Chapter 01

1769 Words
* ทุกตัวละครมีเหตุผลการกระทำ ไม่ตรงจริตกดออกได้เลยค่ะ * ระดับเสียงดนตรีดังกระหึ่มในสถานบันเทิงหรูมากไปด้วยผู้คนไม่ได้เป็นปัญหาในการได้ยินของคนที่คลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เรียนจนกลายเป็นเส้นทางสายอาชีพอีกหนึ่งอย่าง ทว่าประโยคที่เพิ่งออกมาจากปากเพื่อนสนิทเมื่อสักครู่นั้นทำเอาราชันถึงกับต้องเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตนเองไม่ได้หูฝาด “เมื่อกี้มึงพูดว่ายังไงนะ...” “กูจะขอพาจันทร์แต่งงาน ไหน ๆ บ้านเราก็มีสัญญาใจร่วมกันอยู่แล้ว ว่าจะให้ลูกหลานทั้งสองตระกูลแต่งกัน” เจ้าของประโยคเน้นย้ำอีกครั้ง ระบายยิ้มแห่งความสุขออกมาขณะที่พูดเปี่ยมล้น เนื่องจากไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปมากกว่านี้แล้ว ‘เพลิงกัลป์’ หนุ่มหล่อนักธุรกิจไฟแรง บ้านรวยเจ้าของฉายาเจ้าชู้ตัวพ่อ ควงดารานางแบบมาหมดแล้วแทบเกือบจะทั้งวงการ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันหนึ่งจะได้ยินประโยคเช่นนี้ออกมาจากปากของตัวเอง หากแต่เขาก็ยอมหยุดแล้วมุ่งหน้าตามจีบตามตื้อคนที่เปรียบเสมือนเป็นแรกรักของตนเองมานาน จนในที่สุดหญิงสาวก็ยอมตอบตกลงคบหากัน จากวันนั้นถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะสองปีได้แล้วที่เขารักและซื่อสัตย์มีเพียงแค่พาจันทร์คนเดียวมาตลอด รวมทั้งโครงการที่รับผิดชอบอยู่ในมือนั้นเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ถ้าผ่านมันไปได้ด้วยดีอย่างไรตำแหน่งประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าบิดาก็ต้องส่งต่อให้เขาที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียว นั่นเท่ากับว่าตอนนี้เพลิงกัลป์พร้อมที่จะดูแลอีกฝ่ายแล้วจริง ๆ เสียที “ไม่เร็วไปหน่อยเหรอวะ พวกมึงเพิ่งคบกันเข้าปีที่สองเองนะ” “จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่กูค่อนข้างมั่นใจในรักครั้งนี้มากเลยว่ะ ว่าเราจะไปด้วยกันรอดแน่นอน” “อ่า... มึงอยากมีลูกสิไม่ว่า” ทำไมราชันถึงจะไม่รู้ว่าเพื่อนตัวดีที่อดีตเคยไปสุดทุกทางอยากมีลูกสาวมากแค่ไหน ก็คนมันเจ้าชู้มาก่อน นี่คงจะเป็นสิ่งเดียวที่พระเจ้าสามารถลงโทษเพื่อนที่นั่งตรงกันข้ามได้ แล้วที่ผ่านมาเพลิงกัลป์ก็ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนไม่แปลกที่เพื่อนเขาจะควงไปเรื่อย พอวันหนึ่งหาที่ลงหลักปักฐานได้ก็อยากจะมีลูกสาวเสียอย่างนั้น แบบนี้คงจะได้ตามหวงลูกเป็นหมาบ้าอย่างที่เคยไปทำให้คนอื่นเขาหลงแล้วตอกหน้ากลับไปด้วยคำพูดร้ายกาจว่าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ถ้าพาจันทร์ยังไม่พร้อม ยังไงกูก็รอเขาได้” “แล้วได้บอกอคินมันหรือยัง บินไปทำงานจนลืมเพื่อนลืมฝูงแล้วมั้ง” “กลับไปว่าจะโทรคุยกับมันอยู่” “ที่ไปตรวจร่างกายมาวีคก่อนก็เพราะแบบนี้ใช่ไหม” “เออ ก็เราอายุจะเลขสามแล้วไหม อีกอย่างม๊ากูก็ยิ่งรบเร้าเรื่องนี้ด้วย บอกกลัวแก่ตายก่อนจะได้อุ้มหลาน เป็นมึงจะไม่กดดันเหรอ เผลอ ๆ ตำแหน่งประธานกูอาจจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้ายังไม่ยอมมีหลานให้คุณหญิงเขาสักที” ราชันลอบยิ้มขำกับประโยคที่เพื่อนกล่าวออกมา