ใบหน้ากลมน่ารัก จมูกเล็กเชิดรั้น สวยริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ดวงตากลมโตพร้อมกับรูปร่างที่สมส่วนค่อนข้างออกไปทางผอมบางอย่าง สายขิม ตอนนี้เดินออกมารอพ่อของตัวเองอยู่ที่หน้าสนามบิน เธอเพิ่งกลับจากอเมริกาเป็นการบินกลับอย่างเร่งด่วนเพราะคุณพ่อกับคุณแม่มีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกให้เธอรู้แล้วก็ให้เธอช่วย เธอเพิ่งเรียนจบได้แค่ 1 ปีเท่านั้นตอนนี้กำลังสนุกกับการไปเที่ยวเล่นใช้ชีวิตเตร็ดเตร่ไปวันๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็คิดว่าขอเวลาแค่แป๊บเดียวก็จะกลับมาช่วยคุณพ่อกับคุณแม่บริหารโรงแรมของตัวเองแล้ว
" ลูกรัก "
คาโตะ ดาโกตะ ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นผู้เป็นบิดาของเขมิกาเดินทางมารับลูกสาวด้วยตัวเองถึงสนามบินด้วยความร้อนใจ พร้อมกับก้มลงไปสวมกอดลูกสาวเอาไว้แน่น ในแววตามีแต่ความเครียดแล้วก็ความกังวลจนเขมิกาสังเกตได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
" สวัสดีค่ะคุณพ่อ แล้วคุณแม่ไม่ได้มาด้วยหรอคะ "
ร่างเล็กถามออกไปเมื่อปกติแล้วแม่ของเธอแทบไม่เคยพลาดที่จะมารับเธอแบบนี้
" แม่ของลูกไม่ค่อยสบายรออยู่ที่บ้านน่ะลูก เรารีบกลับบ้านกันเถอะ "
" ค่ะ "
แม้จะผิดสังเกตไม่น้อยกับท่าทีเปลี่ยนไปของบิดา แต่ถึงอย่างนั้นเขมิกาก็ขึ้นรถมากับคุณพ่อจนถึงบ้านหลังใหญ่ของตัวเองที่เธอไม่ค่อยอยากมาเหยียบสักเท่าไหร่ ด้วยว่าคุณพ่อของเธอไม่ได้มีแค่คุณแม่เพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะเป็นภรรยาหลวงและมีเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวแต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อก็ยังมีคุณน้าไลลาเป็นภรรยาน้อยอีก 1 คนรวมไปถึงคุณน้าไลลาก็มีพี่รันที่เป็นลูกติดมาด้วยอีกคน ซึ่งรายนั้นชอบทำตัวข่มคนอื่นรวมถึงข่มเธอด้วยเธอจึงไม่ค่อยสนิทกับพี่สาวคนละพ่อคนละแม่คนนี้สักเท่าไหร่ ตอนนี้ได้ยินข่าวว่าเป็นนางเอกดังไปแล้ว
" แม่คะ ขิมคิดถึงที่สุดเลยค่ะ "
สายขิมวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ของตัวเองทันทีที่เท้าแตะถึงพื้น โฉมวิลัยมองหน้าของบุตรสาวด้วยความคิดถึงมาตลอดหลายปี ตั้งแต่จบมัธยมปลายลูกสาวของเธอก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา กลับมาแทบนับครั้งได้และอยู่เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เธอเข้าใจดีถึงความลำบากใจของลูกสาวจึงไม่ได้อ้อนให้ลูกสาวกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
" เราเข้าบ้านกันเถอะลูก พ่อมีเรื่องสำคัญจะบอก "
เพราะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าการกลับมาครั้งนี้มีเรื่องสำคัญมากกว่าการกลับมาเยี่ยมครอบครัว สายขิมจึงรีบเข้าไปในบ้านอย่างที่พ่อของตัวเองต้องการทั้งๆที่เธอกลับมายังไม่ทันนั่งพักเลยด้วยซ้ำ
" ที่คุณพ่อเรียกขิมกลับมาด่วนแบบนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ "
คาโตะถอนหายใจออกมาอย่างคนไม่มีทางเลือก เรื่องนี้มีแค่ลูกสาวของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยได้จริงๆ
" เรื่องนี้ขิมจำเป็นจะต้องรู้เพราะขิมเป็นคนเดียวที่จะช่วยครอบครัวของเราได้ ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมของเรากำลังจะเจ๊ง เพราะขาดทุนย่อยยับมาหลายปีติดต่อกัน พ่อผิดเองที่บริหารไม่ดี และที่พ่อเรียกขิมมาเพราะอยากให้ขิมกลับมาแต่งงานกับคนที่จะช่วยพยุงธุรกิจของเราได้ "
ร่างเล็กถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้เลยว่าโรงแรมของเราขาดทุนมาหลายปี อีกทั้งตอนนี้เธอเพิ่งเรียนจบมาได้แค่ปีเดียวก็ต้องทิ้งชีวิตอิสระของตัวเองแล้วต้องไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้แล้วหรือ
