แสงแดดยามเย็นส่องลอดหน้าต่างรถแท็กซี่
ญาดานั่งพิงเบาะ กำมือกระเป๋าบนตักแน่น
ใจเธอยังเต้นแรงอยู่ ไม่รู้เพราะจูบเมื่อครู่ หรือเพราะความกังวลที่กำลังจะเจอข้างหน้า
รถเลี้ยวเข้าไปในลานจอดโรงพยาบาลเอกชน
เธอก้าวลง รีบเดินตรงไปยังอาคารผู้ป่วย
เสียงเครื่องวัดชีพจร เสียงรองเท้าหมอพยาบาล และกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ…ตัดกับภาพหรูหราในตึกสำนักงานเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“คุณญาดามาแล้วค่ะ”
เสียงพยาบาลทักขึ้น เธอเพียงยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ แล้วเร่งก้าวไปยังห้องพักผู้ป่วย
บนเตียงนั้น…แม่ของเธอนอนหลับตาพักผ่อน
ผิวซีดเซียว ออกซิเจนพาดผ่านจมูกเบา ๆ
ญาดาวางกระเป๋าลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจับมือนุ่มซีดนั้นขึ้นมาแนบแก้ม
“แม่…หนูมาแล้วนะ”
เสียงเธอสั่นน้อย ๆ แต่พยายามกลืนมันลง
แม่ลืมตาขึ้นเล็กน้อย เห็นลูกสาวก็ยิ้มอ่อนแรง
“กลับดึกทุกวัน…เหนื่อยไหมลูก”
ญาดาส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ ทั้งที่น้ำตาคลอ
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ หนูยังไหว”
เธอนั่งลงข้างเตียง มองหยดน้ำเกลือที่ไหลลงเป็นจังหวะ
ในใจกลับย้อนกลับไปถึงคำพูดของเวหา
“เพราะคุณ…ไม่เหมือนใคร”
เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาเลือกเธอแต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ
ชีวิตจริงของเธอ ยังมีโลกอีกใบที่ต้องรับผิดชอบ
ญาดาก้มลงจูบหลังมือแม่เบา ๆ
“แม่พักนะคะ เดี๋ยวหนูไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มให้”
เธอลุกขึ้น ก้าวออกจากห้องด้วยหัวใจที่หนักกว่าเดิม
โลกของเกมลับ…กับโลกจริง
กำลังค่อย ๆ ซ้อนทับกันอย่างที่เธอไม่อาจแยกออกได้อีก
โถงทางเดินของโรงพยาบาลเงียบสงบ
ญาดาก้าวออกจากห้องผู้ป่วย แวะตรงไปยังแผนกการเงิน
เธอหยิบเอกสาร คุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องค่าใช้จ่ายรอบใหม่
สีหน้าของเธอยังคงนิ่ง แต่นิ้วมือกลับกำปากกาแน่นจนข้อนิ้วขาว
“มันมากเกินกว่าที่เงินเดือนปกติจะรับไหวแล้ว…”
เธอเซ็นชื่อในช่องสุดท้าย ก่อนส่งเอกสารคืน
แล้วเดินไปหยุดที่ระเบียงกระจกชั้นสาม สูดหายใจลึกเพื่อกดความเหนื่อยล้า
ทว่า…เธอไม่รู้เลยว่า
บนเก้าอี้โซฟาหนังสีดำในห้องส่วนตัวของ LUNA Tower
เวหากำลังนั่งมองภาพเธออยู่บนหน้าจอ
กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล
เชื่อมต่อเข้ากับระบบที่เขาสั่งติดตั้งอย่างเงียบเชียบมานานแล้ว
ภาพผู้หญิงคนเดียวที่เขาเลือก…ปรากฏทุกอิริยาบถ
เวหายกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
สายตาคมกริบจับจ้องไปยังใบหน้าที่แม้จะเหนื่อย แต่ยังสวยมั่นคง
ริมฝีปากเขาโค้งขึ้นน้อย ๆ อย่างพอใจ
“แม้กระทั่งตอนที่อ่อนแรงที่สุด…เธอก็ยังไม่ยอมให้ใครเห็น”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ
เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยกข้อมือหมุนดูนาฬิกา
ก่อนเอ่ยคำพูดที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน
“ดินเนอร์หน้า…ผมจะไม่ปล่อยให้คุณกลับไปเหมือนเดิมอีก”
ประตูคอนโดเก่าๆ ถูกผลักเปิดออกด้วยแรงที่อ่อนแรงเต็มที
ญาดาก้าวเข้ามาในห้องนอนขนาดกะทัดรัด มีเพียงโต๊ะทำงาน เตียงเดี่ยว และหน้าต่างบานเล็กที่ปิดม่านทึบ
