“เชียร์~”
เสียงของสาว ๆ วัยไล่เลี่ยกันกลุ่มหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมกันก่อนที่พวกเธอจะยกแก้วเหล้าสีหวานของตนขึ้นไปชนกับคนอื่น ๆ ในกลุ่ม
“ในที่สุดพวกเราก็เรียนจบกันแล้ว”
เนเน่ สาวแบ๊วโลกสวยประจำกลุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาเข้าสู่การใช้ชีวิตจริง ๆ สักทีแล้วสิ”
แบม สาวสวยมาดเท่ ผู้ที่จริงจังกับทุกเรื่องในชีวิตเอ่ยขึ้น ทำเอาคนอื่น ๆ ในกลุ่มต่างหน้าเสียไปตาม ๆ กันชั่วขณะ
“ต่อไปนี้ฉันก็ขอเงินพ่อกับแม่ไม่ได้แล้วอ่ะสิ จะต้องหาเงินใช้เองแล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะไปทำงานอะไรดีที่มันได้เงินเยอะ ๆ อ่ะ”
พรีม สาวสวยลุคแซ่บที่พกความมั่นใจมาเกินร้อย มีดีอย่างเดียวคือมั่นใจในความคิดของตัวเอง
“ส่วนฉันอ่ะนะ ฉันอยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟ พ่อกับแม่ฉันท่านก็จะให้เงินก้อนนึงให้ฉันมาลงทุนด้วยแหละ” เนเน่กล่าวด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“งั้นฉันขอไปเป็นผู้จัดการร้านแกนะ” พรีมพูดทีเล่นทีจริง
“ฉันว่าแทนที่แกจะไปทำงานร้านยัยเนเน่ แกไปของานยัยชมพูทำดีกว่ามั้ย” แบมคัดค้าน
“เออ จริงด้วย ฮ่า ๆ” พรีมเออออตามอย่างเห็นด้วย
“อิจฉาใครบางคนจังเลย มีชีวิตราวกับเจ้าหญิง พ่อเป็นถึงเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ส่วนแม่ก็เป็นถึงเจ้าของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เรียนจบมาก็นั่งสวย ๆ ในห้องแอร์รอรับเงินเดือนเป็นแสน แถมยังมีพี่ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย แล้วก็ฮอตที่สุดในประเทศคอยเอาใจอีกด้วย”
แล้วจึงเอ่ยแซวเพื่อนของตนอย่างหมั่นไส้ เพราะคนที่เธอกำลังพูดถึงมีชีวิตไม่ได้ต่างไปจากเจ้าหญิงเลยจริง ๆ
“ใช่ นาทีนี้คงจะไม่มีใครน่าอิจฉาเท่าแกอีกแล้วล่ะชมพู” เนเน่พูดเสริม
เพื่อน ๆ ทุกคนต่างบอกว่าชีวิตของชมพูนั้นน่าอิจฉา เพราะเธอทั้งสวยและเรียนเก่ง แถมยังเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงเงินทอง มีข้าทาสบริวารคอยรับใช้ มีพี่ชายแสนดีที่คอยเอาใจ แถมเขายังขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในการเป็นผู้ชายที่เหล่าสาว ๆ ทั่วทั้งประเทศอยากได้มาครอบครอง
ชีวิตของเธอนั้นไม่ต่างไปจากเจ้าหญิงน้อยที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ใครจะไปรู้ว่าในความคิดของชมพูนั้น ผู้หญิงที่โชคดีที่สุดกลับไม่ใช่ตัวเธอ แต่เป็น ปาริมา หรือ ปริม เพราะปริมคือผู้หญิงคนที่ได้ครอบครองหัวใจของคราม พี่ชายที่แสนดีและเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอแอบรักมาตลอด
“ว่าแต่วันนี้พี่ชายสุดหล่อของแกไม่ได้มาฉลองที่แกอุตส่าห์เรียนจบกับพวกเราเหรอ แกไม่ได้ชวนพี่เขาเหรอ” พรีมเอ่ยถามเชิงตำหนิ
“ชวนแล้ว แต่พี่ครามบอกว่าอยากให้พวกเรามีความเป็นส่วนตัวน่ะ พี่เขากลัวพวกแกจะประหม่า” ชมพูแก้ตัว
“ประมงประหม่าอะรายย~ พวกฉันเสียดายต่างหากล่ะ กะว่าคืนนี้จะได้เจริญหูเจริญตาสักหน่อย ชวดอีกละ” เธอกล่าวอย่างเซ็ง ๆ
“อย่าเอาฉันไปรวมด้วย ฉันไม่ได้บ้าผู้ชายอย่างแก” แบมพูดเสียงดุ
“ชิ อย่าให้ฉันเห็นแกมีแฟนนะ แม่จะแซวให้ต้องแทรกแผ่นดินหนีเลยเชียว” พรีมเหน็บแนมอย่างหมั่นไส้
“ว่าแต่แกเถอะยัยชมพู เรียนจบแล้ว เมื่อไหร่จะมีแฟนสักที นี่ตั้งแต่รู้จักแกมา ฉันยังไม่เห็นแกชายตามองผู้ชายคนไหนเลย”
จู่ ๆ พรีมก็เอ่ยถามขึ้นเปิดประเด็นจนชมพูแทบสำลักน้ำสีหวานที่เพิ่งจิบเข้าไป
“รู้จักกันมาสี่ปี ฉันเปลี่ยนแฟนไปสี่คนแล้วนะ แต่แกกลับยังไม่เคยมีแฟนสักคน”