" ทำไมพ่อไม่บอกขิมให้เร็วกว่านี้คะ ขิมจะได้เลิกใช้ชีวิตอิสระแล้วกลับมาช่วยงานโรงแรมของเราให้เร็วกว่านี้ "
ร่างเล็กบอกอย่างรู้สึกผิด ถ้าพ่อของเธอบอกเธอสักนิดป่านนี้คงมีวิธีแก้ไขกันไปแล้ว
" ลูกเพิ่งเรียนจบ อีกอย่างพ่อยังไม่อยากให้ลูกหมดอิสรภาพถึงอยากให้ลูกได้ทำตามที่ต้องการให้เต็มที่แต่เต็มที่ของพ่อก็มีเวลาให้แค่ 1 ปีเท่านั้นโรงแรมของเราตอนนี้แทบรอไม่ได้แล้ว "
คาโตะบอกออกไปอย่างจำนน ถ้าไม่ได้เพื่อนสนิทอย่างเวลตันและมาร์กี้ยื่นมือเข้ามาช่วยก็ไม่รู้จะหาทางออกยังไง เขาคงเป็นบุคคลล้มละลายแม้ว่าการยื่นมือเข้ามาช่วยในครั้งนี้จะมีข้อแลกเปลี่ยนก็ตาม
" แล้วพ่อจะยัดเยียดขิมให้ไปแต่งงานกับใครคะ "
ร่างเล็กถามออกไปอย่างจำนนต่อเหตุการณ์ ด้วยเข้าใจดีว่าในวงการธุรกิจการแต่งงานด้วยความต้องการของหัวใจย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ทุกวันนี้ก็มีแต่เงินต่อเงินกันทั้งนั้น
" ลูกคุณอาเวลตันเพื่อนของพ่อ พี่เวกัส "
" เวกัส? "
ร่างเล็กทวนชื่อของเขาอีกครั้งบอกตามตรงว่าไม่เคยรู้จักเพราะเพื่อนร่วมธุรกิจของคุณพ่อก็มีมากมาย เธอจำไม่หวาดไม่ไหวหรอก
" ลูกยังไม่เคยเจอพี่เขาหรอก กว่าลูกจะเกิดพี่เขาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว "
คำพูดของพ่อทำเอาเธอตาโตขึ้นมาอีกครั้ง นี่เธอต้องแต่งงานกับตาลุงที่ไหนเนี่ย
" แก่ขนาดนั้นเลยหรอคะคุณพ่อ "
ร่างเล็กที่เริ่มหน้าซีด รู้อยู่หรอกว่าต้องแต่งงานเพราะธุรกิจแต่ขอล่ะอย่าเป็นคนคราวพ่อได้ไหม เธอทำใจไม่ได้จริงๆ
" พี่เขาอายุ 36 ปีลูก "
ร่างเล็กถึงกับทดท้อในใจ เมื่อได้ยินว่าคนที่เธอต้องแต่งงานด้วยอายุคราวพ่อขนาดนี้
" อย่าเรียกว่าพี่เลยค่ะพ่อเรียกคุณลุงดีกว่า "
" สายขิม ทำไมปากคอเราะร้ายแบบนี้ล่ะลูก พี่เขาไม่ได้ดูแก่ขนาดนั้นสักหน่อย แม่เห็นในรูปก็ออกจะหล่อดูดี ดูไหมล่ะแม่จะเอาให้ดู "
โฉมวิลัยที่ตั้งใจจะเอารูปให้ลูกสาวตัวเองได้ดูแต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
" ไม่ค่ะแม่ ขิมไม่อยากดูกลัวทำใจไม่ได้ "
ร่างเล็กกรอกตามองบนไปมา เธอไม่อยากดูอะไรทั้งนั้นในตอนนี้
" แต่พรุ่งนี้ลูกต้องไปเจอพี่เค้าแล้วนะ พ่อกับแม่นัดดูตัวไว้ให้แล้ว "
ร่างเล็กถึงกับถอนหายใจที่ทุกอย่างมันดูฉุกละหุกไปหมด เธอเองก็ไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำใจกับอะไรก่อนดีระหว่างที่ครอบครัวกำลังจะล้มละลายหรือว่าเธอจะต้องแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อ เขาอายุห่างจากเธอถึง 13 ปีมันมากกว่า 1 รอบด้วยซ้ำ
" พรุ่งนี้เลยหรอคะ "
" อืม ใช่ลูก ไม่มีทางเลือก ลองไปคุยกับพี่เขาดูจะได้ทำความรู้จักกัน บริษัทของเรารอเงินหมุนเวียนจากครอบครัวของเขาอยู่ซึ่งการแต่งงานของลูกจะจัดขึ้นอีก 3 เดือนข้างหน้า "
สายขิมถึงกับเข่าทรุดเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วแม้กระทั่งใบหน้าของคนที่เธอจะต้องแต่งงานด้วย เธอก็ไม่ดูเอาไว้ดูทีเดียวพรุ่งนี้ตอนที่เขามารับเธอที่บ้านก็แล้วกัน เธอแยกตัวออกมาจากพ่อและแม่ของตัวเองเพื่อมานั่งร้องไห้เงียบๆภายในห้องนอนของตัวเองที่มันไม่ได้ใช้งานมาหลายปีแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูดีเพราะมีคนคอยทำความสะอาดให้อยู่เรื่อยๆ เธอร้องไห้ด้วยความอดสูจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
ในเช้าวันใหม่ที่สายขิมแทบไม่อยากให้มาถึง เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับรอให้ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอมารับให้ไปออกเดท โดยที่เธอและเขายังไม่เคยคุยกันเลยสักครั้ง และตอนนี้รถสปอร์ตคันหรูสีแดงของเขาก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านของเธอเรียบร้อยแล้วพร้อมกับบุคคลผู้มาใหม่ที่ลงมาจากรถสปอร์ตคันหรูนั่น เธอมองอย่างตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าเธอต้องไปกับคนนี้จริงๆ
" ไง สายขิมใช่ไหม? "