ทันทีที่ประตูปิดลง…
เธอทิ้งกระเป๋าลงบนโต๊ะ แล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
ใบเสร็จค่ารักษาและค่ายาที่เพิ่งเคลียร์มาจากโรงพยาบาล ยังอยู่ในมือ
ตัวเลขเรียงรายบนกระดาษ…สูงเกินกว่าที่เงินเดือนประจำหรือโบนัสจะรับไหว
เธอกำแฟ้มเอกสารนั้นแน่น จนสันแฟ้มกดลึกลงกับฝ่ามือ
ญาดาซบหน้าลงกับเข่า
ลมหายใจหนัก ๆ ดังสะท้อนในห้องเงียบ
หัวใจเธอเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะตัวเอง…แต่เพราะแม่ยังไม่ดีขึ้นเลยสักนิด ทั้งที่เธอพยายามเต็มที่แล้ว
“ทำไม…ถึงยังไม่ดีขึ้นเลยแม่ หนูไม่อยากเสียแม่ไป…หนูทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ”
น้ำตาไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น แต่ในห้องเล็ก ๆ นี้
เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหมดสิ้นแรง
เสียงโทรศัพท์สั่นเบา ๆ บนโต๊ะ
ข้อความเตือนจากธนาคาร “ยอดเงินคงเหลือ…”
ตัวเลขที่ปรากฏ ทำให้ใจเธอหายวาบยิ่งกว่าคำวินิจฉัยของหมอเสียอีก
ญาดายกมือปาดน้ำตา สูดหายใจแรง
เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ราวกับจะบังคับตัวเองให้เข้มแข็งอีกครั้ง
เพราะเธอรู้…ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง “ยืนให้ไหว”
แต่เธอไม่รู้เลยว่า
ภาพตรงนี้ ผู้หญิงที่แข็งแรงในที่ทำงาน แต่กำลังทรุดลงคนเดียวในห้องนอน
ถูกชายคนหนึ่งมองเห็นทั้งหมด
เวหานั่งพิงพนักเก้าอี้หนังสีดำในห้องสลัว
หน้าจอเบื้องหน้าแสดงภาพเรียลไทม์ของเธอ
สายตาคมกริบทอดมองภาพนั้นนิ่งงัน
ริมฝีปากเขายกขึ้นเล็กน้อย แต่ในแววตาแฝงความรู้สึกที่ยากจะอ่านออก
“ในที่สุด…คุณก็ยอมให้ผมเห็นด้านที่ไม่มีใครได้เห็น”
เสียงทุ้มเอ่ยช้า ๆ คล้ายพึมพำกับตัวเอง
เขาเอื้อมมือหยิบแก้วไวน์ขึ้น
แต่ครั้งนี้…ไม่ได้ยกขึ้นจิบ
เพียงบีบแก้วแน่น จนแสงสะท้อนสีแดงในไวน์สั่นไหวราวกับอารมณ์ที่กำลังปะทุ
เวหายังคงนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสูงสุดของ LUNA Tower
แสงไฟสลัวสะท้อนเงาเข้มบนใบหน้าคม
สายตาของเขาจ้องหน้าจออย่างไม่กะพริบ
บนจอนั้น…คือภาพญาดาที่นั่งกอดเข่าอยู่กับพื้นห้องเช่าเล็ก ๆ
ใบหน้าที่มักสุขุมในที่ทำงานตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา
ไหลลงมาเงียบ ๆ โดยไม่มีใครได้เห็น
กรามแกร่งของเวหาขบแน่น
เส้นสันกรามขึ้นชัดราวกับกดความรู้สึกเอาไว้
ในอกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตีกันทั้งหวง ทั้งโกรธ ทั้งเจ็บแปลก ๆ
“นี่น่ะหรือ…ผู้หญิงที่ใครต่อใครคิดว่าแข็งแกร่งไม่ยอมใคร”
“เธอปิดทุกคนไว้หมด…แต่ไม่อาจปิดผมได้”
เวหากำหมัดแน่น
ภาพเธอในที่ทำงานยังชัดอยู่ในความคิดเลขาสาวผู้สุขุม เฉียบขาด ไม่เคยให้ใครเห็นจุดอ่อน
แต่ภาพตรงหน้านี้…ตรงกันข้ามจนเขาแทบควบคุมความคิดไม่อยู่
เขาเอนหลังพิงเก้าอี้
หลับตาลงเสี้ยววินาที เหมือนจะกดความรู้สึกลง
ทว่ากล้ามเนื้อขากรรไกรยังเกร็งจัดจนเส้นขึ้นชัด
เวหาลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ดวงตาคมกริบสะท้อนประกายเคร่งเครียด
ริมฝีปากเอ่ยช้า ๆ แต่หนักแน่น
“ไม่ว่าเธอจะพยายามเข้มแข็งแค่ไหน…
ผมก็จะเป็นคนเดียวที่ได้เห็นด้านนี้”
เขาโน้มตัวไปข้างหน้า กดปุ่มบนคีย์บอร์ด
หน้าจออีกบานปรากฏตารางเวลาใหม่
หัวข้อหนึ่งถูกเน้นสีเข้มขึ้นมา
Dinner No.2 — Confirmed