แต่มันก็ไม่ได้ไปถึงดวงตา ก่อนเขาจะเลือกสลัดความคิดในหัวออกแล้วยกแก้วของมึนเมาสีอำพันขึ้นดื่ม ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรที่คนไม่ค่อยจะมีเวลาถึงโทรเรียกให้เขาออกมาดื่มด้วยกันที่บาร์ซึ่งเราเป็นหุ้นส่วนกันอยู่ “ป๊ามึงก็เอ็นดูพาจันทร์นี่ แต่งไปยังไงเขาก็ต้องยกตำแหน่งให้มึงแน่นอนอยู่แล้ว” “อือ ก็เอ็นดูทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ ยิ่งม๊าสนิทกับคุณน้าจันทร์วาดมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ” “พูดมาก็ยังสงสารคุณน้าจันทร์วาดไม่หาย ไม่คิดเลยว่าเห็นภายนอกเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น” “กรรมใดใครก่อ” “มันมีจริงไหมเถอะ กูยังเห็นคนพวกนั้นอยู่สุขสบายอยู่เลย มึงก็อย่าไปทำสันดานเหี้ยแบบนั้นกับลูกเมียนะ ถ้ามีแล้วอะ ไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงเอาไว้แน่” จันทร์วาดเป็นมารดาของฝาแฝดหญิง พาจันทร์และ ‘ขอจันทร์’ ซึ่งผิดหวังในความรักจนหล่อนตัดสินใจจบชีวิตตนเองลงเพื่อลาจากโลกใบนี้ไปตลอดกาล หากแต่ยังโชคดีที่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้นไม่ได้พรากเด็กสาวทั้งสองคนไปด้วย จะเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ก็คงจะไม่ผิด เพราะยานพาหนะของหล่อนชนเข้าที่คอสะพานอย่างแรงขนาดนั้น มีโอกาสน้อยมากที่ทั้งสามคนจะรอดมาได้ ทว่าเด็กแฝดกลับยังมีชีวิตหายใจรวยรินอยู่ในรถที่มารดาตั้งใจจะปลิดชีพไปพร้อมกัน สาเหตุมาจากบิดาของเด็กทั้งสองพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่จนจันทร์วาดเริ่มทัดทนต่อไม่ไหว เลยเลือกก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แต่เด็กที่รอดมาได้ก็ใช่ว่าจะโชคดีทั้งสองคน เพราะหนึ่งคนต้องแลกมาด้วยดวงตาที่มืดบอดสนิทจากเศษของบานกระจกรถ และไม่ใช่คนที่เพื่อนเขาตัดสินใจจะแต่งงานด้วย แต่ก็คงจะเอ็นดูเหมือนอีกฝ่ายเป็นน้องสาวอยู่มากโข “กูเคยเจ้าชู้ก็จริง แต่ไม่ได้มักมากแบบนั้น ถ้ามีเป็นตัวเป็นตนมึงเคยเห็นกูไปเอากับคนอื่นอีกหรือไง” “ไม่เคย แต่ถ้ามึงแต่งกับพาจันทร์แล้วขอจันทร์ล่ะ จะทิ้งให้น้องอยู่กับครอบครัวนั้นต่อไปเหรอวะ น่าสงสารมากเลยนะมึงก็เห็น” “พวกกูคงจะต้องคุยกับน้องอีกที เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นใครพูดน้องก็ไม่ยอมรับการรักษาเลยมึงก็รู้ ถ้าน้องได้กลับมามองเห็นอีกครั้งกูกับพาจันทร์ก็สามารถส่งน้องไปเรียนหรืออยู่ที่อื่นได้สบาย ๆ แบบที่ไม่ต้องร่วมชายคาเมียใหม่พ่อแบบนั้นที่มีส่วนทำให้แม่ตัวเองตายอีก” “ลองใช้จิตแพทย์ยัง บางทีน้องอาจจะมีปมอะไรในใจ” “น้องไม่เอาใครเลยนอกจากพี่เลี้ยง แล้วก็วาดรูปตามจินตนาการไปวัน ๆ” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาคล้ายกับว่ากำลังปลงตกเมื่อนึกไปถึงคนที่เขามักจะซื้อขนมติดไม้ติดมือไปฝาก ยามที่แวะเข้าไปหาคนรักซึ่งเป็นแฝดพี่ของอีกฝ่าย “ถ้าให้กูเดา คงจะคิดถึงแม่นั่นแหละ ยังไงมึงกับแฟนก็ช่วยกันตะล่อมเอา กูเชื่อว่าสักวันขอจันทร์คงจะหลุดออกมาจากตรงนั้นได้” “ขอโทษค่ะคุณเพลิง คุณราชัน แต่เมื่อกี้มีสายด่วนจากโรงพยาบาลโทรเข้ามา บอกว่าคุณพาจันทร์เธอประสบอุบัติเหตุค่ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลตามที่อยู่นี้เลยค่ะ” เพลิงกัลป์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช้ความเร็วของรถยนต์ไปเท่าไหร่ถึงสามารถพาตัวเองและเพื่อนที่นั่งข้างกายมาถึงที่หมายได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าห้อง ICU นั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพาจันทร์คงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการโคม่า นั่นทำเอาทุกอย่างตรงหน้าชายหนุ่มคล้ายกับว่ามันเป็นภาพเลือนลาง พร้อมทั้งหูสองข้างไม่ได้ยินเสียงเรียกจากใครมาตั้งแต่ตอนได้รับรู้ประโยคบอกกล่าวของพนักงานสาวที่บาร์ กระทั่งเป็นเสียงของราชันที่เอ่ยขึ้นถามครอบครัวของพาจันทร์จึงสามารถเรียกสติเขาให้กลับมาได้ “เกิดอะไรขึ้นครับ! ทำไมพาจันทร์ถึงประสบอุบัติเหตุได้” “คุณราชัน คุณเพลิง...” สุธินีภรรยาใหม่คนปัจจุบันของบ้านวัฒนากุลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งที่ในใจของหล่อนนั้นอยากจะหัวเราะเยาะและสมน้ำหน้าคนพวกนี้เต็มทน แต่คนอย่างเพลิงกัลป์นั้นถ้ายังอยากอยู่ดีสุขสบายแบบนี้ไปตลอดชีวิตก็ไม่สมควรจะเข้าไปยุ่งหรืองัดอะไรด้วยเป็นดีที่สุด “เป็นใบ้กันไปหมดแล้วหรือยังไง ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับแฟนผม!” “ไอ้เพลิง มึงใจเย็น ๆ ก่อน ผู้ใหญ่อยู่กันเยอะ” แม้จะกำลังรุ่มร้อนไม่ได้ต่างไม่จากเพื่อนข้างกาย ทว่าราชันก็เลือกที่จะหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบีบไหล่ของเพลิงกัลป์เพื่อเป็นการเรียกสติ เขารู้ว่าอีกคนเป็นห่วงแฟนสาวของตัวเองมากแค่ไหน แต่ทุกคนก็อาจจะยังช็อกไม่ได้ต่างกันเลยไม่มีใครกล้าจะกล่าวอะไรออกมา “คะ...คนขับที่พาฝาแฝดออกไปเข้านอกบอกว่าพาจันทร์กับขอจันทร์ทะเลาะกันจนมีปากเสียงค่ะ” “ว่ายังไงนะ” “ตามที่บอกเลยค่ะ พาจันทร์จะพาขอจันทร์ไปหาหมอเรื่องตา น้าคิดว่าพาจันทร์คงจะโกหกน้องให้ยอมขึ้นรถออกไปด้วย แต่พอขอจันทร์รู้ความจริงเข้าเลยโกรธจนมีปากเสียงกัน คนขับรถที่บ้านบอกว่าขอจันทร์สั่งให้จอดรถข้างทางเพราะไม่อยากไปต่อ จากนั้นทั้งสองก็ยื้อแย่งกันอยู่นาน เอ่อ... จนกระทั่งขอจันทร์คงจะทนไม่ไหว เป็นเหตุให้ขอจันทร์ผลักพาจันทร์ออกถนนตอนที่มีรถขับสวนออกมาด้วยความเร็วพอดีค่ะ” เพลิงกัลป์แทบจะล้มทั้งยืน พูดไม่ออกเมื่อได้ฟังในสิ่งที่แม่เลี้ยงของฝาแฝดกล่าวด้วยใบหน้าซึ่งกำลังเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไม่ได้ต่างไปจากเขา มือหนาบีบเข้าหากันแน่น สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อที่จะระงับสติอารมณ์ ปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างมันเป็นแค่อุบัติเหตุคงจะไม่มีใครอยากให้มันเกิด กระทั่งทุกอย่างผ่านไปพักใหญ่ และประโยคที่ทีมแพทย์กล่าวกับญาติ ๆ ซึ่งรวมตัวกันรอฟังอาการอยู่นั้นก็ทำเอาเพลิงกัลป์แทบจะสิ้นจะสติ “หมออยากให้ญาติทำใจนะครับ เพราะมีโอกาสรอดแค่ 50-50 เท่านั้น” TBC.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD