บทนำ

1910 Words
บทนำ กระเป๋าเดินทางสองใบถูกยกขึ้นท้ายรถ ร่างโปร่งบางในชุดเดินทางหันไปมองตัวบ้านสีขาวงามสง่าที่มีพื้นหลังเป็นผืนป่าสีเขียวตัดท้องฟ้าสีครามอีกครั้ง ดวงตาที่มองนั้นไหววูบ หัวใจปวดแปลบ แต่สุดท้ายหล่อนเลือกหันหลังให้กับภาพคุ้นเคยและความผูกพันแสนยาวนาน พอกันที... ปึก... เมื่อประตูรถปิด แท็กซี่คันนั้นจึงพาหญิงสาวนัยน์ตาเศร้าเคลื่อนจากไป ทันทีที่น้ำตาไหลออกมา หล่อนตัดสินใจหลับตาลงก่อนที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง ด้วยกลัวใจตัวเองว่าจะบอกให้คนขับรถจอดแล้ววกกลับไป ไม่...จะต้องไม่เป็นแบบนั้น ในขณะที่อนาคตของหล่อนรออยู่เบื้องหน้า เวลาเดียวกันนั้นอดีตของหล่อนกำลังถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง และตัวหล่อนจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ผ่านไปไม่ถึงห้านาที รถกระบะยกสูงของใครบางคนผ่านรั้วเข้าไปภายในอาณาเขตของบ้านไพศาลเสรี เอี๊ยดดด...เสียงล้อที่ครูดไปกับพื้นถนนเกิดจากการเบรกของคนขับ ทำให้คนในบ้านต่างชะโงกหน้าออกมามอง ทันทีที่รถยนต์จอดสนิท ร่างสูงใหญ่ก็เดินแกมวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความเร่งรีบ... ผ่านหน้าของแม่บ้านที่เดินออกมาด้วยอาการอ้ำอึ้ง แต่คนตัวโตไม่มีเวลาสอบถาม เขามุ่งตรงเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว นาทีต่อมา ร่างสูงก็ยืนนิ่งอยู่กลางห้องด้วยอาการนิ่งขึง แววตายามมองไปที่กลางเตียงกว้างแม้ดูเรียบเฉย ทว่ากลับมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ ชายหนุ่มลากเท้าตรงไป มองนิ่งที่ซองจดหมายชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงแล้วหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน กลิ่นกายเฉพาะตัวของหล่อนยังอบอวลรวยริน เพียงแต่...นับจากนี้ไปจะไม่มีเจ้าของร่างเล็กที่มักจะอยู่ในครรลองสายตา คอยส่งยิ้มหวานและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใส่ใจว่าเหนื่อยไหม วันนี้ทำอะไรมาบ้างพร้อมกับน้ำเย็นๆ รอท่า ไม่มี อีกต่อไปแล้ว... กริ๊งงงง... เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านข้าง เขากวาดตามองไปรอบห้องแล้วผุดนั่งด้วยอาการถอนหายใจยาว แล้วเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกพร้อมกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมา ฝันไปหรอกเหรอ.... อิชย์ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเหงื่อไหลที่ข้างขมับ เขายกมือขึ้นเช็ดแล้วหันไปมองเตียงนอนข้างกาย ทว่ายามนี้ว่างเปล่า หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ได้แต่หวังว่าความฝันจะไม่ใช่ความจริงขึ้นมา ร่างสูงใหญ่จึงพรวดพราดออกไปนอกห้องด้วยอาการหน้าตาเคร่งเครียดระคนหวาดหวั่น กลิ่นอาหารและเสียงตะหลิวที่เคาะกระทะเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงักอยู่ที่ประตูครัว พลันพรูลมหายใจยาวเหยียดด้วยความโล่งอก เมื่อพบว่าใครบางคนที่เขาฝันถึงกำลังขะมักเขม้นอยู่หน้าเตา... อ้อมแขนที่สวมกอดและร่างสูงใหญ่ที่แนบเบียดมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะเอียงใบหน้ามองพร้อมกับยิ้มขันคนตัวโต “เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย” เสียงอ่อนหวานเอ่ยถามออกมาพร้อมเสียงหัวเราะหวานๆ กลับทำให้คนตัวโตกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกครั้งก่อนจะปล่อยมือออก “มีอะไรหรือเปล่าคะ หาอะไรไม่เจออีก” หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่ม พลางเลิกคิ้วสูงอย่างเป็นคำถาม อิชย์ บรรณวิชญ์ ขยับถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะมองดวงหน้าเรียวหวานของจันทร์กระจ่างอยู่อึดใจ แล้วส่ายหน้าเบาๆ “วันนี้ทำอะไรกินเหรอ” เขาทำทีชะโงกหน้ามองกับข้าวในกระทะเพื่อที่จะไม่ต้องตอบคำถามหล่อน หญิงสาวมองท่าทางแปลกไปของคนตรงหน้าแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด “ผัดตับใส่ดอกหอมที่คุณชอบ” หญิงสาวตอบพลางหันไปยังกระทะอีกครั้ง จากนั้นไม่ถึงนาทีก็ปิดเตาแก๊ส “เสร็จแล้วค่ะ” ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ขณะที่มองหญิงสาวไม่วางตา “งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน” จันทร์กระจ่างสบตาคู่คมกริบของคนตัวโตอีกครั้งก่อนที่เขาจะหมุนตัวหันหลังออกไปจากห้องครัว หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาวขณะมองร่างของเขาจนลับตาไป แล้วหันกลับมาตั้งโต๊ะเพื่อรอเขาโดยเฉพาะ ตั้งแต่จันทร์กระจ่างตัดสินใจร่วมชีวิตกับอิชย์เงียบๆ เมื่อสองปีก่อน ชีวิตของหล่อนก็เข้าสู่โหมดแม่บ้านอย่างเต็มตัว ทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของภรรยา เพื่อดูแลสามีอย่างครบถ้วน ทว่าสิ่งเดียวที่หล่อนยังไม่ได้รับจากเขาคือทะเบียนสมรส...แต่หล่อนก็ไม่เคยเรียกร้องมันมาจากเขาเช่นกัน แน่นอนว่าก่อนที่จะตัดสินใจร่วมชีวิตกับเขานั้น อิชย์เคยมีคนรักมาก่อน และเขาก็รักผู้หญิงคนนั้นมากเสียจนไม่มีสายตาจะแลใครอีก แม้กระทั่งหล่อน กระทั่งวันหนึ่งฟ้าก็ผ่าลงมากลางหัวใจของอิชย์ คนรักของเขาตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตกับนายทหารยศสูงนายหนึ่ง ที่พรั่งพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ ขณะที่อิชย์เป็นเพียงสัตวแพทย์ธรรมดา แต่ใช่ว่าเขาจะสิ้นไร้ไม้ตอก ตรงกันข้าม ชายหนุ่มมีฐานะมั่นคงตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เมื่อเรียนจบด้านสัตวแพทย์ เขาช่วยงานรุ่นพี่อยู่สองปีจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านเปิดคลินิกรักษาสัตว์ ก่อนตัดสินใจรับช่วงดูแลฟาร์มโคนมต่อจากบิดาและมารดา ปัจจุบัน อิชย์ อายุสามสิบสองปี ส่วนจันทร์กระจ่างนั้น อายุยี่สิบห้าปี ห่างกันถึงเจ็ดปี หล่อนเรียนจบด้านมนุษยศาสตร์ ทุกวันนี้นอกจากจะทำหน้าที่ดูแลอิชย์ หญิงสาวยังใช้เวลาว่างรับงานแปลเพื่อไม่ให้รู้สึกว่างจนเกินไป อิชย์รู้ แต่เขาดูจะไม่สนใจสิ่งที่หล่อนทำมากนัก นอกเสียจาก...เรื่องบนเตียง นั่นอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาใส่ใจ หญิงสาวถอนหายใจยาว บางครั้งเช่นตอนนี้ หล่อนอดคิดไม่ได้ว่าตนเองนั้นมีค่าเฉพาะเวลาที่เขาเกิดความต้องการขึ้นมาก็แค่นั้น... ร่างสูงก้าวเข้ามาภายในคลินิกสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักของตนเอง พร้อมกับพยักหน้าทักทายลูกจ้าง ภายในมีสัตว์ป่วยมารอรับการรักษาอยู่สามตัว เป็นหมาสองและแมวอีกหนึ่ง ในคลินิกแห่งนี้มีห้องตรวจทั้งหมดสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นของเขา อีกห้องมีรุ่นน้องหนุ่มให้บริการอยู่ด้านใน หมอรุ่นน้องทำงานเต็มเวลา ส่วนเขานั้นบางวันก็ไม่ได้เข้ามา เพราะต้องดูแลฟาร์มโคนมไปด้วย ทำให้เวลาส่วนใหญ่ของเขาจะอยู่ที่ฟาร์มมากกว่าที่คลินิก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยทิ้งงานที่รักเลยสักครา “ไงพี่ หน้าตาไม่ค่อยสดชื่น” ดนัย สัตวแพทย์หนุ่มรุ่นน้องเอ่ยถามคนที่เป็นทั้งนายจ้างและเพื่อนรุ่นพี่ด้วยสายตาที่นึกเห็นใจ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นรับภาระมากมายแค่ไหน “เมื่อคืนหลับไม่สนิท ฝันอะไรไม่รู้วุ่นวาย” เขาตอบพลางส่ายหัว คนฟังเอียงคอมองนิดๆ พลางบอก “สงสัยคุณจันทร์ทำกับข้าวอร่อย พี่อิชย์กินเข้าไปเยอะ ก็เลยเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะหรือเปล่า” อิชย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะผละห่างจากรุ่นน้อง เมื่อมีลูกค้าพาสัตว์เลี้ยงเดินเข้ามาภายในคลินิก เนื่องจากสัตวแพทย์ในคลินิกแห่งนี้หน้าตาดีทั้งคู่ จึงเป็นที่มาของคำว่า ‘หมอหล่อ บอกต่อด้วย’ ลูกค้าสาวๆ จึงค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ และยิ่งไปกว่าความหน้าตาดีของหมอหนุ่มทั้งสอง การรักษายังมีประสิทธิภาพกว่าร้านอื่นในละแวกเดียวกันและราคาก็ยังย่อมเยา ทำให้คนที่เคยมาใช้บริการที่คลินิกแห่งนี้ กลับมาใช้บริการซ้ำกันทุกราย อิชย์จึงมีลูกค้ามากมายทั้งในจังหวัดเดียวกันและจังหวัดใกล้เคียง ใกล้เที่ยง ชายหนุ่มกำลังจะออกจากคลินิก และจะไม่กลับเข้ามาอีกเพราะต้องเข้าฟาร์มโคนม แต่ก่อนกลับเขาได้พบกับใครบางคนที่ไม่ได้เจอมานานมากแล้ว “หมอคะ มีผู้หญิงมาขอพบค่ะ” อิชย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงอนุญาต ผ่านไปเกือบสองนาที ประตูห้องของเขาถูกเปิดเข้ามา แต่ชายหนุ่มยังไม่เงยหน้าขึ้นในทันที เพราะมัวแต่หาอะไรบางอย่างที่สำคัญอยู่ จนเมื่อรู้สึกว่าผู้ปกครองของผู้ป่วยของเขาไม่ยอมพูดอะไรจึงเงยหน้าขึ้นมอง ทันทีที่เห็นหน้าของผู้มาเยือน หัวใจของเขาก็กระตุกโลดขึ้นด้วยความตกใจและไม่คาดคิด “แพร” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะกวาดสายตามองดวงหน้างดงามของเหมือนแพร อดีตคนเคยรักเมื่อหลายปีก่อน ที่เลิกรากันไปนานแล้ว จากกันคราวนั้น เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบหญิงสาวอีกครั้งจนกระทั่งวันนี้ “สวัสดีจ้ะ อิชย์สบายดีไหม” หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้กับอิชย์ ขณะที่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งมองหล่อนเหมือนคนเห็นผี ทำให้เหมือนแพรถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ “อะไรกันอิชย์ ทำไมมองแพรแบบนั้นล่ะ” เมื่อถูกทัก ชายหนุ่มก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด หัวใจที่เต้นแรงก่อนหน้านี้ค่อยๆ กลับมาสงบลงอีกครั้ง “ขอโทษที ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณอีก” ท่าทีห่างเหิน น้ำเสียงแสนสุภาพ และนัยน์ตาที่ค่อนข้างเย็นชาของเขาทำให้รอยยิ้มอ่อนหวานของหญิงสาวจางลงเล็กน้อย “แพรกลับมาเยี่ยมบ้าน แล้วเจอเพื่อนเก่าของเรา ถึงได้รู้ว่าอิชย์เปิดคลินิกรักษาสัตว์อยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมาหา อยากชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันจ้ะ” น้ำเสียงอ่อนหวาน แววตางดงาม รอยยิ้มอ่อนโยนท่าทางละมุนละไมตา ทั้งหมดนี้ เจนตาและเจนใจอิชย์มาช้านาน ต่อให้เวลาผ่านไปแค่ไหน เขาไม่เคยลืมเลือน รักแรกและอาจเป็น...รักเดียวของเขาเสมอมา ชายหนุ่มหลุบตาคมกล้าลง รู้ตัวว่าจุดอ่อนของตนอยู่ที่ดวงตาและรอยยิ้มอ่อนหวานของคนตรงหน้า เขาไม่เคยขัดความต้องการของหล่อนได้เลยสักครั้ง มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เขากล้าขัดใจ นั่นคือวันที่หล่อนขอแยกทางจากเขา แต่สุดท้าย หล่อนก็ไม่เลือกเขา แต่เลือกคนอื่นแทน... “นะอิชย์นะ เราไม่ได้เจอไม่ได้พูดคุยกันนานแล้ว” เจ้าของร่างงดงามไม่สร่างซาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานเหมือนที่เคยใช้กับเขาเมื่อวันวาน และใจของอิฐก็อ่อนเหมือนวุ้น ที่พร้อมจะแปรสภาพเป็นของเหลวเพราะคนตรงหน้าเสมอ เขาเกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้... ชายหนุ่มหลุบตามองนาฬิกาที่ข้อมือ เวลาเที่ยงตรงพอดี เมื่อเช้าก่อนออกมาจากบ้าน เขาบอกกับจันทร์กระจ่างว่าจะกลับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นสบตาคู่งามของเหมือนแพรอีกครั้ง สัญญาที่เคยให้ไว้กับใครอีกคนก็ถูกย่อยสลายในวินาทีต่อมา...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD