หล่อสร้างเรื่อง

2305 Words
"เชี้ย! ยังจะตามมาอีก แฮ่กๆ" เสียงฝีเท้านับสิบกำลังวิ่งไล่ตามผม ที่กำลังวิ่งฝ่าฝูงชนเพื่อเอาตัวรอด มือก็ถือเสื้อช้อปสีน้ำเงินบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเด็กวิศวะการบิน "แม่งเอ้ย!" ผมสบถเมื่อมันดักทุกทาง ป่านนี้ไอ้อาร์มกับไอ้เรย์คงตามหากันให้วุ่น เรื่องทั้งหมดก็ผิดที่ผมเองนี่แหละที่ดันชวนพวกมันออกมากินเหล้าที่ผับดังย่านนี้ เลยซวยเกิดเรื่องจนได้เพราะผมเผลอไปยุ่งกับผู้หญิงของคนมีอิทธิพลแถบนี้เข้า มันขื่อว่าเฮียตี๋ จะให้ผมทำอย่างไรได้ในเมื่อเกิดมาหน้าตาดี ลูกเมียใครเห็นก็ต้องหลงติดใจทั้งนั้นเปล่าวะ อีกอย่างผมไม่ได้เข้าหาก่อนสักหน่อย น้องมันต่างหากล่ะที่ดันปีนขึ้นมานั่งตักผมเอง เล่นอ่อยขยันบดยั่วกันบนตักซะขนาดนั้นใครมันจะทนไหววะ ผมไม่ใช่หินผานี่น่าที่จะไม่รู้สึกรู้สาไม่อ่อนไหวไปตามกิเลสตัณหา ก็เลยตามเลยชวนเธอไปต่อหลังผับ แต่เรายังไปไม่ถึงขั้นไหนก็มีใครไม่รู้กระชากผมลงมาจากสวรรค์เสียก่อน แล้วมีหน้ามากล่าวหาว่าผมไปยุ่งกับผู้หญิงของมันอีก ใครจะยอม ผมก็เลยปากเก่งด่ามันกลับไป จะไปรู้ได้ไงล่ะครับในเมื่อไม่มีป้ายแขวนคอ พอเธอบอกว่าโสดสนิทผมก็เลยเชื่อหมดใจ สุดท้ายเลยต้องวิ่งหนีกันวุ่นวายอย่างที่เห็น เฮียตี๋มันหมายหัวผม แม่ง! สั่งลูกน้องทั้งกองทัพให้ตามจับตัวผมให้ได้ เดือดร้อนถึงลูกน้องมันที่ต้องยกกันมาทั้งโขยงตามคำสั่งลูกพี่เพื่อรุมกระทืบ แต่ผมใช้ทักษะที่มีพยายามหลบหนีเอาตัวรอด ทักษะที่ว่าก็เกียร์หมานี่ละครับ ผมวิ่งหนีไปตามซอกชอยต่างๆ มาทางด้านหลังมหาวิทยาลัย แต่พอมองหันกลับหลังไปก็ยังเห็นว่าพวกมันวิ่งตามมาไม่หยุด เมื่อหมดหนทางที่จะหนีเอาตัวรอดได้ ผมจึงเบนเข็มตัดสินใจวิ่งไปร้านปู่รหัสที่สนิทกันมาก ชื่อว่าไอ้ พี่แม็ค เป็นรุ่นพี่สายรหัสที่บ่นเก่งสุดๆ พี่แม็คจบไปหลายปีแล้ว แต่หันไปเอาดีในการทำร้านเหล้ากึ่งร้านอาหาร จนขยับขยายใหญ่โตและทำเป็นผับในตอนกลางคืน ซึ่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว เพราะส่วนใหญ่เด็กมหา’ลัยก็จะมาชุมนุมกันที่นี่ทั้งนั้น อาจเพราะราคาเครื่องดื่มไม่แรงเกินไป และยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยอีกด้วย ที่สำคัญอาจเป็นเพราะพี่แม็คใจดีทั้งยังหล่อเท่ห์แบบคูลๆด้วยมั่ง คนเลยนิยมมาที่นี่กัน ถัดจากร้านพี่แม็คไปไม่ไกลก็เป็นอู่ซ่อมรถของหนุ่มวิศวะยานยนต์มหา’ลัยเดียวกับผมนี่แหละ ซึ่งที่นั่นมีตัวเหี้ยที่ผมไม่เคยคิดจะย่างกรายเข้าไปอยู่แล้วเพราะเกลียดขี้หน้าเจ้าของมันเข้าไส้ และที่หนีหัวซุกหัวซุนก็เพราะมัน.. “ไอ้ไฟนอล” ไอ้ไฟนอล คือชื่อของมัน ไอ้นี่มันเป็นคนที่ผมโคตรจะไม่ชอบขี้หน้า คนบ้าอะไรเก๊กหน้าอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองเก่ง เท่ห์ หน้ามันดาร์คๆ มันชอบทำหน้าตาไร้อารมณ์สุดๆ แต่ถ้าถามว่าภายใต้ใบหน้าร้ายๆมันหล่อมากไหม อยากจะบอกว่ามันน่ะตัวพ่อของความหล่อ ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ ใบหน้าหล่อร้าย จมูกโด่งๆดวงตาดุจเหยี่ยวยามจ้องตามันเหมือนมีมนต์สะกด ท่าทางแบดๆแบบนั้นนี่แหละที่คนชอบ กันนัก มันน่ะศูนย์รวมของความเหี้ยเลยล่ะครับ และมันก็ดันเป็นขาประจำที่ร้านเหล้าพี่แม็คด้วยสิ ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของอู่รวยไม่พอหรือว่ายังไงถึงได้มาเป็นหุ้นส่วนร้านเหล้ากับพี่แม็คด้วย มันมีสาวมาพัวพันมากหน้าหลายตาผมก็คิดเอาว่ามันน่าจะเอาเงินไปสร้างตึกเป็นฮาเร็มให้พวกบรรดาเด็กในสังกัดมันนั่นแหละ เห็นหน้านิ่งอย่างนั้นสาวๆก็เข้าหากันหัวกระไดไม่แห้ง ผมก็ไม่เข้าใจที่มันขยันปั้มเงินจะเอาไปทำอะไรกันแน่ ทั้งที่ก็ยังเรียนอยู่ ครอบครัวเป็นใครมาจากไหนผมไม่ได้สนใจตามติดชีวิตมันขนาดนั้น จึงไม่รู้ความเป็นมาของไอ้ไฟนอล รู้เพียงว่าไอ้ตัวหน้าขนมันชอบมาสิงอยู่ที่นี่ทุกคืน ทุกครั้งที่ผมแวะมาจะเจอหน้ามันตลอด ตัดมาที่ผมไม่เคยคิดที่จะเอาตัวเองไปลำบากหรอกครับเงินที่บ้านส่งมาให้ใช้สอยก็เหลือถมถืด ใช้ยังไงก็ไม่หมด และถึงไม่ทำงานผมก็มีกินมีใช้ไม่ขาดมืออยู่แล้วเพราะครอบครัวผมทำธุรกิจเกี่ยวกับสายการบิน ผมกับมันเราเรียนคณะวิศวะที่เดียวกัน แต่ผมเรียนวิศวะการบิน ส่วนมันเรียนวิศวะยานยนต์ นานๆครั้งจะโคจรมาเจอกันที่มหาวิทยาลัย "หลบหน่อย!" ผมกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ วิ่งหน้าตั้งไปยังจุดหมายที่อยู่ไม่ไกล พี่แม็คและไอ้ไฟนอลมันมีพรรคพวกเยอะ เรียกว่านักเลงหัวไม้ท้ายซอยเลยก็ว่าได้ ไม่ค่อยมีใครกล้ามาทะเลาะวิวาทในย่านนี้ นับว่าสองคนนี่มีอิทธิพลพอสมควร เพราะฉะนั้นก็น่าจะฝากชีวิตไว้กับพี่แม็คเพื่อช่วยให้ผมรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ได้บ้างล่ะ "หึ อะไรของมึงไอ้ม่อนวิ่งหนีใครมา หอบเหมือนลูกหมา" พี่แมคเจ้าของร้านเหล้าสุดคูลเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งหอบหลบมุมอยู่ทางด้านข้างและคิดว่าจะย้ายตัวเองไปเข้าไปด้านในแต่พอดีเจอกับเจ้าของร้านเสียก่อนเลยต้องนั่งยองๆอยู่ตรงนี้ ก็ถือว่าคราวซวยที่วันนี้ผมดันมีเรื่องมาหา ถ้าพวกเพื่อนๆอยู่ด้วยกันก็คงพอสู้ไหวเพราะพวกมันก็มีดีอยู่พอตัว แต่จะให้ผมสู้กับแข้งนับสิบคนเดียวก็คงไม่รอดจะตายเอาได้นะครับ เพราะฉะนั้นยังไงซะผมก็ต้องหนีเอาตัวรอดไว้ก่อน หรือพูดให้ดีก็คือวิ่งมาตั้งหลักนั่นแหละครับ… "ชู่ววว!! อย่าเสียงดังสิพี่ เดี๋ยวไอ้พวกเหี้ยมันก็ได้ยิน" ผมแทบฉี่ราดเลยครับ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำหนักๆเข้ามาทางนี้ก่อนที่มันจะค่อยๆเงียบเสียงลง