ตอนที่ 7
เทพสงครามซีฮ่าว ได้กลับไปรายงานต่อองค์เง็กเซียน เรื่องที่เจอตัวราชาปีศาจเฉาเฟิง ที่เผ่ามนุษย์นั้น จากการที่ได้ต่อสู่กัน ราชาปีศาจเฉาเฟิงไม่มีพลังใดเลย ข้างกายเขายังมีสตรีที่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งอยู่ด้วย และที่ราชาปีศาจทำลายผนึกออกมาได้นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่
เมื่อทราบดังนั้นจึงให้ เทพสงครามค่อยจับตาดูราชาปีศาจเฉาเฟิงไว้ก่อน เขาคงจะไม่ทำอะไรผลีผลามตอนนี้ และยังต้องสืบเรื่องที่ผนึกถูกทำลายนั้นต่อไป เพราะไม่มีทางที่ราชาปีศาจจะทำลายผนึกออกมาเองได้ จะต้องมีใครที่รู้วิธีแล้วช่วยเขาไว้เป็นแน่
ณ เผ่าปีศาจ
เมื่อเท้าเหยียบย่างเข้ามายังวังปีศาจที่เฉาเฟิงเคยอาศัยอยู่ ที่นี้ดูทรุดโทรม แต่ยังคงสภาพพออยู่ได้และยังมีปีศาจอาศัยอยู่บ้าง พื้นดินดูแห้งแล้งไร้พืชพันธ์ ท้องฟ้าหม่นหมอง เฉาเฟิงยืนมองอยู่หน้าวังครู่หนึ่ง นึกภาพไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อนครั้งที่เขายังอยู่ ถึงที่นี้ถึงจะเป็นเผ่าปีศาจ แต่สภาพแวดล้อมเมื่อก่อนนั้นพื้นดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ต้นไม้นานาชนิด สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ปีศาจทุกตัวอยู่กันอย่างสงบสุข ก่อนจะเกิดสงครามเพราะพวกเผ่าเทพที่ค่อยรุกรานขมเหง และยังมาขวางยึดครองแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไปนั้น ทำให้ผู้คนเผ่าปีศาจต้องเดือนร้อนจนเป็นแบบนี้
"คุณจะพาฉันมาด้วยทำไม"
"ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นั้น และพวกเผ่าเทพรู้ว่าเจ้าเป็นมนุษย์ที่ทำสัญญาเป็นข้ารับใช้เผ่าปีศาจ เจ้าก็ต้องถูกพวกนั้นลงโทษ"
"แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำสัญญา บรรพบุรุษฉันนู้น เป็นคนทำ แล้วทำไม่เวรกรรมตามมาตกที่ฉันด้วยเล่า มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ"
เฉาเฟิงเอามือกุมขมับ เมื่อฟังเสียงของชีเหนียง สายตาคมตวัดมองหน้านาง ( นางช่างดื้อรันเสียจริง ) เฉาเฟิงคิดใจพลาสายหัวเบา ๆ
ไป่รุ่ยเมื่อเห็นท่าทีของเฉาเฟิงเช่นนั้นก็คิดว่าชีเหนียงทำให้ราชาปีศาจของตนไม่พอใจ จึงชักกระบี่ขึ้นมาจี้ไปที่คอนาง ชีเหนียงตกใจจึงรีบหยุดพูดทันที
"ให้ข้า ฆ่านางทิ้งเลยหรือไม่ขอรับ" เฉาเฟิงรีบยกมือห้าม
"ไม่ต้อง ให้นางกำนัลที่ยังอยู่หาที่พักให้นาง แล้วเจ้าไป่รุ่ยมาคุยกับข้าก่อน"
"ขอรับ" ไปรุ่ยรับคำสั่งและให้นางกำนัลไปพาตัวชีเหนียงไป
เมื่อชีเหนียงถูกนางกำนัลพาตัวไปแล้วนั้น ไปรุ่ยคุกเขาทั้งสองลงกลับพื้นเอามือแตะหน้าผากก้มคาราวะราชาปีศาจเฉาเฟิงตามที่สืบทอดกันมา
"ลุกขึ้นเถอะ หญิงคนนั้นนางมีสัญญาลักษณ์ข้ารับใช้อยู่บนตัวนาง เจ้าก็เห็นใช่ไหม และตอนที่ข้าออกมาจากผนึกนั้นได้ นางก็อยู่ที่นั้นด้วย ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนาง"
"อย่างไงหรือขอรับ"
" อันนี้ข้าก็ยังไม่แน่ใจนัก และตั้งแต่ข้าออกมาจากผนึกข้าไม่สามารถใช้พลังได้ ไฟโลกันต์ข้าก็เรียกมันออกมาไม่ได้ แต่เมื่อใดที่นางมีภัย พลังทั้งหมดของข้าก็กลับมาใช้ได้อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง และไม่นานมันก็หายไปอีก"
" หรือมันจะเป็นแผนอะไรของเผ่าเทพหรือเปล่าขอรับ"
"ที่ข้าดูแล้วนางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ข้าจึงอยากเก็บนางไว้ก่อน"
"แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนข้าเจอ ข้ารับใช้คนหนึ่งเขาเป็นผู้ชายขอรับ"
"ไหนเจ้าลองเล่ามาให้ข้าฟังสิ"
"ขอรับ ชายคนนั้นชื่อ เวิน อี๋เจ๋อ เขาเล่าให้ข้าฟังว่า มีบุตรสาวอยู่คนหนึ่งเกิดมาร่างกายอ่อนแอไม่แข็งแรงป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เมื่ออายุได้ 8 ขวบ อาการเด็กคนนั้นแย่ลงและกำลังจะตาย เขาจึงเดินทางมาถึงเผ่าปีศาจของเรา และใช้คำขอต่อตราสัญญาลัษณ์ ให้ลูกสาวของเขาหายป่วยและร่างกายกับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติทั่วไป ตั้งแต่ตอนนั้นข้าก็ไม่ได้เจอชายคนนั้นอีกเลยขอรับ"
"นางสกุลเวิน งั้นแสดงว่าชีเหนียงคือบุตรสาวของ เวิน อี๋เจ๋อ ผู้นั้น แต่ตรานี้ส่งต่อมายังทายาทได้คือคน ๆ นั้นได้ตายไปแล้ว" เฉาเฟิงพูดจบแล้วถอนหายใจยาว
"เป็นเช่นนั้นขอรับ"
" เจ้าช่วยไปสืบเรื่อง อี๋เจ๋อ ให้ข้าก่อนเขาตายได้ยังไง และเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนอย่าพึงให้นางรู้ "
"ขอรับ"
ชีเหนียงเดินตามนางกำนัลมาสักระยะหนึ่งก็ถึงห้องพัก ห้องพักนี้อยู่บริเวณที่พักของพวงนางกำนัลทั้งหลาย เมื่อนางเข้ามาด้านในเพื่อพักผ่อนได้อยู่คนเดียวตามลำพัง ในใจพลันนึกถึงพวกอาฉี อาเฟย ลุงเกา นางโดนเฉาเฟิงพามาด้วยแบบนี้ทุกคนคงต้องเป็นห่วงนางอยู่แน่ ร่างบางได้แต่นั้งถอนหายใจยาว
"คงต้องหาทางหนีแล้วแหละ"
พอคิดได้ดังนั้น ชีเหนียงจึงค่อย ๆ ย่องไปแอบดูที่ตรงหน้าประตูห้อง กับพบว่ามีนางกำนัลอยู่ด้านนอกนั้นสองคน
"หรือเฉาเฟิง จะรู้ทัน"
ชีเหนียงถอนลมหายใจอีกหนึ่งรอบ นางล้มเลิกความคิดที่จะหนีชั่วคราว เดินกลับมายังที่เตียงนอนล้มตัวลงนอนคิดอะไรเรือยเปื้อยจนคล้อยหลับไป
ชีเหนียงงัวเงียตื่นขึ้นมาเป็นเวลาสายของอีกวัน ก็พบอ่างน้ำแล้วเสื้อผ้าชุดใหม่ นางจึงชำระร่างกายเปลี่ยนชุดใหม่ตามที่นางกำนัลพวกนั้นจัดไว้ให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเปิดประตูออกมา
"เฉาเฟิงอยู่ไหนหรอ" นางกำนัลมองหน้านางนิ่ง
"สงสัยไม่เข้าใจที่ฉันพูด เออ.. ข้าถามว่าราชาปีศาจเฉาเฟิงของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน พาข้าไปหาเขาหน่อยได้ไหม" นางพยายามพูดคำพูดให้เหมือนคนที่นี้ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนางจึงพอพูดได้
“ เอ๊ะ ชุดนี้ ชุดพวกเธอ เอ้ย เจ้าเหมือนกับชุดที่ข้าใส่เลย อ๋อ ที่ข้าใส่คือชุดนางกำนัลแบบพวกเจ้าใช้ไหม " (นี้เขาจะให้ฉันเป็นข้ารับใช้ให้ได้จริงๆ เลยใช้ไหม) ชีเหนียงบ่นอุบอยู่ในใจ
" ใช่เจ้าค่ะ"
"ตกลงเฉาเฟิงอยู่ที่ไหน"
"อยู่ที่ห้องโถงเจ้าค่ะ"
"แล้วห้องโถงไปทางไหนล่ะ"
" ทางที่พวกเราพาท่านเดินมาเมื่อวานเจ้าค่ะ เดินตรงไปทางนู่นเจ้าค่ะ"
หนึ่งในนางกำนัลนั้นกล่าวและชี้มือไปให้ชีเหนียงดู ชีเหนียงมองตามมือนางกำนัลผู้นั้นที่ชี้ทางให้
"เดี๋ยวพวกเรานำทางไปเจ้าค่ะ"
"ม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวฉันไปเอง แค่นี้เองข้าเดินไปได้"
"เจ้าค่ะ "
ชีเหนียงหันหลังรีบเดินออกมา นางเดินได้สักยี่สิบก้าวจึงหันกับมาดูไม่มีนางกำนัลตามมาสักคน นางมองไปรอบ ๆ ความคิดที่จะหาทางหนีออกไปก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
"เอาล่ะ ใช้โอกาสนี้แหละ ทางสะดวกแล้ว" นางเปลี่ยนเส้นทาง พยายามเดินหาทางที่จะออกจากวังปีศาจนี้
"ทางโล่งดีจัง อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีปีศาจอยู่แล้วสินะ" นางคิดไปเรื่อยระหว่างทางที่เดิน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปตามทาง สองข้างผนังสูงลวดลายแปลกตา ลายคล้ายคล้ายกันไปหมดจนนางเริ่มเหนื่อยและจำทางไม่ได้
"เห้อ ตาย ตาย ตาย เสียชื่อหมดเดินบุกป่าฝ่าดงมาตั้งมากมายจะมาหลงอยู่ในวังปีศาจไม่ได้นะ หรือจะเป็นภาพลวงตากันนะ" ชีเหนียงบ่นพึมพัมกับตัวเอง สายตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ แล้วเดินต่อ
"นั้น จะเป็นประตูออกจากที่นี้ไหมนะ"
นางเดินมาจนสุดทางในที่สุดก็พบประตูบานใหญ่ยักษ์ จึงค่อย ๆ เปิดประตูออกและย่องเข้าไปสำรวจ พบว่าเป็นห้องโถงเพดานสูงกว้างขวาง ตรงกลางมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ และไม่มีพวกปีศาจอยู่ในนี้ นางจึงเดินสำรวจดูรอบ ๆ โถง จนมาหยุดอยู่ริมขอบสระน้ำ มีไอบาง ๆ ระเหยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำ
ชีเหนียงชะโงกหน้ามองลงไปในสระ คล้ายๆ ว่าจะมีบางเคลื่อนไว้ช้า ๆ ที่ก้นสระ แต่เพราะไอระเหยที่ลอยอยู่บนผิวน้ำทำให้มองไม่ชัด นางจึงคุกเข่าลงใช้มือปัดไอน้ำนั้นเบาๆ ไอน้ำจึงปลิวหายไปตามแรงลมที่นางปัด ทำให้นางมองเห็นก้นสระได้ชัดขึ้นจนดวงตานั้นเบิกโพลงตระลึงค้าง