ถึงแม้พิษร้ายในกายจะมิได้รุนแรงถึงขั้นทำให้ซ่งเจี้ยนหงล้มลงดิ้นพราดกลางค่ายรบ ไม่ได้แสดงอาการคุ้มคลั่งหรือหมดสติให้ผู้ใดตื่นตระหนก แต่พิษชนิดนี้…มันแยบยลเกินกว่าจะมองเห็นด้วยตาเปล่า มันไม่กัดกินร่างกายอย่างหฤโหดแต่มันกัดกิน ความภูมิใจ อย่างเงียบงันทีละนิด ทีละน้อยเริ่มต้นจากจุดที่เปราะบางที่สุดของชายชาติทหาร ความเป็นบุรุษ สำหรับซ่งเจี้ยนหง...ยอดขุนพลผู้เคยเชิดหน้าท่ามกลางเสียงสรรเสริญแห่งสนามรบ ผู้เคยชูดาบพิชิตศัตรู และ พิชิตสตรี ด้วยความมั่นใจไม่รู้โรยความอหังการในเรือนกายนั้นคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงศักดิ์ศรีของเขาเสมอมาแต่นับจากค่ำคืนนั้นความแข็งแกร่งอันเป็น หลักฐานแห่งความเป็นชาย กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจเรียกคืนมาได้ในตอนนี้...เขาอาจยังไม่รู้ตัวอาจยังคิดว่าเป็นเพียงความเหนื่อยล้า หรือฤทธิ์สุราที่ตกค้างแต่เมื่อคืนแล้วคืนเล่า ความไม่สมบูรณ์ นั้นยังคงเงียบงันอยู่ในเงาร่างของเขาวันแล้ววันเล่า

