ตอนที่ 1

1294 Words
“นั่นไมเคิลใช่ไหม” หัวคิ้วของสาวใหญ่วัยสามสิบแปดปีชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย ‘ดาวริน’ หันมาถาม ‘กานดา’ เมื่อเหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ไซส์ฝรั่งซึ่งเป็นลูกชายของกานดา ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่โรงจอดรถ “อะไรกัน... นี่เธอจำหลานไม่ได้หรือไง... นี่แหละเจ้าไมเคิลลูกชายฉัน” กานดากล่าว “โห... โตเร็วมากอ่ะ” ดาวรินนึกย้อนไปเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นไมเคิลยังไม่สูงใหญ่ขนาดนี้ แต่ด้วยพันธุกรรมของบิดาซึ่งเป็นฝรั่งชาวอเมริกัน ก็ทำให้ไมเคิลแลดูสูงใหญ่สะดุดอย่างที่เห็น “ไมค์... จำได้ไหมนี่ใคร” กานดาร้องเรียกลูกชายที่กำลังเดินตรงเข้ามาใกล้เทอเรสที่หล่อนกับเพื่อนรักกำลังนั่งคุยกันอยู่ “จำได้สิครับ... สวัสดีครับน้าดาว” ชายหนุ่มเข้ามายกมือไหว้ ก่อนจะทรุดร่างลงนั่งใกล้นางกานดาผู้เป็นมารดา ไมเคิลไม่เคยลืมเพื่อนของแม่คนนี้ จะเพราะอะไรเสียอีกล่ะ... ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าดาวรินเป็นผู้หญิงที่มีความสะสวยสะดุดตาเหลือเกิน ใบหน้าของหล่อนคมสวย ผมดำขลับ ตาคม ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน และที่สำคัญก็คือทรวงอกอะร้าอร่ามคัพดับเบิ้ลดีที่ทำเอาหนุ่มน้อยอย่างไมเคิลใจเต้นระทึกทุกครั้งเมื่อได้เจอหน้า “นึกว่าจำน้าดาวไม่ได้เสียแล้ว” นางกานดากล่าวกลับลูกชาย “จำได้สิครับ” ไมเคิลมองหน้าสาวใหญ่เพื่อนมารดา รอยหยักที่มุมปากขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหวาน สาเหตุที่ไมเคิลต้องเรียกเพื่อนของแม่ว่า ‘น้า’ ก็เพราะว่าหล่อนเป็นเพื่อนรุ่นน้องของนางกานดา ดาวรินอายุก่อนกว่ากานดาสามปี “เหนื่อยไหมลูก... รอเดี๋ยวนะแม่จะเอาน้ำเย็นมาให้” นางกานดามองร่างอาบเหงื่อของลูกชาย เพราะว่าไมเคิลเพิ่งกลับจากแตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ ที่สนามหน้าเทศบาล ร่างกายจึงโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อาบพราวไปทั่วเรือนร่าง ริ้วลายกล้ามเนื้อของหนุ่มฉกรรจ์น่ามอง ดาวรินมองเห็นสรีระของไมเคิลชัดเจนเต็มตาก็เพราะว่าเขาถอดเสื้อยืดพาดบ่าเอาไว้ ทั้งตัวก็เหลือแค่กางเกงบอลผ้าร่มขาสั้นปิดกึ่งกลางกายเอาไว้แค่นั้น “ไม่ได้เจอกันนาน... โตขึ้นเป็นกอง” ดาวรินยังคงตะลึงมองลูกชายของเพื่อนรัก ก็ใครจะคิดว่าเด็กชายตัวเล็กๆ ที่หล่อนเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อน วันนี้จะเติบโตเป็นชายหนุ่มสุดหล่อเหลา ออร่าเจิดจรัสไม่แพ้ดารา ดาวรินรู้ว่าไมเคิลได้ความหล่อเหลาของบิดามาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน หล่อนยังจดจำ ‘วิลเลี่ยม’ ซึ่งเป็นพ่อของไมเคิลได้ไม่เคยลืม ดาวรินยอมรับว่าเคยนึกอิจฉากานดา ที่หล่อนได้สามีเป็นฝรั่งชาวอเมริกันสุดหล่อเหลาที่เพื่อนๆ แอบมองอย่างนึกอิจฉา “ไมเคิล... ตอนนี้หนูอายุเท่าไรแล้วจ๊ะ” ดาวรินอยากรู้ “สิบแปด... ย่างสิบเก้าแล้วครับน้าดาว” ชายหนุ่มตอบพลางคว้าเสื้อยืดที่พาดบ่ามาเช็ดเหงื่ออาบพราวอยู่ทั่วแขน ดาวรินเผลอมองเส้นขนสีดำที่แผ่คลุมแผงอกแกร่งไปด้วยมัดกล้าม ขนบางส่วนลามลงมาถึงกล้ามท้อง ก่อนจะไปรวมกันเป็นแพหนาอยู่รอบสะดือและลึกลงไปใต้ขอบกางเกงผ้าร่มชื้นเหงื่อแนบเนื้อ มองเห็นต้นขาแข็งแกร่งสุดเซ็กซี่ กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายของหนุ่มฉกรรจ์ที่นั่งอยู่เหนือลมโชยมากระทบจมูกของดาวรินเป็นระยะ... ทำเอาหัวใจเต้นแรง “นอกจากเล่นฟุตบอลแล้วยังเล่นกล้ามด้วยหรือจ๊ะ” สาวใหญ่เพื่อนมารดาชวนคุย ขณะสายตายังแสดงความสนใจในตัวชายหนุ่มไม่คลาย “ครับน้าดาว... ใกล้สนามบอลมีโรงยิม เสร็จจากเล่นบอลผมก็แวะเล่นเวททุกวันครับ” “แล้วตอนนี้เรียนชั้นไหนแล้ว” “จมมอหกแล้วครับ... ระหว่างนี้กำลังรอเอ็นทรานส์ อาทิตย์หน้าผมกะว่าจะเข้าไปติวที่กรุงเทพฯ ครับ” เสียงฝีเท้าของกานดาดังใกล้เข้ามาทุกที อึดใจสั้นๆ ต่อมาเจ้าของบ้านก็มาถึงพร้อมกับแก้วน้ำเย็นในถาดโลหะสีเงินสำหรับลูกชาย ส่วนอีกแก้วเป็นน้ำมะเขือเทศ สำหรับดาวรินเพื่อนรัก “น้ำจ้ะลูก... แก้วนี้ของน้าดาว... หรือจะเอาน้ำมะเขือเทศด้วยมั้ยลูก” กานดาถามลูกชาย “ไม่ครับ... น้ำมะเขือเทศรสชาติมันแปลกๆ เค็มๆ ขื่นๆ เลี่ยนๆ ยังไงไม่รู้” ไมเคิลส่ายหน้า “แต่น้ำมะเขือเทศมีประโยชน์มากนะจ๊ะลูก... ไม่เชื่อก็ดูน้าดาวสิ ผิวสวยกว่าสาวๆ อีก นี่ขนาดวัยใกล้สี่สิบแล้วนะ” กานดากล่าวกับลูกชาย แต่สายตาหันไปชมเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ ผิวพรรณของดาวรินช่างเปล่งปลั่งสะดุดตาเหลือเกิน “แหม... ดาก็ชมกันเกินไป... ” ดาวรินกล่าว แต่ก็อดปลื้มไม่ได้ หล่อนชินเสียแล้วกับคำชมเรื่องผิวพรรณ “คุณแม่ไม่ได้พูดเกินความจริงหรอกครับ... น้าดาวยังสาวยังสวย” ไมเคิลกล่าว อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองสองเต้าอวบเต่ง ขนาดผิวพรรณภายนอกของน้าดาวยังขาวเปล่งปลั่งถึงเพียงนี้ แล้วถ้าตรงนั้นล่ะ... ตรงที่ตาของตนกำลังจ้อง ตรงสองเต้าที่เบียดกันแน่นจนรู้สึกอึดอัดแทนเจ้าตัว “น้าดาวจะค้างกับเราคืนนึง” กานดาบอกลูกชาย “ว้าว... จริงหรือครับ” ชายหนุ่มดีใจจนออกนอกหน้า ปากตอบมารดา แต่สายตายังไม่ละจากน้าดาว ไม่อาจควบคุมอารมณ์ให้หยุดจินตนาการ สองเต้าอวบขาวของน้าดาวคงใหญ่เหมือนแม่ลูกอ่อนนมคัด ไมเคิลเชื่อว่ามันน่าจะขาวชนิดที่ว่ามีเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ  อยู่ภายใต้ความบอบบางและหยุ่นนุ่ม อู้ว... น่าเกลียดที่คิดอะไรแบบนี้ แต่ไม่เคิลก็หยุดคิดไม่ได้ หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นเป็นไปตามแรงกระตุ้นของวัยหนุ่มฉกรรจ์ที่เริ่มให้ความสนใจในเรื่องเพศเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นธรรมดาของผู้ชายที่กำลังเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน “ผมขอตัวไปอาบน้ำนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวพลางหยัดร่างสูงใหญ่ขึ้นจากเก้าอี้ ครั้นเมื่อร่างของไมเคิลลับไปจากสายตา ดาวรินก็รีบเอ่ยถามกับกานดาในทันที “ดาจ๊ะ... ไมค์บอกว่าจะเข้าไปเรียนกวดวิชาที่กรุงเทพฯ ใช่ไหมจ๊ะ”           “ใช่... ติดต่อที่เรียนไว้แล้ว อยู่แถวๆ รังสิต เรียนแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นจ้ะ”           กานดาอยากให้ไมเคิลเข้ามาติวในโปรแกรมเตรียมเอ็นทรานส์ เพราะที่กรุงเทพฯ มีสถาบันติวเก่งๆ เยอะมาก การแนะแนวข้อสอบจากติวเตอร์ที่คร่ำหวอดอยู่กับการวิเคราะห์ข้อสอบเอ็นทรานส์มานาน จะเป็นประโยชน์สำหรับไมเคิลที่ตั้งใจว่าจะสอบเข้าเรียนวิศวะฯ ให้ได้           “แถวรังสิต... ใกล้บ้านฉันเลย แล้วไมค์พักที่ไหน”           ดาวรินอยากรู้           “กำลังติดต่อเรื่องที่พักอยู่พอดี... น่าจะหอพักหรือไม่ก็ห้องพักรายวันแถวๆ นั้น”           กานดากล่าว           “แถวนั้นใกล้บ้านฉันมาก... อันที่จริงให้ไมค์มาพักที่บ้านฉันก็ได้นี่นา”           “จะดีหรือดาว... ฉันเกรงใจ”           กานดามองหน้าเพื่อนรัก รู้สึกขอบคุณที่หล่อนมีน้ำใจกับหลาน           “จะเกรงใจทำไม... เราเพื่อนกันนะดา แล้วตาไมค์ลูกชายแกก็หลานฉัน... บ้านฉันกว้างขวาง มีหลายห้อง จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลือง”           “ขอบใจมากจ้ะดาว... ดีเหมือนกัน เพราะว่าจะได้วานเธอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนฉัน”    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD