เสียงเปียโนล่องลอยมาแผ่วเบาเป็นทำนองคลาสสิกที่คุ้นเคยแต่ก็เย้ายวนเกินจะจำชื่อได้
ไม่เร่ง ไม่ช้า เหมือนลมหายใจของใครบางคนที่กำลังจ้องอยู่เงียบ ๆ
ญาดานั่งสงบปลายนิ้วแตะแก้วไวน์เบา ๆ
สีแดงฉ่ำในแก้วใส สะท้อนเงาดวงตาเธอที่ดูมีประกายบางอย่างที่ซ่อนไว้
ริมฝีปากวาวชื้นจากไวน์ แตะยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เธอสวยขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขยับตัว
และเวหา...กำลังดูเธอเหมือนชายผู้รู้ตัวว่าเขากำลังพ่ายแพ้ให้กับสิ่งมีชีวิตตรงหน้า
“คุณชอบเพลงนี้ไหม”
เขาถามเบา ๆญาดาหันมาสบตาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน
“มันเหมาะกับไวน์...และบรรยากาศ”
“แต่ที่ทำให้มันพิเศษ คงไม่ใช่แค่เพลงหรอกค่ะ”
เวหายกไวน์ขึ้นจิบนิ้วเรียวยังจับขาแก้วไว้มั่นสายตาคมกริบมองเธออย่างคนที่เริ่ม ไม่สนใจคำว่าเหมาะสม อีกต่อไป
“แล้วอะไรล่ะ…ที่ทำให้มันพิเศษ”
ญาดาไม่ตอบทันทีเธอเอนหลังพิงเก้าอี้ ไขว้ขาอย่างสง่างามเดรสสีน้ำเงินรัดรูปแนบกับผิวขาวราวหยาดน้ำนมใต้แสงไฟสลัวเธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย
“อาจเป็นเพราะ...สายตาคู่หนึ่ง ที่ไม่เคยปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเลยแม้แต่เสี้ยวนาที”
เวหาวางแก้วลงช้า ๆนิ้วแตะขอบโต๊ะเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกับเสียงเปียโนที่เล่นต่อไป
เขาไม่พูดอะไรแต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน
ญาดามองเขาเข้ามาใกล้...ทุกก้าวคือพลังบางอย่างที่ซึมเข้าสู่ใจเธอ
เขาหยุดอยู่ข้างหลังเธอไม่ได้แตะต้องแค่โน้มตัวลงเล็กน้อยเสียงของเขาแผ่วข้างหู
“ผมอยากรู้...ว่าถ้าผมเล่นเปียโนเอง”
“คุณจะยังจ้องผมเหมือนที่ผมจ้องคุณคืนนี้ไหม”
เธอไม่ตอบเพราะแค่หายใจก็แทบไม่ทัน...
เวหาลุกขึ้นช้า ๆแสงจากโคมไฟกระทบเสื้อเชิ้ตสีดำที่แนบไปกับรูปร่างสูงสง่า
เขาไม่พูดอะไรแค่เดินผ่านเธอไปอย่างเงียบงันและทุกฝีก้าวนั้น…ทำให้หัวใจญาดาเต้นผิดจังหวะ
เขาหยุดที่เปียโนตรงมุมห้องวางมือลงบนคีย์แล้วเริ่มบรรเลง…เสียงโน้ตแรก…นุ่มลึก ราวกับเสียงกระซิบในค่ำคืนแทรกเข้ามาในอกเธอดึงทุกเส้นประสาทให้ตื่นตัว ราวกับโดนร่ายมนตร์ญาดานั่งนิ่ง
แต่ดวงตาไล่มองแผ่นหลังเขาแผ่นหลังของผู้ชายที่เธอไม่รู้จักชื่อจริง
ไม่รู้แม้แต่เจตนา…แต่กลับไม่อาจละสายตาได้แม้แต่วินาทีเดียว
มือเขาขยับบนเปียโนอย่างชำนาญทุกคีย์ ทุกท่อน จังหวะ…มีแรงอารมณ์บางอย่าง
แรงที่ไม่เร่งร้อน แต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอให้หนีไป
เธอรู้ตัวดีว่าเขากำลังบรรเลงเพื่อเธอและคืนนี้...อาจไม่ใช่แค่เสียงเปียโนที่เธอยอมฟังจนจบ
“นี่ฉันกำลังรู้สึก...อยากถูกครอบครอง?”
ความคิดนั้นผุดขึ้นแผ่ว ๆแต่ไม่หายไปเสียงเพลงจบลงอย่างละมุน
เวหาหันกลับมาช้า ๆดวงตาเขาทาบทับกับไฟเทียนที่สั่นไหวอยู่ไกล ๆ
เหมือนมีอะไรบางอย่าง…รอคำตอบจากเธอญาดายืดตัวตรง
ลมหายใจตื้นเล็กน้อยมือเธอแตะแก้วไวน์ แต่ไม่ได้ยกขึ้นดื่มแค่ยิ้ม…เบาบาง แต่ยากจะตีความ
“คืนนี้…คุณตั้งใจให้ฉันยอมอะไรบ้างคะ”
เวหานิ่งก่อนเอ่ยตอบด้วยเสียงทุ้มลึก
“อะไรก็ตาม…ที่คุณอยากยอมด้วยตัวเอง”
ญาดานิ่งไปก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นก้าวช้า ๆ เข้าหาเขา
ทุกฝีเท้าเหมือนขยับเข้าหาเส้นบาง ๆ ระหว่าง ผู้หญิงที่ควบคุมทุกอย่าง กับ ผู้หญิงที่กำลังจะปล่อยทุกอย่างให้เขาควบคุม
“ถ้าฉันยอมคืนนี้…คุณจะหยุดแค่นี้ไหม”
เวหาโน้มหน้าเข้าใกล้ริมฝีปากแทบแตะปลายคางเธอเสียงกระซิบของเขาร้อนวาบ
“ถ้าคุณยอม…ผมจะไม่มีวันหยุดอีกเลย”
เวหาวางฝ่ามือบนแผ่นหลังของญาดาเบา ๆนิ้วเรียวยาวนุ่มแต่ทรงพลัง
นำทางเธอกลับไปยังโต๊ะอาหารเดิมที่ตอนแรกเหมือนโต๊ะสำหรับพูดคุยทั่วไป
แต่ตอนนี้...ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแค่เสียงเก้าอี้เลื่อน
ญาดาก็รู้แล้วว่าความประหม่าแบบผู้หญิง…มันกำลังจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
“เชิญครับ”
เขาเอ่ยเสียงเรียบ แต่สายตาไม่ได้วางลงที่เก้าอี้
...มันมองเธอ เหมือนอยากให้เธอนั่งบนตักมากกว่าญาดายิ้มบาง ๆ แล้วนั่งลง
ปลายนิ้วเธอวางบนขอบโต๊ะใจยังเต้นแรง…แต่แฝงไว้ในท่าทางสงบนิ่งของผู้หญิงที่ไม่เคยยอมให้ใครเห็นว่ากำลังสั่นไหวเวหานั่งลงตรงข้ามขวดไวน์ถูกเทอีกครั้งแสงจากไฟเทียนไหวสะท้อนในแก้วใส
เงาของเขาทาบลงบนโต๊ะ...เหมือนทาบลงในใจเธอด้วย
“คุณยังไม่ดื่ม”
เขาเอ่ยอย่างรู้ทัน
“ฉันยังไม่แน่ใจ…ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ควรใช้สติหรือไวน์เป็นตัวนำ”
ญาดาตอบเสียงนุ่มเวหาหัวเราะในลำคอก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้
นิ้วเคาะเบา ๆ กับโต๊ะไม้เรียบหรูท่าทางของเขายังเงียบขรึม แต่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ร้อนลึกขึ้นทุกนาที
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมไม่อยากให้คุณเมา”
“ผมอยากให้คุณจดจำทุกวินาทีของคืนนี้…โดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น”
ญาดาชะงักดวงตาเธอสบกับเขาชั่ววินาทีนั้น…หัวใจของเธอเหมือนถูกอ่านทะลุทุกชั้นเกราะ
เสียงเพลงเปลี่ยนจังหวะจากเปียโนมาเป็นสายไวโอลินแผ่วเบา
แสงไฟจากเทียนทุกดวงเหมือนสั่นไหวตามอุณหภูมิในห้องที่สูงขึ้น
โต๊ะอาหารมื้อนี้…ไม่ได้มีไว้สำหรับมื้อค่ำ
เวหายกแก้วไวน์ขึ้นนิ้วยาวเรียวจับแก้วอย่างนิ่งสงบ ก่อนจะจิบเบา ๆ
แสงจากโคมไฟหัวโต๊ะสะท้อนเงาไวน์สีแดงเข้มที่ล้อแววตาคมกริบของเขา
ไม่ใช่แค่ไวน์ในแก้ว…แต่แววตาเขาต่างหากที่ทำให้ญาดารู้สึกเหมือนโดนลิ้มรสเสียเอง
“คุณยังไม่ได้ดื่ม”
เขาเอ่ยเบา ๆญาดาวางมือลงบนตักดวงตาสบกับเขาโดยไม่หลบ
เธอไม่ได้ยิ้มแต่สีหน้าสงบและอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ฉันแค่...ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องเป็นฉัน”
“โต๊ะดินเนอร์ลับ บนตึกสูง กับไวน์ดีราคาเกินเดือนเงินเดือนของฉัน”
“มันดูไม่เข้ากับผู้หญิงธรรมดา ๆ แบบฉันเลยสักนิด…”
เวหายังไม่ตอบทันทีเขาวางแก้วไวน์ลงอย่างเงียบเชียบ
ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อย สายตายังจับอยู่ที่ดวงหน้าเธอไม่ละไปไหน
“เพราะคุณไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา”
คำพูดเรียบ ๆ นั้นทำให้ความเงียบที่เคลือบอยู่ในอากาศ…แตกออกอย่างไร้เสียง
แววตาของญาดาสั่นเล็กน้อยเธอกำลังตั้งคำถามใหม่ในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไปว่าหมายถึงอะไร
เวหายังคงพูดต่อเสียงเขาเหมือนไวน์ที่เริ่มกลั่นลึกลงคอ…อุ่น หวาน และร้อนแรงในทีเดียว
“ผมติดตามคุณมาเป็นเดือน”
“คุณเดินอย่างมั่นใจในโลกที่ไม่มีใครเห็นความเหนื่อยล้าในสายตาคุณ”
“คุณพูดน้อยแต่ทำงานไม่เคยน้อย”
“และคุณ...คือผู้หญิงที่ยังยิ้มให้คนอื่น ทั้งที่หัวใจตัวเองแบกไว้ตั้งมากมาย”
ญาดานิ่งไม่มีคำตอบนอกจากหัวใจที่เริ่มเต้นช้าลง…เพราะทุกคำพูดของเขาเข้าไปถึงแก่น
เวหาค่อย ๆ เอนตัวมาข้างหน้าระยะห่างระหว่างพวกเขา…หายไปในลมหายใจเดียว
“ผมเชิญคุณ เพราะอยากให้คุณรู้…ว่ายังมีคนมองเห็น”
“ไม่ใช่ในฐานะเลขา หรือใครที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง”
“แต่ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง…ที่ผมอยากทำให้เธอหยุดใช้ชีวิตแบบลำพังอีกต่อไป"
ญาดาหลุบตาลงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้น
ริมฝีปากที่เคยแข็งไว้ด้วยเกราะบาง ๆ…เริ่มเผยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ถ้าฉันยังไม่เชื่อใจคุณล่ะคะ?”
เวหายิ้มยิ้มมุมปาก…ในแบบที่ผู้หญิงทั้งโลกอาจตกหลุมพราง
“งั้นก็ให้ผมใช้ทั้งคืน...เพื่อให้คุณเปลี่ยนใจ”