“ผมเริ่มหมดความอดทนแล้วจริงๆ นะจัสมิน” พรตดนัยจับแขนเธอแน่น ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาชิดใกล้ วงแขนแกร่งโอบรัดเอวบางแน่นเข้าไปทุกขณะ จัสมินรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา หัวใจดวงน้อยถึงกับวาบไหวสั่นระรัว ความก๋ากั่นช่างยั่วของเธอก่อนหน้านี้พลันหายไปในทันที
“คุณ...” จัสมินเรียกเขาเสียงสั่น มือดันอกกว้างเอาไว้ ความหวาดหวั่นที่เด่นชัดในดวงตาเธอเรียกรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าคมที่ก้มลงมาใกล้จนจมูกจะชิดกับแก้มนวล หญิงสาวถึงกับผงะรีบเบี่ยงตัวหนีด้วยความคาดไม่ถึง
“ปล่อย…ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ” เธอแว้ดใส่พลางดันใบหน้าคมออกห่าง
“อยากมีผัวจนตัวสั่นสินะถึงให้ท่ากันขนาดนี้” พรตดนัยพูดเสร็จก็กดจมูกลงบนแก้มนิ่มอย่างคาดโทษ เล่นเอาร่างบางแข็งทื่อในทันที เธอไม่คิดว่าผู้ชายหน้าตาดีอย่างเขาจะปากจัดได้ขนาดนี้
“ไอ้…”
จัสมินจำต้องหยุดเสียงเมื่อเขากระแทกริมฝีปากลงมาบนกลีบปากนุ่มในทันที ก่อนจะดูดดึงแรงๆ เพื่อลงโทษ แต่ยิ่งได้สัมผัสแรงๆ เขายิ่งสัมผัสถึงความหวานล้ำจนห้ามใจไม่อยู่ พรตดนัยเริ่มบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วง เร่าร้อน ลิ้นสากร้อนพลางซอกซอนสอดลึกเข้าไปในโพรงปากนุ่มอย่างเร้าอารมณ์ หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีคลื่นไฟฟ้าวิ่งแล่นผ่านร่างจนชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า มือบางพยายามออกแรงผลักแต่ก็ทำไม่ได้
“อือ...อื้อ” เธอครางประท้วง เขาสอดรัดลิ้นกับเรียวลิ้นเล็กตวัดไปมา ก่อนจะกระดกปลายลิ้นขึ้นไปเลียเพดานปากของเธอ ร่างบางถึงกับอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว เธอไม่เคยรับรู้รสสวาทวาบหวามที่เกิดจากการจูบมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แถมเป็นผู้ชายที่ดูถูกเธออีกต่างหาก ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางและดันเข้าหาตัว ส่วนที่บ่งบอกว่าไม่ใช่เด็กบดเบียดกับแผ่นอกกว้างจนไม่มีช่องว่างลอดผ่าน
“ร่านขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจูบไม่เป็น หรือนอนให้ผู้ชายทำให้อย่างเดียวล่ะคุณหนูใจแตก” พรตดนัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เล่นเอาจัสมินจุกที่อกจนพูดไม่ออก ร่างบางรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักแผงอกกว้างออกห่างจนสำเร็จ แล้วฟาดฝ่ามือเล็กบนใบหน้าคมจนสะบัดไปอีกทาง
“ปากสกปรก…” เธอเค้นเสียงพูดด้วยแววตาลุกวาว พรตดนัยหันกลับมาช้าๆ ใช้มือข้างที่มีแหวนเธอลูบแก้มตัวเองเบาๆ จัสมินมองไปที่แหวนของอีกฝ่าย ก่อนจะจับมือเขาถอดเอาแหวนคืน “ฉันขอแหวนคืน” เธอออกแรงดึงแหวนออกแต่ก็ถอดไม่ได้ พรตดนัยใช้มืออีกข้างตวัดเอวบางเข้ามากอดอีกครั้ง
“คิดจะให้ก็ให้ คิดจะเอาคืนก็บังคับเอา ทำเหมือนเด็กเล่นขายของ” เขาเอ็ดเสียงต่ำข้างๆ หูเธอ จัสมินรีบหันขวับมาด้วยความโกรธ แก้มจึงชนกับปลายจมูกโด่งเต็มๆ อีกครั้ง
“คุณจะเอาคืนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ถอดมาฉันจะเอาไปโยนให้ไก่กามันกิน” ร่างบางสะบัดเสียงพูดอย่างไม่พอใจ ส่วนมือเล็กก็พยายามถอดแหวนออกออกจากมือเขาอย่างไม่ยอมแพ้ จนพรตดนัยได้ทีรวบเอวบางมากอดอีกครั้ง โชคดีที่รถไม่มีเกียร์กั้นทำให้เธอแทบจะเกยขึ้นไปนั่งอยู่บนตักเขา
“เปลี่ยนใจแล้ว ไม่ให้” เขาจูบแก้มนุ่มอีกฟอด อารมณ์เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ผิดกับคนในวงแขนที่ดูจะอารมณ์เดือดดาลขึ้นทันทีที่ถูกเขาดูถูก
“ฉันก็เปลี่ยนใจเหมือนกัน เอามา” ชายหนุ่มยื่นมือให้อย่างว่าง่าย จัสมินรู้สึกเจ็บแปลบในใจทั้งคำพูดที่แสนร้ายกาจ และการกระทำหยามเกียรติของเขา
“เอาสิ คุณถอดผมปล้ำ”
“เชอะ! คุณไม่กล้าหรอก ป๋าฉันเอาคุณตายแน่”
“ถูกจับได้ก็สารภาพว่าปล้ำจริง จะกลัวทำไม?” พรตดนัยบอกอย่างลูกผู้ชาย มือบางชะงักเงยหน้าขึ้นสบตาคม ชายหนุ่มยักคิ้วให้พลางส่งแรงปรารถนาออกมาทางสายตา บอกให้เธอรู้ว่าเขาเอาจริง ดวงตาคมสบนัยน์ตากลมโตหวานซึ้งเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหาทุกครั้งที่ได้มอง ก่อนจะกวาดมองทั่วใบหน้าสวยหวานนวลเนียน ชวนให้อยากสัมผัสด้วยจมูกและริมฝีปาก แถมริมฝีปากรูปกระจับนั้นยังน่าจูบน่าชวนชิมอีกต่างหาก สรุปคือทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องหน้าของเธอนั้นน่าหลงใหลชวนลิ้มลองเสียเหลือเกิน
“ตกลงจะให้ปล้ำใช่ไหม?” เขากระชับอ้อมแขน เล่นเอาร่างบางรีบเบือนหน้าหนีด้วยใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ร่างกายของเธอพลันอุ่นวาบและหวาดหวั่น
ใจก็อยากให้เขาปล้ำ เอ้ย! ไม่ใช่...อยากให้เขาปล่อยต่างหากเล่า
“ไม่นะ! ปล่อย ฉันหิวแล้ว” จัสมินรีบเบี่ยงตัวหนีจมูกซุกซนที่ดูจะแกล้งให้เธอเคลิบเคลิ้ม พรตดนัยหัวเราะในลำคอก่อนจะยกร่างบางไปนั่งที่เดิม
“หึหึ คราวหน้าอย่าก๋ากั่นแบบนี้กับใครอีกล่ะ ผู้ชายไม่ได้เป็นฤาษีชีไพรเหมือนผมทุกคนหรอกนะ”
“หรือไม่ก็เป็นเกย์ ถึงไม่รู้สึกอะไรกับผู้หญิง” เธอสวนกลับอย่างไม่ทันคิด พรตดนัยรีบหันขวับมองมาที่ร่างบางด้วยแววตาแข็งกร้าว
“เดี๋ยวจะได้ผัวเป็นเกย์” พรตดนัยพูดก่อนจะหันขวับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ดวงตาคมแอบชำเลืองมองเสี้ยวหน้านวลของคนข้างๆ เป็นระยะๆ ส่วนคนที่ถูกมองเหมือนจะรู้ตัว รีบหันหน้ามองเขาพลางเชิดหน้าหวานๆ ใส่ อย่าคิดว่าเธอจะกลัวจนนั่งร้องไห้ฟูมฟายเหมือนนางเอกในนนิยายนะ ไม่มีทางเสียล่ะ
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นใส่ฉันนะ ไม่พอใจก็บอกมาสิ” หญิงสาวแว้ดใส่ตามนิสัยคุณหนู พรตดนัยกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“หลายอย่าง”
“อะไรล่ะ ฉันจะได้รู้” หญิงสาวเริ่มสนใจและใคร่รู้
“ไม่จำเป็น เพราะคุณกับผมคงไม่ได้เจอกันอีก” เขาพูดราวกับรังเกียจเธอนักหนา ก่อนจะรีบหันหน้าไปมองนอกตัวรถ เลยไม่ได้เห็นสีหน้าและแววตาของหญิงสาว
“หึหึ ฉันรับรองว่าเราต้องได้เจอกันทุกวันแน่ จนกว่าคุณจะบอกให้ฉันออกไปจากชีวิตคุณนั่นแหล่ะ เราถึงจะไม่เจอกันอีกตลอดชีวิต” สิ้นเสียงหวานทั้งสองก็ถอนหายใจพร้อมกันโดยไม่รู้สาเหตุ
หลังจากทานอาหารเสร็จ พรตดนัยก็พาจัสมินกลับบ้าน ระหว่างทางทั้งสองต่างปราศจากบทสนทนา เพราะต่างคนก็ต่างตกอยู่ในห้วงภวังค์ของตัวเอง