แม้ยังจมอยู่ในห้วงอารมณ์ แต่ ซูจิ่งหลง กลับไม่อาจทนนิ่งเฉยต่อเสียงโวยวายหยาบคายที่ดังก้องอยู่หน้าโรงประมูล เสียงตะโกนแสบแก้วหูนั้น กลับกลายเป็นประกายไฟที่ปลุกเขาจากความหม่นมัวในยามค่ำเขาเงยหน้าขึ้นจากเงาในรถม้า สายตาเฉียบคมสบเข้ากับเจ้าของเสียงแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ มุมปากกระตุกยิ้มกว้างขึ้นช้า ๆราวกับเสือที่เพิ่งพบเหยื่อในยามหิวโหย “ที่แท้... ข้านึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณชาย ฉู่เทียนหรง นี่เอง” เสียงทุ้มของเขานุ่มนวล สุภาพจนชวนพิศวง หากไม่ฟังให้ลึก… ก็ยากจะจับแววเย้ยหยันที่ซ่อนอยู่ในถ้อยคำนั้นได้ ฉู่เทียนหรงชายหนุ่มรูปงามผู้ไร้ผลงาน สามีของ หลานอวี้ซิน หญิงที่เขาเพิ่ง ตักเตือน ไปเมื่อไม่นานซูจิ่งหลงหาได้โกรธเคืองต่อการมาของอีกฝ่าย ตรงกันข้ามนี่นับเป็นโอกาสอันดีที่จะระบายอารมณ์อัดแน่นให้คลายลงอย่างชอบธรรมสายตาเขาเปี่ยมด้วยเมตตา... แต่ถ้อยคำกลับเจือเย้ยหยันแหลมคม “คุณชายฉู่ช่างเปี่ยมด้วยความร