“มันจะมีได้ยังไงล่ะ ก็มันยังหาคนที่ดีกว่าพี่ครามไม่ได้เลย สงสัยชาตินี้ยัยชมพูคงได้ขึ้นคานแน่ ๆ ล่ะ” แบมพูดอย่างรู้ทัน
“ก่อนแกจะว่ายัยชมพูหัดดูตัวเองก่อนมั้ย”
พรีมได้ทีจิกกัดแบม เพราะนอกจากชมพูแล้ว ยังมีแบมอีกคนที่ก็ไม่เคยมีแฟนกับใครเขาเหมือนกัน แถมชมพูยังดูมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าแบมเสียอีก
คำพูดของพรีมทำเอาแบมไปต่อไม่เป็น จนต้องนั่งเงียบ ๆ ทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนของเธอพูด
“ชมพู แกชอบพี่สุดหล่อใช่ป่ะ”
จู่ ๆ พรีมก็เปลี่ยนประเด็น หันวกกลับมาถามเข้าเรื่องนี้อีกครั้ง ยิงคำถามจี้จุดจนชมพูทำหน้าไม่ถูก
“ไม่ตอบ แสดงว่าใช่” แล้วพูดต่ออย่างมัดมือชก
“นี่แกชอบพี่ครามจริง ๆ เหรอ” เธอคาดคั้น
“บ้าน่ะ ฉันจะไปชอบพี่ครามได้ยังไง พี่ครามมีแฟนแล้ว พวกแกก็รู้”
ชมพูตอบแก้ตัวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พลางยกแก้วเหล้าสีหวานขึ้นจิบอีกครั้งเพื่อแก้เขิน
“มีแฟนแล้วก็ชอบได้ เป็นแค่แฟนยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย คบได้ก็เลิกได้ ขนาดฉันนะ เลิกแฟนไปแล้วตั้งสี่คน ยังไม่เห็นคิดไรเลย”
พรีมเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
“ก็เพราะว่าพี่ครามไม่ใช่แกไง” แบมได้ที จึงฉวยโอกาสเหน็บแนมพรีมคืนบ้าง
“เงียบไปเลยยัยแบม ฉันอยากฟังชมพูพูด ไม่ได้อยากฟังแกพูด”
พรีมหันไปต่อว่าอีกฝ่ายที่บังอาจมาขัดอารมณ์ตน จนแบมต้องเงียบฝีปากลง เพราะเธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชมพูจะตอบว่ายังไง
“พี่ครามจริงจังกับความรักครั้งนี้มาก และอีกอย่างนะ พี่ครามมองฉันเป็นแค่น้องสาว เขาไม่มีทางหันมาชอบฉันหรอก”
ชมพูตัดพ้อกับตัวเองอย่างตัดใจ ก่อนที่เธอจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อตัดบท เธอไม่อยากให้เพื่อน ๆ พูดถึงเรื่องของเธอกับพี่ครามอีกต่อไปแล้ว เพราะรู้ดีว่าพี่ชายของเธอคิดยังไงกับเธอ และเขาไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
“ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ พวกแกคุยกันต่อเลย”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที ทิ้งกลุ่มเพื่อนให้นั่งงงเป็นไก่ตาแตกกันตามลำพัง
เธอกับครามถูกเลี้ยงดูและโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก สนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ เพราะพ่อกับแม่ของพวกเขาเป็นเพื่อนกัน พอเธอรู้ตัวอีกที เขาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในสายตาของเธอเสียแล้ว
แต่เพราะความสนิทกันดั่งพี่น้องนี้ ทำให้ชมพูไม่กล้าบอกความจริงกับคราม เธอกลัวว่าหากเขารู้ว่าเธอคิดเกินเลยกับเขา เขาจะถอยห่างออกจากเธอไป และไม่ปฏิบัติกับเธอเหมือนเดิม
แต่หลังจากนั้น ความหวังหลายปีของชมพูก็พังทลายลง เมื่อครามเปิดตัวปริม แฟนสาวของเขา ชมพูจึงได้แต่เก็บความลับนี้เอาไว้ในใจคนเดียวต่อไป ไม่กล้าพูดหรือแสดงออกให้เขารู้แม้แต่นิดเดียวว่าเธอชอบเขา
หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว ชมพูก็มาล้างมือก่อนจะส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเอง และเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปหากลุ่มเพื่อนตามปกติ
แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินไป ชมพูกลับเห็นอะไรบางอย่างทำให้หญิงสาวต้องรีบถอยกลับและไปยืนหลบอยู่มุมเสาแทน
ชมพูเห็นคนสองคนจับมือถือแขนกันอย่างสนิทสนมและทั้งคู่กำลังเดินมาทางนี้ ผู้ชายเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก ส่วนผู้หญิงก็คือปริม แฟนสาวของพี่คราม พี่ชายสุดที่รักของเธอ