แต่หนึ่งคำ
กรรมการร่วมทุน Luna Horizon ผู้ถือหุ้นระบบปิด
เวหายกยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากไม่มีความโกรธ ไม่มีความตกใจ
มีเพียง “ความรู้สึกบางอย่าง” ที่ลึกล้ำกว่าใครจะคาดเดา
“เร็วเกินไปหน่อยนะ…ญาดา”
เขาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา
ปลายนิ้วลากผ่านทัชแพด เปิดอีกหน้าต่างขึ้นมา
แผ่นโปรไฟล์ของเลขาคนงามปรากฏตรงหน้า พร้อมกับหมายเหตุสั้น ๆ
Status: Activated
Note: ถ้าเธอเดินหมากต่อไป ฉันจะเปิดแผนลึกขั้นที่สอง
เวหายังนั่งนิ่ง ราวกับกำลังรออะไรบางอย่างและที่หน้าจออีกฝั่งของญาดา
เครื่องหมายบางอย่างเริ่มกระพริบ…แต่เธอยังไม่ทันสังเกต
เพราะสายตากำลังจดจ่อกับข้อมูลของชายลึกลับที่เธอเข้าใจว่า “เธอควบคุมได้”
แต่หารู้ไม่…
ทั้งระบบนั้นคือเขาเองที่สร้างมาเพื่อเธอ
ญาดายังคงนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานมือเรียวขยับเมาส์กับคีย์บอร์ดอย่างมั่นคง
ทุกอย่างเหมือนเดิม...แต่ไม่ใช่เลยสักนิด
ในใจเธอยังวนเวียนกับค่ำคืนหมาดๆที่ยังไม่รู้ว่าฝันหรือจริง
กับชายลึกลับที่ชื่อเวหา...ที่วันนี้นั่งอยู่ชั้นบนของตึก และหน้าห้องของเธอ
เสียงรองเท้าหนังดังขึ้นในโถงลิฟต์
ผู้บริหารหนุ่มจากอีกแผนกเดินตรงมาที่ห้องเวหาเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้ม ตัดทรงหรู
ชื่อของเขาคือ รวิชญ์ หนุ่มหล่อจากสายลงทุนต่างประเทศ
“คุณเวหา ผมมีไฟล์ต้องปรึกษาเกี่ยวกับโครงการฝั่งเซี่ยงไฮ้ครับ”
เขายิ้มบาง ๆ อย่างสุภาพ ขณะวางแฟ้มไว้ตรงหน้าเจ้านายเวหาเงยหน้าขึ้น พยักหน้าเบา ๆ
แต่ยังไม่ทันเปิดแฟ้ม สายตาของรวิชญ์...กลับลอบมองผ่านกระจกใสด้านข้าง
สายตานั้น จ้องตรงไปยังโต๊ะของญาดาที่นั่งก้มหน้าทำงานอยู่ไม่ไกล
เวหาเห็น...แม้รวิชญ์จะทำเหมือนไม่ได้จงใจแต่แววตาแบบนั้น เขารู้ทันที
“เธอ...ไม่ใช่ของเล่นใครได้ง่าย ๆ หรอก”
“เลขาคุณ...ดูมืออาชีพดีนะครับ”
เสียงรวิชญ์เบา แต่น้ำเสียงมีนัยเวหาหัวเราะในลำคอเบา ๆไม่ได้ตอบ แต่พลิกหน้าแฟ้มแทน
เสียงกระดาษที่ถูกเปิดดัง ฟึ่บ เหมือนจะเบา แต่กลับฟาดความเย็นชาออกไปเต็มแรง
“เธอทำงานให้ผมมาก่อนคุณหลายปีแล้ว”
เขาตอบเรียบ ๆ ก่อนเสริม
“...และผมไม่ให้ใครแตะคนของผม”
คำว่า "คนของผม" ทำให้รวิชญ์ยิ้มค้าง
ก่อนจะแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน “เข้าใจแล้วครับ...ไม่ล้ำเส้น”
แต่ไม่ใช่แค่รวิชญ์ที่รู้สึกเพราะด้านนอก...ญาดาเงยหน้าขึ้นพอดี
เธอไม่รู้ว่าอะไรแต่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง…
สายตาเวหาที่มองเธอผ่านกระจกนั้น
ยังคง “แน่นิ่ง”
...แต่ “มีอะไรบางอย่าง” กำลังซ่อนอยู่ในแววตานั้น