4
หญิงสาวมองไปยังผู้ชายที่นั่งทางด้านขวามือ เป็นชายหนุ่มอายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี สีหน้าและแววตาของเขาที่มองมายังเธอนั้น ร้อนแรงและจาบจ้วงยิ่งกว่าหมีตัวโตคนนั้นเสียอีก แลบลิ้นเลียริมฝีปากเวลาที่มองมายังใบหน้าของเธอ เป็นกิริยาที่น่าขยะแขยงสิ้นดี พอสาวชาวไทยมองมายังเสื้อที่เขาสวมใส่ เธอตัดสินใจทันทีเลยว่าไปนั่งที่เดิมดีกว่า เสื้อที่ชายคนดังกล่าวสวมใส่นั้น สกรีนเป็นรูปผู้หญิงเปลือยกาย เห็นสรีระทุกสัดส่วน หากเธอนั่งตรงนี้ก็ต้องเบี่ยงตัวไปหาชายหนุ่มคนนี้ ซึ่งมันแย่กว่านั่งที่เดิมเสียอีก
“ดิฉันกลับไปนั่งที่เดิมดีกว่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
พลอยพัตราเอ่ยขอบคุณและตัดสินใจเดินกลับไปนั่งที่เดิม แอร์โฮสเตสยิ้มสวยแล้วเดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง มีเรื่องหนึ่งที่แอร์สาวไม่ได้บอก เรื่องที่ว่านั้นก็คือสาเหตุที่ที่นั่งตรงนี้ว่างเป็นเพราะ เจ้าของที่นั่งเดิมเป็นสตรีวัยยี่สามสิบปีได้ขอเปลี่ยนที่นั่ง เนื่องจากทนอึดอัดกับที่นั่งที่ไม่สบายและสายตาหยาบโลนของผู้ชายที่นั่งข้างๆ ไม่ได้ แอร์สาวเลือกที่จะพาพลอยพัตรามาที่นั่งตรงนี้เพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน
“อ้าว...ไปไหนมาล่ะจ๊ะเพตราจ๋า”
เฟรเดอริคทำเสียงหวานปนยียวน หลังจากที่พลอยพัตรากระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม ใบหน้าของหญิงสาวงอง้ำ หันมามองคนที่พูดตาเขียวปัด นึกในใจว่า
‘นี่เธอต้องทนนั่งตรงนี้ไปจนถึงเมืองไทยจริงๆ หรือ มีหวังสติแตกแน่งานนี้’ มีทางเดียวที่ทำให้เธอไม่รู้ไม่เห็นสายตาของเขา ไม่ได้ยินเสียงของเขาก็คือ เธอต้องนอนหลับและหาอะไรมาปิดหูไว้ ไอพอดคือคำตอบของหญิงสาวตอนนี้ เธอนำหูฟังมาใส่ไว้ในรูหูทั้งซ้ายขวา ก่อนจะเปิดเพลงที่โหลดเก็บเอาไว้ให้ดังที่สุด เพื่อที่เสียงของเขาจะไม่ดังเข้ามาในหู พร้อมกับหลับตาลงหวังลึกๆ ว่าเธอจะหลับในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เฟรเดอริคเสียหน้าเล็กน้อยที่สาวหุ่นดีสรีระหน้าฟัดไม่มีทีท่าสนใจเขาเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ที่แทบจะวิ่งเข้ามาซบอก เขาหันไปมองหน้าสาวที่หลับตาพริ้มอย่างเพลิดเพลิน ใบหน้าของเธอยามหลับดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด เขาไล้สายตามองตั้งแต่หน้าผากกลมเกลี้ยงนูน ดวงตายาวรีปิดสนิท จมูกโด่งเรียวสวยและริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อน่าบดจูบ ตอนนี้เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ความกระหายอยากจะจูบเรียวปากอิ่มทำให้ปลายลิ้นหนายื่นออกมานอกริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเลียไปมา มองริมฝีปากสวยตาเป็นมันบ่งบอกถึงอารมณ์พิศวาส เฟรเดอริคแทบจะทนไม่ไหวอยากจะเลื่อนกายไปจูบปากหญิงสาวให้หนำใจ
คนที่แกล้งหลับใจเต้นตุ๊มๆ ต้อมๆ เพราะมีความรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธออยู่ ซึ่งสายตาคู่นี้เป็นของใครไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่ของหมีตัวโตนิสัยไม่ดีที่นั่งข้างๆ หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไร จะลืมตาก็ไม่กล้า จะแกล้งหลับต่อไปก็ไม่ไหว ทำไมการเดินทางกลับเมืองไทยของเธอในครั้งนี้มันถึงน่ากลัวอย่างนี้ พลอยพัตราโอดครวญอยู่ในใจ จนในที่สุดเธอก็แกล้งหลับต่อไปไม่ไหว เธอเปิดเปลือกตาแล้วใช้มือดึงหูฟังออก หันมามองหน้าคนที่จ้องเธอตาไม่กะพริบ
“คุณจะจ้องอะไรฉันนักหนา ไม่มีมารยาท” พลอยพัตราต่อว่าชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันมองเธอ ก็เธอหลับตาอยู่ไม่ใช่เหรอ หรือว่ามีตาทิพย์”
หนุ่มฝรั่งเศสย้อนถามกวนๆ คนที่ถูกย้อนอยากจะกรี๊ดใส่หูเขาให้แก้วหูแตก อยากจะนำนิ้วไปจิ้มตาเขาให้บอด ให้สมกับการยียวนกวนประสาทของเขา
“คุณนี่มัน...มัน”
สาวชาวไทยถึงกับพูดไม่ออก ด่าไม่เป็นก็ว่าได้ หอบหายใจแรงพยายามจะระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้สุดกำลัง คิดไปในทางที่ดีว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเมืองไทย และจะไม่เจอชายหนุ่มคนนี้อีกแล้ว แต่กว่าจะถึงนี่สิคือปัญหา คงได้ประสาทเสียหรือไม่ก็เส้นสมองแตกตายก่อนแน่ๆ
“เถียงไม่ออกเลยสิ”
ชายหนุ่มจอมกวนยังยียวนไม่เลิก แต่เธอก็เลือกจะเงียบไม่โต้ตอบ สอดหูฟังเข้าไปในรูหูอีกครั้ง แล้วหลับตาลงทำเป็นไม่สนใจเสียงนกเสียงกา ฝ่ายชายเมื่อเห็นว่าเธอไม่คิดจะแยแสเขา เขาก็ไม่จำเป็นที่จะแสดงความสนใจในตัวของพลอยพัตราอีกต่อไป คนอย่างเฟรเดอริคไม่เคยวิ่งตามผู้หญิงคนไหนก็เลิกสนใจเธอเช่นกัน
เสียงของเจ้าหน้าที่ในเครื่องบินประกาศให้ผู้โดยสารทราบว่า เครื่องบินกำลังจะลงสู่พื้นรันเวย์ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ผู้โดยสารทุกท่านคาดเข็มขัดนิรภัย เฟรเดอริคที่นอนหลับถูกปลุกด้วยเสียงของชิลล์ลูกน้องคนสนิท เพื่อที่จะให้เจ้านายของตนคาดเข็มขัดนิรภัย
พอเฟรเดอริคลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่า ศีรษะของตนเองนั้นอิงกับศีรษะของใครบางคนที่ซบลงบนหัวไหล่ของเขา ดวงตาคมเข้มปรายตามองเจ้าของศีรษะเล็ก ที่หลับตาพริ้มด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกดีไม่มีอาการรำคาญใจหรือตะขิดตะขวงใจ แต่อย่างใด เมื่อรู้และเห็นวาพลอยพัตราซบอิงหัวไหล่ของเขาแทนหมอน หากเป็นผู้หญิงคนอื่น ป่านนี้เขาผลักศีรษะให้ออกห่างหัวไหล่ของเขาแทบไม่ทัน เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังนอนหลับอิงหัวไหล่ของเขาอยู่ ถ้ารู้คงปรี๊ดแตกน่าดู
“เพตรา เพตราตื่นได้แล้ว เครื่องบินจะลงแล้ว”
เฟรเดอริคปลุกคนที่นอนหลับด้วยเสียง ส่วนมือก็เขย่าลำแขนของเธอเบาๆ คนที่ถูกปลุกลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมา สีหน้าของเธอฉงนเล็กน้อย เพราะมีความรู้สึกว่าเธอกำลังเอนศีรษะซบกับอะไรบางอย่างอยู่...บางอย่างที่ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่เธอเข้าสู่ห้วงนิทรา
พลอยพัตราหลุบตามองไปเบื้องล่าง สายตาหวานก็พบกับลำแขนของใครบางคน ก่อนที่เธอจะนึกทบทวนว่าใครคือคนที่เธอนั่งข้างๆ ด้วย แล้วคงเป็นเจ้าของ “บางอย่าง” ที่เธอพักพิงมาตลอดทาง หญิงสาวดึงศีรษะของตัวเองให้ตั้งตรงตามเดิม ก่อนจะหันไปมองเจ้าของหัวไหล่ที่เธออิงซบ พอหันไปมองหน้าหมีตัวโตจอมกวนเท่านั้น หัวใจสาวหล่นไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม หัวใจเต้นโครมครามหาจังหวะไม่ได้เลย เขากำลังยิ้มให้เธอ เป็นยิ้มที่ผู้หญิงเห็นแล้วใจแทบละลาย
“เครื่องบินจะลงแล้ว รัดเข็มขัดด้วยนะมัวแต่นอนน้ำลายยืดอยู่ได้” เสียงของเฟรเดอริคทำให้พลอยพัตราปรี๊ดแตกทันที คนอย่างเธอน่ะหรือจะนอนน้ำลายไหล ไม่มีทาง
“ฉันไม่เคยนอนน้ำลายไหล คุณอย่ามามั่ว” เธอพูดอย่างเขินอาย หน้าแดง ระเรื่อ