ตอนที่ 13 เธอยังมีดวงใจที่ต้องรับผิดชอบ

1171 Words
แสงแดดยามเย็นส่องลอดหน้าต่างรถแท็กซี่ ญาดานั่งพิงเบาะ กำมือกระเป๋าบนตักแน่น ใจเธอยังเต้นแรงอยู่ ไม่รู้เพราะจูบเมื่อครู่ หรือเพราะความกังวลที่กำลังจะเจอข้างหน้า รถเลี้ยวเข้าไปในลานจอดโรงพยาบาลเอกชน เธอก้าวลง รีบเดินตรงไปยังอาคารผู้ป่วย เสียงเครื่องวัดชีพจร เสียงรองเท้าหมอพยาบาล และกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ…ตัดกับภาพหรูหราในตึกสำนักงานเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง “คุณญาดามาแล้วค่ะ” เสียงพยาบาลทักขึ้น เธอเพียงยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ แล้วเร่งก้าวไปยังห้องพักผู้ป่วย บนเตียงนั้น…แม่ของเธอนอนหลับตาพักผ่อน ผิวซีดเซียว ออกซิเจนพาดผ่านจมูกเบา ๆ ญาดาวางกระเป๋าลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจับมือนุ่มซีดนั้นขึ้นมาแนบแก้ม “แม่…หนูมาแล้วนะ” เสียงเธอสั่นน้อย ๆ แต่พยายามกลืนมันลง แม่ลืมตาขึ้นเล็กน้อย เห็นลูกสาวก็ยิ้มอ่อนแรง “กลับดึกทุกวัน…เหนื่อยไหมลูก” ญาดาส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ ทั้งที่น้ำตาคลอ “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ หนูยังไหว” เธอนั่งลงข้างเตียง มองหยดน้ำเกลือที่ไหลลงเป็นจังหวะ ในใจกลับย้อนกลับไปถึงคำพูดของเวหา “เพราะคุณ…ไม่เหมือนใคร” เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาเลือกเธอแต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ ชีวิตจริงของเธอ ยังมีโลกอีกใบที่ต้องรับผิดชอบ ญาดาก้มลงจูบหลังมือแม่เบา ๆ “แม่พักนะคะ เดี๋ยวหนูไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มให้” เธอลุกขึ้น ก้าวออกจากห้องด้วยหัวใจที่หนักกว่าเดิม โลกของเกมลับ…กับโลกจริง กำลังค่อย ๆ ซ้อนทับกันอย่างที่เธอไม่อาจแยกออกได้อีก โถงทางเดินของโรงพยาบาลเงียบสงบ ญาดาก้าวออกจากห้องผู้ป่วย แวะตรงไปยังแผนกการเงิน เธอหยิบเอกสาร คุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องค่าใช้จ่ายรอบใหม่ สีหน้าของเธอยังคงนิ่ง แต่นิ้วมือกลับกำปากกาแน่นจนข้อนิ้วขาว “มันมากเกินกว่าที่เงินเดือนปกติจะรับไหวแล้ว…” เธอเซ็นชื่อในช่องสุดท้าย ก่อนส่งเอกสารคืน แล้วเดินไปหยุดที่ระเบียงกระจกชั้นสาม สูดหายใจลึกเพื่อกดความเหนื่อยล้า ทว่า…เธอไม่รู้เลยว่า บนเก้าอี้โซฟาหนังสีดำในห้องส่วนตัวของ LUNA Tower เวหากำลังนั่งมองภาพเธออยู่บนหน้าจอ กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เชื่อมต่อเข้ากับระบบที่เขาสั่งติดตั้งอย่างเงียบเชียบมานานแล้ว ภาพผู้หญิงคนเดียวที่เขาเลือก…ปรากฏทุกอิริยาบถ เวหายกแก้วไวน์ขึ้นจิบ สายตาคมกริบจับจ้องไปยังใบหน้าที่แม้จะเหนื่อย แต่ยังสวยมั่นคง ริมฝีปากเขาโค้งขึ้นน้อย ๆ อย่างพอใจ “แม้กระทั่งตอนที่อ่อนแรงที่สุด…เธอก็ยังไม่ยอมให้ใครเห็น” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยกข้อมือหมุนดูนาฬิกา ก่อนเอ่ยคำพูดที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน “ดินเนอร์หน้า…ผมจะไม่ปล่อยให้คุณกลับไปเหมือนเดิมอีก” ประตูคอนโดเก่าๆ ถูกผลักเปิดออกด้วยแรงที่อ่อนแรงเต็มที ญาดาก้าวเข้ามาในห้องนอนขนาดกะทัดรัด มีเพียงโต๊ะทำงาน เตียงเดี่ยว และหน้าต่างบานเล็กที่ปิดม่านทึบ ทันทีที่ประตูปิดลง… เธอทิ้งกระเป๋าลงบนโต๊ะ แล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ใบเสร็จค่ารักษาและค่ายาที่เพิ่งเคลียร์มาจากโรงพยาบาล ยังอยู่ในมือ ตัวเลขเรียงรายบนกระดาษ…สูงเกินกว่าที่เงินเดือนประจำหรือโบนัสจะรับไหว เธอกำแฟ้มเอกสารนั้นแน่น จนสันแฟ้มกดลึกลงกับฝ่ามือ ญาดาซบหน้าลงกับเข่า ลมหายใจหนัก ๆ ดังสะท้อนในห้องเงียบ หัวใจเธอเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะตัวเอง…แต่เพราะแม่ยังไม่ดีขึ้นเลยสักนิด ทั้งที่เธอพยายามเต็มที่แล้ว “ทำไม…ถึงยังไม่ดีขึ้นเลยแม่ หนูไม่อยากเสียแม่ไป…หนูทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ” น้ำตาไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น แต่ในห้องเล็ก ๆ นี้ เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหมดสิ้นแรง เสียงโทรศัพท์สั่นเบา ๆ บนโต๊ะ ข้อความเตือนจากธนาคาร “ยอดเงินคงเหลือ…” ตัวเลขที่ปรากฏ ทำให้ใจเธอหายวาบยิ่งกว่าคำวินิจฉัยของหมอเสียอีก ญาดายกมือปาดน้ำตา สูดหายใจแรง เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ราวกับจะบังคับตัวเองให้เข้มแข็งอีกครั้ง เพราะเธอรู้…ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง “ยืนให้ไหว” แต่เธอไม่รู้เลยว่า ภาพตรงนี้ ผู้หญิงที่แข็งแรงในที่ทำงาน แต่กำลังทรุดลงคนเดียวในห้องนอน ถูกชายคนหนึ่งมองเห็นทั้งหมด เวหานั่งพิงพนักเก้าอี้หนังสีดำในห้องสลัว หน้าจอเบื้องหน้าแสดงภาพเรียลไทม์ของเธอ สายตาคมกริบทอดมองภาพนั้นนิ่งงัน ริมฝีปากเขายกขึ้นเล็กน้อย แต่ในแววตาแฝงความรู้สึกที่ยากจะอ่านออก “ในที่สุด…คุณก็ยอมให้ผมเห็นด้านที่ไม่มีใครได้เห็น” เสียงทุ้มเอ่ยช้า ๆ คล้ายพึมพำกับตัวเอง เขาเอื้อมมือหยิบแก้วไวน์ขึ้น แต่ครั้งนี้…ไม่ได้ยกขึ้นจิบ เพียงบีบแก้วแน่น จนแสงสะท้อนสีแดงในไวน์สั่นไหวราวกับอารมณ์ที่กำลังปะทุ เวหายังคงนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสูงสุดของ LUNA Tower แสงไฟสลัวสะท้อนเงาเข้มบนใบหน้าคม สายตาของเขาจ้องหน้าจออย่างไม่กะพริบ บนจอนั้น…คือภาพญาดาที่นั่งกอดเข่าอยู่กับพื้นห้องเช่าเล็ก ๆ ใบหน้าที่มักสุขุมในที่ทำงานตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ไหลลงมาเงียบ ๆ โดยไม่มีใครได้เห็น กรามแกร่งของเวหาขบแน่น เส้นสันกรามขึ้นชัดราวกับกดความรู้สึกเอาไว้ ในอกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตีกันทั้งหวง ทั้งโกรธ ทั้งเจ็บแปลก ๆ “นี่น่ะหรือ…ผู้หญิงที่ใครต่อใครคิดว่าแข็งแกร่งไม่ยอมใคร” “เธอปิดทุกคนไว้หมด…แต่ไม่อาจปิดผมได้” เวหากำหมัดแน่น ภาพเธอในที่ทำงานยังชัดอยู่ในความคิดเลขาสาวผู้สุขุม เฉียบขาด ไม่เคยให้ใครเห็นจุดอ่อน แต่ภาพตรงหน้านี้…ตรงกันข้ามจนเขาแทบควบคุมความคิดไม่อยู่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตาลงเสี้ยววินาที เหมือนจะกดความรู้สึกลง ทว่ากล้ามเนื้อขากรรไกรยังเกร็งจัดจนเส้นขึ้นชัด เวหาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคมกริบสะท้อนประกายเคร่งเครียด ริมฝีปากเอ่ยช้า ๆ แต่หนักแน่น “ไม่ว่าเธอจะพยายามเข้มแข็งแค่ไหน… ผมก็จะเป็นคนเดียวที่ได้เห็นด้านนี้” เขาโน้มตัวไปข้างหน้า กดปุ่มบนคีย์บอร์ด หน้าจออีกบานปรากฏตารางเวลาใหม่ หัวข้อหนึ่งถูกเน้นสีเข้มขึ้นมา Dinner No.2 — Confirmed
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD