ใต้แสงจันทร์สลัว เสียงกรีดร้องของชายโชคร้ายยังแว่วสะท้อนในความมืดราวเสียงวิญญาณก่อนสิ้นใจ เลือดสีเข้มไหลทะลักจากแผลขาดแหว่งตรงข้อมือ กลบกลิ่นไม้ใบในป่าให้ขมคาวไปหมด ร่างของมันทรุดฮวบลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดจนเหมือนจะคลานหนี แต่ไร้เรี่ยวแรงใดจะผลักดันให้พ้นเงาตายที่คืบคลานเข้าหา “หนวกหูเสียจริง” เสียงนั้นดังแผ่ว ทว่าเย็นเยียบจนสั่นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง ในชั่วพริบตาเดียว มีดสั้นในมือนางก็พุ่งแทงเข้าที่ลำคอของมันอย่างแม่นยำ เสียง “ฉึก” เบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงในพริบตา ไม่มีเสียงร้องอีก ไม่มีแม้แต่แรงจะดิ้นรนร่างนั้นทรุดฮวบกับพื้น เลือดไหลทะลักออกจากปากและคอ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะว่างเปล่าไปตลอดกาล องครักษ์ที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอทุกอย่างมันเร็วเกินไปหญิงสาวผู้นี้มิใช่เหยื่อ แต่คือเพชฌฆาตเมื่อครู่เขายังหลงคิดว่านางเป็นเพียงหญิงสาวหลงทางในป่าผู้

