สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านชายป่าไผ่ โบกสะบัดใบไผ่ให้ไหวเอนราวกับร่ำไห้แทนชายผู้หนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่เบื้องล่าง… หลานหย่งจวินแม่ทัพผู้เคยยืนหยัดดั่งขุนเขาในสนามรบ บัดนี้เปื้อนเลือด อาบเหงื่อ และไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับปลายนิ้วแขนขาของเขาหักบิดผิดรูป เสื้อคลุมหรูหราขาดวิ่นเปื้อนเลือด และแววตาอันเคยกร้าวกร่างบัดนี้พร่ามัวด้วยม่านแห่งความเจ็บปวดและเพลิงโทสะที่ยังไม่มอดดับ กลิ่นโลหิตบางเบาอบอวลในอากาศ เจือปนกับไอเย็นของดินเปียกและใบไม้ชื้น ราวกับธรรมชาติเองก็ร่วมโศกเศร้าต่อชะตากรรมของชายผู้แบกภาระเกินมนุษย์ เสียงฝีเท้าเร่งร้อนใกล้เข้ามา เวรยามแห่งเมือง หรือนายทหารชั้นผู้น้อยที่รับแจ้งเหตุจากย่านโคมแดง เร่งฝ่าดงไผ่ตรงเข้ามาด้วยหัวใจหนักอึ้งแสงจันทร์สาดส่องลงบนร่างหนึ่งซึ่งนอนจมอยู่ในเงาไม้... ท่ามกลางความเงียบงัน พวกเขาค่อย ๆ ถอดหน้ากากของชายผู้นั้นอย่างช้า ๆ เมื่อใบหน้าปรากฏชัด แสงจันทร์จึงเผยให

