รถยนต์คันหรูของภูผาพาฉันมาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ทอดยาวอยู่ตรงหน้า ราวกับอาณาจักรส่วนตัวที่ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงสูงและต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความอึมครึมที่ทำให้ใจฉันหวิว
‘นี่คือที่ที่ฉันจะต้องอยู่ตลอดหนึ่งปีต่อจากนี้สินะ’ ฉันคิดในใจพลางกำมือแน่น
ชายในชุดสูทดำเปิดประตูรถให้ ฉันก้าวลงมายืนบนพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบ สายตาไล่มองสำรวจรอบบริเวณ ก่อนจะพบว่าทุกตารางนิ้วของที่นี่สะท้อนถึงความมั่งคั่งและรสนิยมอันหรูหราของเจ้าของ
ภูผาเดินนำหน้าเข้าไปในตัวคฤหาสน์ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกโทนสีขรึม ดูภูมิฐานแต่ก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกเหงาแปลก ๆ
“ห้องเธออยู่ชั้นบนสุด” ภูผาเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่หันมามอง “ฉันจัดการเรื่องเสื้อผ้าของเธอไว้แล้ว จะมีแม่บ้านมาดูแล”
ฉันพยักหน้ารับคำโดยไม่ปริปากพูดอะไร สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือการกลับไปดูแลพ่อ และต้องมั่นใจว่าน้องไทม์ปลอดภัยดี
ใช่แล้ว… น้องไทม์ ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านเพื่อนสนิทของฉัน ‘แก้ว’ ซึ่งฉันฝากฝังให้ดูแลลูกชายเป็นอย่างดี โดยอ้างว่าต้องไปทำงานต่างจังหวัดชั่วคราว การที่จะนำน้องไทม์เข้ามาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะหากภูผารู้ความจริงว่าน้องไทม์คือลูกชายของเขา ทุกอย่างจะพังทลายลงในพริบตาเดียว
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินตามหลังภูผาไปตามโถงทางเดินกว้างขวาง สายตาฉันก็เหลือบไปเห็นรูปภาพรูปหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างกำแพง
มันคือรูปของเด็กชายคนหนึ่ง กำลังยิ้มกว้างอย่างสดใส ดวงตาของเขากลมโตเป็นประกาย และมีแววซุกซน ผมสีเข้มหยักศกเล็กน้อย… และรอยยิ้มนั้น… มันช่างคล้ายกับรอยยิ้มของภูผาในวัยเด็กอย่างประหลาด
หัวใจของฉันกระตุกวูบ ภาพของน้องไทม์ซ้อนทับขึ้นมาในความคิดทันที
‘เขา… คือใครกัน’ ฉันพยายามถามตัวเอง
“นั่นคือรูปของลูกพี่ลูกน้องฉัน” ภูผาเอ่ยขึ้นราวกับรู้ความคิดของฉัน เขายืนหยุดมองรูปนั้นครู่หนึ่ง แววตาที่เคยเย็นชาฉายแววอ่อนโยนขึ้นมาเล็กน้อย “เป็นเด็กที่ร่าเริงมาก”
ฉันพยักหน้า พยายามซ่อนความรู้สึกผิดบาปไว้ภายในใจ มันเจ็บปวดที่ต้องโกหกภูผาเรื่องน้องไทม์ แต่ฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ
เมื่อมาถึงห้องพักบนชั้นสาม ฉันเห็นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย เสื้อผ้าชุดใหม่ถูกแขวนอยู่ในตู้ เตียงนอนนุ่มสบายส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่างแตกต่างจากห้องเช่าเล็ก ๆ ของฉันลิบลับ
“หนึ่งปีจากนี้ เธอคือภรรยาในนามของฉัน” ภูผาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “จำไว้ว่าห้ามทำอะไรที่เกินเลยจากสัญญา และที่สำคัญ… อย่าคิดจะทรยศฉันเด็ดขาด”
คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำถึงสถานะของตัวเอง ฉันไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริง แต่เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมที่เขาเป็นคนวางแผน
ฉันหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง แสงไฟจากเมืองใหญ่สว่างไสวอยู่ไกลออกไป แต่กลับไม่สามารถส่องเข้ามาในความมืดมิดในใจของฉันได้
‘น้องไทม์… แม่จะปกป้องหนูเอง’ ฉันสาบานกับตัวเองในใจ ขณะที่ภาพรอยยิ้มสดใสของลูกชายยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด มันคือพลังเดียวที่ทำให้ฉันเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายนี้
และนี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ตามสัญญา… ชีวิตที่เต็มไปด้วยความลับ ความเจ็บปวด และการเดิมพันที่สูงที่สุดในชีวิตของฉัน