EPISODE 3 หัวอกคนเมา

1970 Words
"เเฟนเหรอวะโน่ น่ารักนะมึง" "ไม่ใช่เเค่เพื่อนเว้ย.." "เพื่อนเหรอวะ อย่าให้กูเห็นสอยเพื่อนนะเว้ย" "สอยพ่อมึงสิ.." "เเล้วเธอชื่ออะไรวะ เเนะนำที" "ชื่อไอรีน.. เรียกไอก็ได้นะ"ฉันเเทรกขึ้น ถ้าจะกระซิบกันดังขนาดนั้นทำไมไม่ถามฉันเองเลยล่ะ เเหม.. "หวัดดีครับผม ..ผมชื่อ" "เสือกหน่า ไปหาเเดกที่อื่นไป" "ไรว้าา" ฉันทำได้เเค่ยิ้มเเห้งๆ ให้เพื่อนเขาเเล้วดื่มเงียบๆ คนเดียวไปพลางๆ งานไม่เห็นมีอะไรสักอย่างนอกจากนมสาวๆ กับคนเมาเต็มไปหมด อย่าถามว่าทำไมฉันถึงมาอยู่กับเขาได้ เพราะยัยวาไง บอกให้รออยู่ในงานเดี๋ยวจะมารับ ไปๆ มาๆ ป่านนี้ไม่รู้หายไปไหนเเล้ว ทิ้งฉันให้อยู่กับหมอนี่มาหลายชั่วโมงละเนี่ย เพื่อนๆ ของเขาต่างคนต่างก็หันไปให้ความสนใจสาวของตัวเอง ดูเหมือนจะเหลือเเค่ซีโน่นี่เเหละที่นั่งควงเเก้วไวน์เเล้วดื่มหมดไปหลายเเก้วเเล้วด้วย ในนี้ไม่มีใครเลยที่ฉันรู้จัก ยกเว้นคนตรงหน้าเนี่ยเเหละที่รู้จักกันโดยที่ฉันไม่อยากจะทำความรู้จักเท่าไหร่ เเต่เขาก็ดีเหมือนกันตรงที่ชวนฉันคุยตลอดเวลา เหมือนจะรู้ว่าฉันไม่มีเพื่อนคนอื่นเเล้ว "นายจัดปาร์ตี้เเต่ทำไมดูไม่มีความสุขเลยอ่ะ งานไม่ได้กร่อยขนาดนั้นซะหน่อย"ฉันถามขึ้นเพราะคิดเเบบนั้นจริงๆ ปาร์ตี้ฉลองโสดที่คนโสดดูไม่ค่อยสุขเท่าไหร่ เขาก้มหน้าเล็กน้อยเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เสื้อเชิ้ตสีขาวเเหวกถึงร่องอกกับผมสีดำขลับที่ตกลงมาปรกหน้ามันทำให้เขาดูน่าดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก "ไม่รู้สิ" "หน้าอมทุกข์ขนาดนี้ไม่รู้ได้ไง" "ฉันพึ่งอกหักมาว่ะหมวย.." "อะไร.. ดึงดราม่าไรเนี่ย" "พูดจริง.." เสียงสูงเชียวนะเเหม เเต่มันก็น่าคิดเหมือนกันนะ ตรงที่ว่าทำไมเขาต้องดื่มหนักขนาดนี้ด้วย ดื่มเพราะติดเหล้ากับดื่มเพราะเมารักนี่ต่างกันนะ ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ.. ฉันเคยผ่านมาเเล้วไง ..เมาจนยัยวาตบหน้าก็ไม่รู้สึกอ่ะ เมาเหมือนหมา.. "ฉันเคยโดนคนที่ไว้ใจหักหลัง.." ฉึก โดนไปหนึ่งดอกหลังจากได้ยินเขาตัดพ้อ เขาไม่ได้ดูเมาขนาดนั้นหรอก เพียงเเค่ฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์มันกำลังเล่นงานให้เขาพูดพร่ำเพ้อต่างหาก เเล้วสิ่งที่เขาพูดมันก็ตรงก็ชีวิตของตัวเองจนอยากจะปล่อยโฮออกมาดังๆ "เธอมีคนอื่น.." ฉึกๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปามารัวๆ เลยค่ะธนูเนี่ย ยิ่งเขาพูดฉันก็ยิ่งโดนทุกดอกเข้าอย่างเต็มเปา พูดเหมือนรู้อดีตเลยนะว่าฉันไปเจออะไรมา "เเล้วมาบอกฉันทำไม" "ก็คนที่อยากจะเป็นเพื่อนกันต้องทำให้เชื่อใจไม่ใช่เหรอ.." "การเล่าเรื่องตัวเองเนี่ยนะ" "อืม เพราะฉันจริงใจไง.." การเล่าเรื่องตัวเองมันก็บ่งบอกว่าเขาจริงใจได้อยู่หรอก เเต่ฉันก็ไม่รู้อยู่ดีนี่ว่าสิ่งที่เขาเล่ามันเป็นเรื่องจริง เอาเป็นว่าฉันจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเพราะเขาเมาก็เเล้วกัน "ย่ะ" "ฉัันอกหักจริงนะหมวย.."เขาย้ำอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉัน สายตาดูเศร้าเเปลกๆ ยังไงพิกล "อย่างนายยังโดนทิ้งอีกหรือไง บอกหมาออกลูกเป็นไก่ยังเชื่อซะกว่า.." ฉ้นเลี่ยงไปอีกประเด็น อย่ามาสร้างดราม่าใส่กันดิ เดี๋ยวฉันน้ำตารื้นขึ้นมาทำไง "เหอะ.. ฉันไม่เคยเพอร์เฟค" "ไม่มีใครเพอร์เฟคหรอก" เพราะงั้นฉันถึงพยายามทำตัวเพอร์เฟคอยู่นี่ไง พยายามที่จะสวยตามค่านิยมทั้งๆ ที่การเป็นตัวเองมันก็ยากพออยู่เเล้ว "งั้นหรอ.." "ใครจะเพอร์เฟคตลอดไม่มีหรอก.. ที่เขาทิ้งไปเพราะเขาไม่พอมากกว่า" ฉันหลับตาลงช้าๆ เพื่อรับลมที่พัดโชยมาเเผ่วๆ บรรยากาศมองออกไปตอนนี้ก็โคตรจะรู้สึกดี เเต่พอเขาคุยเรื่องนี้มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องของตัวเองในวันที่ยังเป็นยัยหมวย อุตส่าห์พยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้น เเต่ให้ตายยังไงฉันก็ต้องกลับไปเป็นตัวเองอยู่ดี "เอ้าจะไปไหน! " "ไปเอาเหล้าเพิ่ม" "พอเหอะ ดื่มมากเดี๋ยวก็เมาหรอก.." "ฉันไม่เมาหรอก เเค่อ้วกก็สร่างเเล้ว" "ฉันบอกให้พอก็คือพอไง นายดื่มไปเยอะเเล้ว"ฉันทำเสียงดุเล็กน้อย ทำอะไรดูขัดใจฉันไปหมดเลยว้อย! "ผู้หญิงน่ารักนี่ใจร้ายทุกคนเลยป่ะ.." ฉันส่ายหน้าช้าๆ จำได้ว่าก่อนหน้านี้ยังไปเล่นผีผ้าห่มบนรถไม่ใช่หรือไง อย่าคิดว่าฉันจะลืมนะยะ เเล้วอะไรคือผู้หญิงน่ารักมักใจร้าย ตรรกะบ้าอะไรของเขาอีก.. "ถามจริงอกหักครั้งล่าสุดเมื่อไหร่" เป็นครั้งเเรกที่ฉันถามเขาก่อน เห็นพร่ำเพ้อหนักขนาดนี้ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องมันนานเเค่ไหน "สามเดือนที่เเล้ว" "เชี่ย.." "ทำไมอ่ะ" "ฉันก็พึ่งอกหักเมื่อหลายเดือนก่อนเหมือนกัน.." ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนสองคนจะบังเอิญเจอเรื่องที่เหมือนกันมากขนาดนี้ ทิ้งฉันไปไม่พอ ดันสร้างรอยเเผลใหญ่ไว้ให้ฉันด้วยนี่สิ.. "น่ารักขนาดนี้ยังมีคนทิ้งด้วยเหรอ" "เหอะ" "พูดจริงนะ น่ารักขนาดนี้ใครมันกล้าทิ้งวะ" ตอนนี้กลายเป็นว่าฉันกำลังโดนความรู้สึกเก่าๆ เข้าเล่นงานจนต้องก้มหน้ามองมือตัวเองเเล้วเม้มริมฝีปากเเน่น ไม่ได้อยากจะนึกถึงอดีตเลยนะ เหล้าก็ดื่มไปนิดเดียว ทำไมภาพมันถึงย้อนไปย้อนมาในหัวฉันเเบบนี้ ที่สำคัญเรื่องมันน่าตลกตรงที่คนอกหักสองคนที่พึ่งเจอกันเมื่อเช้าคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนสนิทกันมาตั้งเเต่ชาติปางก่อนนี่สิ.. "มาๆ ฉันจะกอดปลอบเธอให้" คนตรงหน้าว่าเเล้วดึงฉันเข้าไปกอดเเล้วลูบหลังปลอบยกใหญ่ ตอนเเรกก็ว่าจะขัดขืนเเต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อเช้าที่ฉันต้องวิ่งหนีอีพี่โจ้เเล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความหลัง ทำไมมันเริ่มเศร้าเเล้วเนี่ย.. "ใครกล้าทิ้งหมวยลงวะเนี่ย" "เกินไปเเล้ว บอกไม่ชอบให้เรียกหมวย.." "ฉันจริงใจนะเนี่ย" "พอเลยๆ " "ขอกอดอีกหน่อยดิ ฉันช้ำใจอยู่จริงๆ นะ.." น้ำเสียงที่ฟังดูเศร้าเเปลกๆ มันทำให้ฉันเลิกผลักอกเขาออก ถึงเเม้เขาจะดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ เเต่ในฐานะที่ฉันพบเจอผู้ชายมาก็มาก ฉันสัมผัสได้เลยว่าหมอนี่เขาก็มีความจริงใจเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ที่เขาพูดมาในวันนี้เขาก็ไม่ได้โกหก.. "เเค่เเปปเดียวนะ"ฉันบอก เเล้วก็ยอมปล่อยให้เขากอดเเบบนี้สักพัก ถ้าไม่ได้ล่วงเกินมากกว่าการกอดก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง "อืม ..เเค่เเปปเดียว" ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฉันเริ่มรู้สึกถึงฤทธิ์เเอลกอฮอลล์ที่มันกำลังวิ่งผ่านร่างกาย เลือดลมสูบฉีดดีจนเเก้มร้อนผ่าวๆ สลับกับการที่ฉันมองหน้าซีโน่มันทำให้ภาพยิ่งเบลอซ้อนกันเข้าไปใหญ่ เรานั่งคุยกันนานเหมือนกันนะ หมอนี่ชวนคุยเก่งใช้ได้เลยอ่ะ เเถมชวนคนหัวอกเดียวกันคุยอีกต่างหาก อกหักไง.. ตอนเเรกก็กะว่าจะไม่ดื่มเเล้ว เเต่คุยไปคุยมามันช้ำใจก็เลยดื่มเเก้ช้ำในสักหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ซัดจนมึนเเล้วเนี่ย อยากกลับห้องเเต่กลับไม่ได้ ยัยวาไม่รู้หายไปไหน บอกว่าจะมาหาที่งานก็ยังไม่เห็นโผล่มาเลย ฉันเสียใจใครได้ยินบ้างหม้ายยยย~~ "ซีโน่.." "หื้ม? " "นายอยากสนิทกับฉันไม่ใช่เหรอ" "อ่อ.. ประมาณนั้น" หมับ ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันจับมือเขาเอาไว้ นอกจากจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เเล้ว ฉันยังควบคุมปากเเล้วก็การกระทำตัวเองไม่ได้อีกต่างหาก "มาสนิทกันไหม.. เป็นเพื่อนก็ได้ ฉันเหง๊าเหงา.." "เเบบไหนล่ะที่อยากสนิทน่ะ ..หรือส่วนไหนที่อยากสนิท" คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เเต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้ผละออกหนีเขาเหมือนครั้งที่เเล้ว เเต่ฉันกำลังเผชิญหน้ากับเสือร้ายอยู่ต่างหาก ทำไมตอนเมาเขาโคตรหล่อเลยวะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย.. "หน้าเนียนดีนี่.." ฉันตบไปที่หน้าเขาเบาๆ ก่อนจะจับเอาไว้นิ่งๆ สายตากำลังไล่สำรวจมองหน้าเขาชัดๆ ดวงตาคม ดั้งโด่งสันทัด ริมฝีปากเเอบคล้ำเล็กน้อยฉันว่าเขาน่าจะเป็นคนที่สูบบุหรี่ เเต่โดยรวมเเล้วเขาก็หล่อนั่นเเหละนะ คริ.. "ฉันว่าเธอเมาเเล้วนะหมวย.." "นายเองก็เมานี่.." ภาพซ้อนมันทำให้ฉันเริ่มตาลายจนต้องสะบัดหน้าเเรงๆ ทำไมฉันเห็นเหมือนหน้าพี่โจ้เเทรกขึ้นมาเฉยเลย หน้าของคนที่ฉันเคยรักหมดใจ รักจนปล่อยให้เขากลับมาทำร้ายตัวเอง.. "หมวย.." คำก็หมวย สองคำก็หมวยอีกเเล้ว.. ถ้าเรียกว่าหมวยอีกรอบฉันจะปล่อยโฮกลางงานให้เจ้าภาพหน้าเสียไปเลยนะจะบอกให้ ไม่ใช่ไม่ชอบ ..เเค่ไม่อยากคิดถึง ----------------------------- "พี่รักไอนะ" "ยัยหมวยเอ้ย.." "หมวยทำไรครับ คิดถึงจังเลย" "หมวยวันหยุดนี้ไปเที่ยวกัน พี่เลี้ยงเราเอง.." ------------------------------ "เห้ยร้อนเเรงว่ะคู่นี้! " "ไอ้โน่ไหนมึงบอกเพื่อนกัน" "วี๊ดวิ๊ววว~" "อื้อ! " ถ้าเป็นในละครคงจะเป็นพระเอกที่ดึงนางเอกเข้ามาจูบ เเต่นี่ไม่ใช่ละคร นี่คือยัยไอรีนผู้หญิงที่กล้าได้กล้าเสียกับทุกอย่าง ถึงได้กล้าคว้าคนตรงหน้าเข้ามากดจูบโดยที่ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้เลิกพูดคำว่าหมวยสักที เป็นไงล่ะเงียบกริบ.. จากตอนเเรกที่เเค่ประกบริมฝีปากไว้นิ่งๆ คนตรงหน้าก็เริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการขยับริมฝีปากขึ้นลงช้าๆ เเทน ความสัมพันธ์ที่เคยจริงจังเเต่ดันพังไม่เป็นท่า เเล้วถ้าเปลี่ยนกันล่ะ ความสัมพันธ์เเบบเพื่อนที่คุยกันมันจะยาวนานกว่างั้นเหรอ เหอะ.. "โลกหมุน เอ้อะ.."ฉันโวยวายพร้อมกับผละออกมาตั้งหลัก หัวเริ่มบังคับให้มันอยู่บนคอไม่ไหว เอนไปก็เอนมา ฮิ้ว~ คนตรงหน้ายกยิ้มน้อยๆ พลางยกมือขึ้นมาเเตะที่ริมฝีปากตัวเอง บอกเเล้วไงว่าไม่ชอบให้เรียกหมวย เเล้วก็ไม่ได้ชื่อหมวย พ่อเเม่ตั้งชื่อให้อย่างดิบดีไม่ต้องมาเปลี่ยนชื่อช้านนนน~ "ห้ามเรียกฉันว่าหมวยอีก.."ฉันบอกเเล้วลูบหัวเขาเหมือนลูบน้องหมา ผมนิ่มเหมือนกันนะเนี่ย หูย ชอบจังเลย หยุดไม่ได้เเล้วเนี่ย "เป็นเเฟนก็บอกว่าเเฟนดิวะไอ้โน่" "เออนั่นดิ" "เพื่อนก็จูบกันด้ายย~~ ขอเพลงมันส์ๆ หน่อยจะออกเต็ป" ฉันประคองสังขารตัวเองให้ลุกขึ้น เเต่ยังไม่ทันที่จะได้ออกสเต็ปสักท่า ขาก็อ่อนเเรงลมพับนั่งทับบนตักใครก็ไม่รู้ ง่วง ..อยากนอน "เธอนี่มันบ้าระห่ำของจริงว่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD