ข้าใช้ปากป้อนเจ้าเอง

1524 Words
"ข้าจะนอนแล้ว เจ้าออกไปได้แล้ว ” “ จะให้ออกไปไหนนี้ห้องข้า ” “ อ่าว แล้วเจ้าจะนอนตรงไหน ” “ หยุดพูด แล้วนอนสะ ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ ” ด้วยร่างกายที่ยังอ่อนเพลีย นางจึงหลับไปอย่างง่ายดาย และเฉาเฟิงก็ยังคงนั่งมองนางอยู่ไม่ลุกไปไหน ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม “อือออ” สายตาคมจ้องไปที่ร่างบางที่อยู่ๆ เกิดนอนกระสับกระส่ายครางเสียง อือ ออกมา “อือออ” ชายหนุ่มจึงลุกไปดูนางใกล้ๆ เขาเอือมมือไปเตะแก้มและหน้าผากของนาง “ตัวร้อนมากเลย ใครอยู่ข้างนอกบ้างเข้ามาหน่อย” นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้ามา เฉาเฟิงสั่งให้เอายา เตรียมน้ำและผ้ามาเช็คตัวให้นาง “พวกเจ้าเช็คตัวให้นางก่อน เสร็จแล้วเรียกข้า” “ เจ้าค่ะ ” เฉงเฟิงออกมายืนรออยู่ด้านหน้าห้องของตนเอง เขาเดินไปเดินมาคิดในใจถ้าตนเองใช้พลังได้ คงจะช่วยให้นางหายไข้ได้แล้ว "เช็คตัวเสร็จแล้วเจ้าค่ะ" "ส่งยามาให้ข้า" เฉงเฟิงรับยามาจากนางกำนัลเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งลงที่ขอบเตียงสังเกตสีหน้าที่ซีดเซียว นอนหลับตา กระสับกระส่ายตัวสั่นคิ้วขมวดด้วยอาการไข้ขึ้น "ชีเหนียง กินยาก่อน" เขาเรียกนางเบา ๆ ค่อยๆใช้ช้อนป้อนยานาง แต่ไม่สำเร็จชีเหนียงนางหันหน้าไปมาจนชนยาหก เขาจึงวางยาลงจับหน้านางให้อยู่นิ่ง ใช้ช้อนตักยามากรอกใส่ปากนาง แต่ยากลับไหลออกมาเพราะนางไม่ยอมกลืนลงไป "เจ้านี้มัน" เชาบ่นอุบหันไปหยิบผ้ามาเช็คยาที่หกให้นาง ต้องวิธีนี้แล้วล่ะ เฉาเฟิงใช้แขนประคองต้นคอนางขึ้นมาจากเตียงนิดหน่อย ยกแก้วยาขึ้นกระดกข้างปากตน และกดปากตนเองลงบนปากนางโดยใช้มืออีกข้างบีบแก้มเบาๆ ให้ริมฝีปากนางเปิดออก แล้วปล่อยยาเข้าไปในปากนาง แต่นางยังคงไม่กลืนยาลงไป เขากลัวว่ายาจะไหลออกมาอีก จึงรีบสอดลิ้นเข้าไปในช่องปากของนางทันที ลิ้นของเขาเกี่ยวรัดลิ้นของนางอย่างเร้าร้อน จนนางกลืนยาลงคอไป แต่ชายหนุ่มยังไม่ถอนปากออก "อืม......" เฉาเฟิงครางกระหึ่มอยู่ในลำคออย่างพอใจ ลิ้นของเขายังคงหยอกล้อนำพาไปทั่วทั้งช่องปาก มันช่างยาวนานจนนางแทบจะหายใจไม่ออก เขาจึงถอนริมฝีปากออก จ้องมองใบหน้าที่เริ่มมีสีแดงระเรื่อ ร่างบางเริ่มหายใจแรง นางลืมตาขึ้น ทั้งสองสบตากัน เป็นเฉาเฟิงก้มลงไปจูบนางอีกครั้ง แต่หญิงสาวหลับตาลงแล้วหลับไป เขาเห็นดังนั้นจึงถอนจูบขึ้นมา ยิ้มอย่างเอ็นดู เขี่ยไรผมที่ปกคลุมใบหน้า แล้วจัดท่าให้นางนอนลง แต่แขนอีกข้างของเขาที่ใช้ลองต้นคอ นางยังคงนอนทับอยู่ เฉาเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเอียนตัวลงนอนข้าง ๆ นาง โดยเขานอนนิ่งไม่กล้าที่จะขยับ เพราะนางนอนทับแขนอยู่ แต่เป็นตัวนางเองที่พลิกตัวมากอดเขา ตอนนี้ใบหน้านางแนบอยู่กับอกเขา แขนเล็กๆ ของนางกอดชายหนุ่มแน่น เพราะเริ่มหนาวจากพิษไข้ เฉาเฟิงใบหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นตึก ๆ แต่พยายามข่มอารามณ์ไว้ คิดว่าถ้านางตื่นมาแล้วรู้เรื่องที่เขาทำทั้งหมดนางจะว่าไงบ้างนะ แล้วเขาก็ผล็อยหลับไป วันรุ่งขึ้น ชีเหนียงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปกติหายไข้ พบว่าตนเองกำลังกอดเฉาเฟิงอยู่ แต่นางยังไม่ลุกออกในทันที กลับนอนมองหน้าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาค้นหา นางกำลังจะเอานิ้วเขี่ยไปที่ปลายจมูกของเขาอย่างลืมตัว แต่เฉาเฟิงเกิดขยับตัว นางตกใจจึงรีบดีดตัวลุกขึ้นมาในท่านั่งและมองกลับไปยังคนตัวใหญ่เขาก็ยังคงนอนนิ่งอยู่ "ตกใจหมดเลย คิดว่าจะตื่นซะแล้ว แต่เอะ ทำไมข้าถึงมานอนกอดเขาอยู่แบบนี้นะ" ชีเหนียงนั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ (เมื่อคืนฉันกินข้าว กินยา แล้วก็มานอน อืมม แล้ว…) ภาพก็ผุดขึ้นมาในหัวลางๆ ใบหน้าชายหนุ่มที่กำลังจูบนางอยู่ ชีเหนียงเอามือเตะปากตนเอง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที "ไม่จริงหรอก ไม่ใช่หรอกมั่ง ฝันไปแน่ๆ เลย ชีเหนียง" นางพึมพำกับตัวเอง นางจึงหันไปปลุกตัวที่นอนอยู่ "เฉงเฟิง เฉาเฟิงเจ้ามานอนบนนี้ได้ยังไง" "ฮือออ อย่ากวน" เฉาเฟิงบ่นออกมาด้วยความงัวเงีย เพราะกว่าเขาจะได้นอนก็ค่อนคืนแล้ว " นี้ อะไรของเขาเนีย นอนขวางอยู่จ้าจะออกยังไง" ชีเหนียงใช้มือเขย่าคนตัวใหญ่ แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ นางจึงตัดสินใจยกขาก้าวข้ามตัวเฉาเฟิงไป แต่… ตุ๊บ !! "โอ้ยยย" เป็นเสียงนางเองที่หล่นจากเตียงทั้งที่ตั้งใจแค่จะก้าวขาเพื่อจะข้ามผ่านตัวเค้าไป เพียงเพราะขาสั้นๆ ของนางที่เท้ายังเตะไม่ถึงพื้นทั้งตัวก็หล่นลงมาแล้ว นางยังคงนอนคว้ำแนบกับพื้นมืออีกข้างก็จับสะโพกไว้ "คึ……" เฉาเฟิงกำลังกลั้นขำเอาไว้จนหน้าเริ่มแดง ชีเหนียงก็รับรู้ได้ว่าเป็นเสียงเขาเองที่กำลังกลั้นขำอยู่ นางจึงรีบลุกขึ้น และมองไปที่เขา พร้อมกำมือทุบลงไปที่อกอย่างเเรง "โอ้ย อะไรของเจ้า" "ข้าเรียกเจ้าตั้งหลายครั้ง แต่ยังแกล้งหลับต่อไม่หลีกทางให้จนข้าตกเตียง" “ ข้าพึ่งจะตื่น ตอนได้ยินเสียงบางอย่างตก ” เขาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ "แล้วเจ้าไปนอนบนเตียงได้ยังไง ไหนบอกจะนอนเฝ้าอยู่ตรงนู้น" "ก็เป็นเจ้าไง ไข้ขึ้นนอนกระสับกระส่ายข้าทนดูไม่ได้ เลยเอายามากรอกปากเจ้า แต่เจ้ากับกอดข้าแน่นไม่ยอมปล่อยข้าเลยต้องนอนให้เจ้ากอดอยู่ไง" "จริงเหรอ ข้านี้นะ ” ชีเหนียงพยายามนึก แต่ภาพที่ผุดขึ้นมากับเป็นภาพที่ทั้งสองกำลังจูบกัน "จริงสิ หน้าไม่อายกอดบุรุษไม่ยอมปล่อย" นางได้ฟังดังนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาทันที "ข้าไม่รู้สึกตัวเพราะไข้ขึ้นต่างหากเล่า ไม่ได้อยากจะกอดเจ้าสักหน่อย หยุดพูดเลยนะ ” "ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยถ้าเจ้าอยากกอด" "ใครอยากกอด หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วทำไม่ต้องเอายากรอกปากข้า ให้ข้ากินดีๆ ไม่ได้หรือไง" ชีเหนียงนางยังคงยืนเถียงกับคนตัวใหญ่ที่นั้่งอยู่ตรงขอบเตียง "ถ้าเจ้ากินดีๆ ได้ข้าจะกรอกทำไมล่ะ เจ้าดิ้นไปดิ้นมา ยาก็ไม่ยอมกลืน ข้าเลยใช้ปากป้อนยาให้เจ้า" ซึ้งประโยคท้ายเฉาเฟิงตั้งใจพูดให้เบาลงจนแทบจะไม่ได้ยิน "อะไรนะ เจ้าพูดว่าป้อนอะไรนะ ” นางจึงถามย้ำอีกครั้ง "ข้าบอกว่าเจ้าไม่ยอมกลืนยา ข้าเลยใช้ปากป้อนและใช้ลิ้น" แค่นางได้ยินว่าเขาใช้ปากนางก็ตกใจจนดวงตาเบิกโพลง ประโยคต่อมาที่บอกว่าใช้ลิ้นนางยิ่งตกใจจึงเอามืออุดปากเฉาเฟิงไว้อย่างลนลาน ขณะที่มือเรียวปิดปากเขาอยู่นั้น ดวงตานางเหม่อลอยภาพนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวอีก "ฉันไม่ได้ฝันหรอเนี้ย" นางพึมพำกับตัวเอง เฉาเฟิงจับมือที่ปิดปากเขาออก "นี้เจ้าเก็บเอาไปฝันเลยรึ" "ไม่ใช้สักหน่อย เจ้า…. เจ้ามันฉวยโอกาส กับคนป่วย" นางเริ่มเอามือทุบตีแก้เขิน เเต่เฉาเฟิงก็พยายามจะจับข้อมือนางไว้ จนสามารถจรวบข้อมือคนตัวเล็กให้อยู่นิ่งๆ ได้ ทั้งสองสบตากันอีกครั้ง เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างขัดจังหวะ "นายท่านขอรับ" ไปรุ่ยเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มให้เสียง ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางต้นเสียงนั้นพร้อมกัน "ฝากไว้ก่อนเถอะ" ชีเหนียวจึงรีบสบัดมือให้หลุดออก และเดินออกจากห้องไป "บ้าน่า นี้จ้าเขินหรอ ไม่จริงๆ ไม่ได้เขิน มันเป็นเเค่การป้อนยา การป้อนยาเพื่อช่วยชีวิตไง" นางพูดคนเดียวระหว่างเดินกลับห้องพร้อมส่ายหัวไปมาไล่ความคิดนั้นออกจากหัว "แล้วไปทางไหนเนี้ย เจ้า เจ้าสองคนนั้น ข้าจะกลับห้อง คือต้องไปทางไหน" ชีเหนียงเอ๋ยถามนางกำนัลที่เจอระหว่างทาง "ตามพวกเรามาทางนี้เจ้าค่ะ" และนางก็เดินตามนางกำนัลกับห้องไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD