อันนาก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนอย่างเชื่องช้า แต่ละย่างก้าวหนักอึ้งราวกับมีโซ่ตรวนถ่วงขา เธอได้ยินเสียงประตูปิดลงด้านหลังเบาๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนเสียงฟ้าร้องที่ผ่าลงมา กลางใจ
มาร์คัสยังคงยืนอยู่ข้างเตียง สายตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา อันนาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขา มันทำให้เธอหายใจติดขัด
"มานี่" มาร์คัสเอ่ยเสียงทุ้มต่ำอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีคำขู่ แต่กลับมีน้ำเสียงบังคับที่แฝงด้วยความอดทนที่เริ่มหมดลง
อันนากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอพยายามรวบรวมเศษเสี้ยวของความกล้าทั้งหมดที่มี เดินเข้าไปหาเขาอย่างสั่นเทา เมื่อมาถึงข้างเตียง อันนาหยุดยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับไปไหนต่อ
มาร์คัสใช้มือหนาจับต้นแขนเรียวของอันนาอย่างแผ่วเบา แต่กลับเต็มไปด้วยอำนาจ เขาออกแรงดึงเธอเบาๆ ให้อันนาทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียง
อันนาก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาเขา ภาพใบหน้าของพ่อที่ผิดหวังและเสียงสะอื้นของแม่ที่ตรอมใจยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เธอรู้สึกเจ็บปวดและละอายใจกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
"เงยหน้าขึ้น" มาร์คัสสั่งเสียงเรียบ อันนาลังเล แต่เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่แขน เธอก็จำใจเงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตที่บวมช้ำจากการร้องไห้เมื่อครู่สบเข้ากับดวงตาคมกริบของเขาพอดี
มาร์คัสจ้องมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของอันนา เขาเห็นความหวาดกลัว ความเจ็บปวด และความสิ้นหวังในแววตาคู่นั้น
ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยพาขึ้นเตียง พวกเธอล้วนเต็มใจ เต็มไปด้วยความปรารถนา แต่กับอันนา...มีเพียงความว่างเปล่าและความจำยอม
"ถอดเสื้อผ้าของเธอออก" มาร์คัสพูดเสียงทุ้มต่ำ แต่คำสั่งนั้นกลับดังก้องในโสตประสาทของอันนา ราวกับระเบิดที่กำลังจะทำลายทุกสิ่ง
อันนาเบิกตากว้างอย่างตกใจ ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง
"ไม่นะคะ... ได้โปรด" เสียงของเธอขาดหายไปในลำคอ เธอส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาเริ่มไหลรินลงมาอีกครั้ง
"อย่าทำให้ฉันต้องใช้กำลัง อันนา" มาร์คัสพูดเสียงเรียบเย็น แววตาของเขาฉายแววอันตราย
"เธอรู้ดีว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไร"
มาร์คัสไม่พูดอะไรมากต่อให้น้ำตาเธอจะไหลท่วมห้องของเขาเขาก็ไม่สนอันนาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เหยียบเข้ามาในห้องนอนของเขาคฤหาสน์ของเขาโดยผู้หญิงทุกคนจะต้องไปแค่ คอนโดหรูที่ใช้สำหรับเป็นที่เริงอารมณ์ของเขาเท่านั้น
คำพูดนั้นแทงทะลุหัวใจของอันนา เธอไร้ทางสู้ ไร้ซึ่งอำนาจต่อรองใดๆ ในสถานการณ์นี้ เธอเป็นเพียงลูกหนี้ที่ต้องชดใช้หนี้สินก้อนโตให้กับเจ้าหนี้ผู้ทรงอิทธิพล
"ไม่เอาค่ะ อันนาไม่เอาแบบนี้!" เธอเตรียมจะวิ่งหนีออกไปจากห้องแต่เธอหนีเสือปะจระเข้ เสืออย่างมาร์คัสและจระเข้อย่างไตรรัตน์ที่พร้อมจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
"หยุดเดี๋ยวนี้นะอันนา..!"น้ำเสียงทุ้มต่ำเริ่มไม่พอใจและกระโดดคว้าแขนเรียวเอาไว้เข้ามาโอบกอดผู้ชายร่างสูงใหญ่สูง 190 ลำตัวบึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพียงแค่กอดร่างเล็กของอันนาก็แทบจะแหลกสลายคามือ
"ถ้าเธอกล้าหนีฉันแบบเมื่อกี้อีก วันนี้เธอไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สองอันนา..!"เสียงขู่ทุ้มต่ำออกมาจากลำคอของมาร์คัสมันแผ่อำนาจด้านมืดเข้าไปในจิตใจของอันนาจนเธอกลัวตัวสั่นไปหมด
อันนายอมจำนนแต่โดยดีน้ำตาไหลอาบสองแก้มจำใจต้องทำตามคำสั่งของเจ้าชีวิตอย่างมาคัด อันนาเริ่มด้วยมือที่สั่นเทา
อันนาค่อยๆ เลื่อนมือไปปลดซิปชุดเดรสด้านหลังช้าๆ เสียงซิปที่รูดลงช้าๆ ในความเงียบนั้นดูราวกับเสียงแห่งความตาย
ชุดเดรสผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น เผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางที่สั่นสะท้านภายใต้ชุดชั้นในสีอ่อน
ภายใต้แสงไฟสีนวลอมส้มปะทะเข้ากับร่างอรชรหน้าอกหน้าใจที่ถูกซ่อนรูปเอาไว้มันใหญ่จนมาคัดตะลึงเขาไม่เคยเห็นของผู้หญิงคนไหนอวบอิ่มหน้าสัมผัสเท่านี้มาก่อนแต่เขาก็คิดว่าคงจะทำศัลยกรรมมาแน่ๆ
มาร์คัสลุกขึ้นยืน เขาปลดเนกไทออกอย่างไม่รีบร้อน สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่อันนาไม่คลาดสาย เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสัก อันนาหลับตาลงแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะมองร่างของเขา
มาร์คัสก้าวเข้ามาใกล้อันนา เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนาเอื้อมไปจับปลายคางของอันนา บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
"ลืมตาขึ้น อันนา" เสียงของเขาเต็มไปด้วคำสั่ง "มองมาที่ฉัน"
"ไม่..!" อันนาถึงจะเกรงกลัวแต่ก็ยังฝืนทำตัวว่าไหวอยู่ดื้อกลับมาร์คัส
เพี๊ยะ .! เพี๊ยะ.!เสียงมือหนาสัมผัสเข้าที่ก้นอวบอิ่มเด้งดึ๋งสู้มือมาร์คัสที่เห็นว่าเด็กตรงหน้าดื้อเขาจึงสั่งสอนด้วยการใช้มือฟาดไปที่ก้นของเธอ
"ว๊าย..! เจ็บนะค่ะ" อันนาตะโกนเสียงดัง
อันนาจึงฝืนเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือดวงตาคมกริบของมาร์คัสที่จ้องมองเธออย่างไม่ลดละใบหน้าที่แสดงถึงอาการโกรธคิ้วหนาแทบจะยุ่งผูกกันเป็นโบว์ อันนาได้แต่ภาวนาให้ค่ำคืนนี้จบลงโดยเร็วที่สุด
มาร์คัสจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของอันนา ก่อนจะดึงร่างบอบบางของเธอเข้าหา สัมผัสแรกที่ผิวกายของเธอปะทะกับแผงอกเปลือยเปล่าของเขานั้นเย็นเฉียบและสั่นเทา
"กล้าแผลงฤทธิ์กับฉันตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยหรออันนา แล้วเธออย่าหาว่าฉันไม่เตือน.!"มาร์คัสพูดเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างๆ หูของอันนา
มาร์คัสรับรู้ถึงความสั่นเทานั้น แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรไปมากกว่าความปรารถนาที่เริ่มปะทุขึ้นภายใน
อันนากำลังจะอ้าปากประท้วงแต่เหมือนกับว่ามาร์คัสไม่ให้โอกาสเธออีกแล้ว ริมฝีปากหยักหนาของเขาทาบทับลงมาบนกลีบปากสั่นระริกของเธออย่างรวดเร็วและหนักหน่วง
อันนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ มาร์คัสไม่ให้โอกาสเธอได้ตอบโต้ใดๆ เขาจูบเธออย่างดุดัน ร้อนแรง ราวกับจะกลืนกินทุกสิ่ง
ฮืม..อื้อ..เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจแต่คนที่จะขาดใจคืออันนาที่ไม่ประสีประสา
กลิ่นบุหรี่จาง ๆ ผสมกับกลิ่นกายแบบผู้ชายดิบๆ ของเขาเข้าคละคลุ้งจนอันนาเวียนหัวไปหมด
อันนาใช้มือเล็กๆทุบไปที่แผงอกแก่งของมาร์ทัสเธอดิ้นทุรนทุรายเพราะเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ
มาร์คัสใช้มืออีกข้างรวบเอวคอดของเธอเข้ามาแนบชิด จนเรือนร่างของทั้งสองแนบสนิทกัน อันนาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของมัดกล้ามเนื้อของเขา
ความร้อนรุ่มที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง แต่ในใจกลับหนาวเหน็บ เมื่อมาร์คัสถอนจูบออกไป อันนาก็หอบหายใจอย่างแรง เธอเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา
"ทำไม แค่นี้หมดฤทธิ์แล้วหรอ..! ฮึ"
มาร์คัสไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแค่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา ก่อนจะช้อนร่างอันบอบบางของเธอขึ้นในอ้อมแขน ราวกับว่าเธอไร้น้ำหนัก
"ปล่อยนะค่ะ ปล่อยอันนานะ"อันนาทั้งดิ้นทั้งทุบทั้งตีแต่ก็สู้แรงชายอกสามศอกอย่ามาร์คัสไม่ได้ แทบจะไม่สะทกสะท้าน
อันนาสะดุ้งเล็กน้อย เธอพยายามจะร้องห้าม แต่เสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อมาร์คัสเดินตรงไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่สีขาวสะอาดตา และวางร่างของเธอลงอย่างแผ่วเบา
มาร์คัสก้มลงประทับรอยจูบไปทั่วซอกคอขาวเนียนของอันนา ไล่ต่ำลงมาตามเนินอกอวบอิ่ม อันนาหลับตาลงแน่น พยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นที่กำลังจะหลุดออกมา
เธอพยายามดึงสติให้รับรู้ว่านี่ไม่ใช่ความรัก ไม่ใช่ความอ่อนโยน แต่เป็นเพียงการชดใช้หนี้ การตอบสนองสัญชาตญาณดิบของเขา
"ฮื่อ..ฮึก.."เสียงสะอึกสะอื้นที่พยายามฝืนกลืนลงไปมันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีอันนาเธอไม่รู้จะทำอย่างไรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามชะตากรรมที่เธอต้องเผชิญ....