ไอ้พี่แม็คแม่งก็ทักกันแรงเกิน "หวัดดีเฮีย เห็นไอ้เด็กหน้าหล่อสูงสักร้อยเจ็ดสิบกว่าๆวิ่งมาทางนี้ไหม" หนึ่งในกลุ่มพวกมันร้องตะโกนถามข้ามมา ผมเห็นพี่แม็คเหลือบมามองผมเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่ก็อ่านสายตาได้ว่าพี่มันกำลังด่าผมอยู่ รู้ว่ามันไม่พอใจผมอย่างหนัก ท่าทางเนือยๆแสดงออกมาว่าคงเบื่อเต็มทน แต่ว่าผมหลานพี่นะครับ (┬┬﹏┬┬) แหะๆก็อย่างว่าผมขยันสร้างวีรกรรมหาเรื่องมาให้แกปวดหัวอยู่ตลอด ช่วยไม่ได้นี่น่าก็ร่วมหัวจมท้ายกันมาขนาดนี้แล้วนี่ เรามันเลือดวิศวะอยู่เหมือนเครือญาติกันอยู่แล้ว เพราะงั้นพี่มันก็ต้องรับผิดชอบชีวิตหลานรหัสอย่างผม อย่างสุดความสามารถ ถูกไหม... "กูเห็นมันวิ่งไปทางนู้น แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นคนเดียวกับที่พวกมึงตามหาหรือเปล่านะ" สุดท้ายพี่แม็คบอกพวกมันไปด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ดวงตาเรียวดุจเหยี่ยวจ้องพวกมันไม่กระพริบ "ขอบคุณครับเฮีย" "อืม เดี๋ยวก่อน" กึก! แล้วพี่แม็คจะเรียกพวกมันไว้ทำไม "ครับ เฺฮีย" "มึงใช่ลูกน้องไอ้ตี๋หรือเปล่า" "ครับ" "ว่าแต่ไอ้เด็กที่มึงไล่กวดนั่น มันไปทำเหี้ยอะไรให้วะ หรือว่ามันไปปากดีแล้วเหยียบตีนลูกพี่มึงถึงได้ไล่มันซะเป็นโขยง แถมอาวุธครบมืออีกกะจะเอาให้ตายกันเลยหรือไง" พี่มันก็หลอกด่าย้ำคำว่าเหี้ยใส่ผมเต็มๆหน้า "ผมน่ะไม่อะไรหรอกครับเห็นว่าเป็นเด็กวิศวะที่เดียวกันกับเฮีย แต่ถ้ามันแค่ปากดีกับลูกพี่ ผมคงไม่ตามมากระทืบมันด้วยตัวเองแบบนี้เฮียก็น่าจะรู้จักผมดีพอ แต่ว่าไอ้เด็กเวรนั่นมันดันไปเต๊าะเมียเด็กเฮียตี๋นี่สิ ผมเลยต้องได้ออกโรงเอง" พี่แม็คมันพยักหน้าเบาๆหางตาก็ชำเลืองมองมาที่ผมอย่างคาดโทษ “อ่อ...อย่างนี้นี่เอง พวกมึงรีบตามไปเถอะ” พี่แม็คมันโบกมือไล่พวกมันให้ตามไป เออ..กูผิดไปแล้วจริงๆครับพี่ ก็เด็กมันยั่วกูเองนี่ครับ "ว่าแต่เฮียไม่เห็นมันวิ่งมาแถวนี้จริงๆใช่ไหม ขอผมเข้าไปค้นด้านในได้ไหมครับ" ไอ้คนพูดมันน่าจะเป็นหัวหน้าและดูพี่แม็คเองท่าทางจะรู้จักมันดีเสียด้วย "กูเพื่อนเล่นมึงหรือไงไอ้ชัช" ท่าทางของพวกมันเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่เพราะเฮียแม็คทำสีหน้าจริงจังก็เลยไม่กล้าที่จะเข้ามาค้นดูข้างในร้าน แต่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน "กูเห็นมันวิ่งไปทางนั้น" เสียงทุ้มคุ้นหูที่ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันดังขึ้นข้างหลัง ผมจึงรีบหันไปมองตามเสียง เป็นมันจริงๆไอ้ไฟนอล มันเองก็ชำเลืองมองผมเพียงครู่เดียวก่อนจะเดินออกไปยืนข้างพี่แม็ค ผู้ชายตัวโตสองคนยืนเคียงข้างกันเพื่อพยายามปกป้องผม คนหนึ่งปกป้องเพราะความจำใจ ส่วนอีกคนไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ยังมีใจมาช่วย แม่ง!!น้ำตาจิไหล "หวัดดีครับพี่ไฟนอล ก็ถ้าพี่บอกว่ามันวิ่งไปทางนั้นผมก็จะเชื่อ แต่อย่าให้เจอมันละกัน เพราะลูกพี่ผมไม่เอามันไว้แน่" คำขู่ที่ทำเอาเสียวสันหลังวาบ แต่ท่าทางพวกนี้ดูจะเกรงใจไอ้เจ้าของอู่รถไม่น้อยทีเดียว "มันไปกันแล้ว ออกมา!" พี่แม็คยืนกอดอก ขณะที่ผมค่อยๆคลานออกมาเพราะนั่งคุดคู้ในที่คับแคบนานไปหน่อย ปวดระบมไปทั้งตัวเพราะโดนพวกมันเล่นงานพอสมควร ตรงหางคิ้วน่าจะแตกรู้สึกว่ามีของเหลวไหลซึมออกมา มุมปากก็เจ็บและรู้สึกถึงรสชาติปะแล่มๆ ตามตัวก็ฟกช้ำดำเขียวอยู่หลายจุด ถ้าจะบอกว่า เละ ก็น่าจะไม่เกินจริง "สภาพเหมือนหมา" เสียงนี้ไม่ใช่พี่แม็ค แต่เป็นคนตัวสูงที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ห่างๆมองมาด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆด้วยน้ำเสียงที่ผมอยากจะเหวี่ยงผ้าใบใส่หน้ามัน... "ไม่ต้องเสือก!!" "ไอ้ม่อน กูจะช่วยมึงดีไหม เพราะปากไวแบบนี้ไงถึงได้แผลอยู่ตลอด" ไอ้พี่แม็คมันดุ ท่าทางจริงจังจนผมต้องเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงมองอีกคนตาขวาง แต่ก็อดปากไม่ได้ที่จะเถียงมันกลับไป ตาก็จ้องไอ้คนที่กำลังล้วงบุหรี่ออกมาสูบ คงนึกว่าตัวเองเท่จัดสินะ แหวะ...ผมเบ้ปากเมื่อเห็นท่าทางของไอ้ไฟนอลที่คิดว่าตัวเองแน่ และเหนือกว่าผมเสมอ... "พี่ก็เห็นว่าไอ้เหี้ยนี่มันว่าผมก่อนไหม" ผมพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินกะเผลกไปประจันหน้าไอ้คนที่มันกำลังคีบบุหรี่เข้าปากสักพักมันก็พ่นควันใส่หน้าผมอย่างตั้งใจ ไอ้สารเลว! เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้ามัน "มึงอยากจะสร้างศัตรูเพิ่มอีกหรือไง แล้วถ้ามึงมีเรื่องกับไอ้ไฟนอลมึงคิดว่ากูจะช่วยใคร ระหว่างมึงที่ชอบหาเรื่องทะเลาะไม่เว้นแต่ละวัน กับมัน มีสมองก็หัดคิดซะบ้าง" คนพูดส่ายหน้าใส่พร้อมกับเดินหนีไป ส่วนไอ้ไฟนอลก็กระตุกมุมปาก ก่อนจะใช้สายตาสำรวจไปตามตัวผมอย่างช้าๆ แม่งมันโคตรจะทำหน้ากวนตีน "มองหาพ่อง!"ผมว่ามันเข้าให้ คิดว่าพูดเบาราวกระซิบแล้วนะ แต่คนที่กำลังก้าวขาเข้าไปในร้านหันมามองตาขวาง "ไอ้ม่อน! กูเพิ่งว่าไปหยกๆมึงยังจะปากดี กูโคตรปวดสมองกับมึงจริงๆปากมึงนี่แม่งหาเรื่องให้กูตลอด ก็เพราะปากดีไม่ใช่หรือไงถึงได้วิ่งหนีหางจุกตูด และถ้าคราวหน้ามึงไม่โชคดีแบบนี้จะทำยังไง ห๊ะ!" ใช่ว่าผมอยากจะมีเรื่องซะที่ไหนกันล่ะครับ ใครมันจะไปรู้ว่าน้องแตงกวาจะเป็นเมียเก็บไอ้เฮียตี๋ ก็น้องมันเล่นหูเล่นตาเหลือเกินใครมันจะอดใจไหว รู้ตัวอีกทีผมก็หอบเสื้อผ้าวิ่งหนีไปด้วยใส่ไปด้วยจนมาขอความช่วยเหลือจากพี่แม็คมันนี่แหละ และถ้าพวกมันเจอผมจริงๆก็จองศาลาวัดได้เลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD