“แม่มี่ขา...” เสียงเล็กๆ งัวเงียดังแว่วมาทำให้คนทั้งสองรีบหันขวับไปมองที่เตียงพร้อมกันอย่างตกใจ ก็ได้เห็นเจ้าตัวเล็กที่ตกใจตื่นขึ้น ปากจิ้มลิ้มทำท่าเบะจะร้อง เมื่อมองไม่เห็นผู้เป็นแม่อย่างที่ควรเป็น
“แม่มี่อยู่ไหน...”
ดิฐกรตกใจจะรีบพุ่งตัวไปหาลูกสาวสุดที่รัก แต่ก็ติดที่มือของยัยตัวแสบที่ไม่ยอมปล่อยปากเขาง่ายๆ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะอุ้มลูกไปก่อกวนคู่บ่าวสาวถึงห้องหอ จนสุดท้ายเขาเหลืออดเลยใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่เอวค่อดกิ่วที่เปลือยเปล่าเพราะชุดเว้าเอวดีไซน์เซ็กซี่ของเจ้าตัวจนหญิงสาวสะดุ้งโหยง
“อุ๊ย! พี่ดิว ทำบ้าอะไรเนี่ย” แคทรียาร้องเอะอะ เมื่อโดนจั๊กกะจี้ที่เอว สัมผัสจากปลายนิ้วแกร่งราวกับมีประกายไฟแรงสูงที่ทำปฏิกิริยากับผิวกายสาวจนเธอสะดุ้งจี๊ด เผลอปล่อยมือจากปากของอีกฝ่าย ทำให้เขาฉวยจังหวะจะพุ่งไปที่เด็กน้อยบนเตียง
แต่เรื่องอะไรเธอจะยอมปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจง่ายๆ
ไวเท่าใจคิด มือของเธอก็ตะปบที่บ่าของเขาแล้วกระชากกลับ เพื่อที่จะชิงจังหวะไปถึงตัวหลานสาวก่อน แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
“เหวอ...”
“ว้าย...”
ตึง!!
ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตรโดนกระชากอย่างแรงจนเสียหลักหงายหลังผึ่ง ส่วนคนกระชากก็เบิกตาค้าง รีบคว้าหลักที่อยู่ตรงหน้าไว้มั่นก่อนหงายเงิบลงสู่พื้นทันที
ตึง! อึก! แคว่ก!
เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ฉากสวีตเหมือนในนิยายพาฝันที่พระเอกล้มลงมาแล้วจูบนางเอกเต็มรัก แต่นี่มันคือนิยายสยองขวัญเพราะปั้นจั่นยักษ์ล้มลงมาทับกุ้งแห้งตัวผอมจนแบนแต๊ดแต๋คาที่ ดีที่ด้านล่างเป็นพรมนุ่ม แต่กระนั้นแรงกระแทกก็ไม่เบานักหรอก
“โอ๊ย! เจ็บ!” ดิฐกรร้องลั่น ในขณะที่คนโดนทับจุกแอกจนร้องไม่ออก ดวงตาคู่งามแทบถลนจากเบ้า แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกคนตัวโตนอนทับแบนเป็นกล้วยปิ้ง
พอได้สติชายหนุ่มก็รับรู้ถึงความนุ่มเด้งที่นาบแผ่นหลังของเขาจนร้อนฉ่า กลิ่นกายสาวหอมละมุนปลิวมาแตะที่จมูกของเขาจนเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด
ตัวหอมจังแฮะ ยัยนี่ใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรวะ หอมเซ็กซี่มีรสนิยมดีจัง แถมเบาะที่เขานอนทับอยู่นี่ก็แสนจะนุ่มเด้งจนไม่อยากลุก อยากจะแกล้งนอนทับคนปากดีอีกสักหน่อยให้เข็ด ถ้าไม่ติดที่อะไรบางอย่างกำลังทำให้เขาเริ่มรู้สึกจุกขึ้นมาเหมือนกัน พอเหลือบมองไปก็เห็นต้นเหตุแห่งความจุก เป็นมือเรียวที่กอบกุมอยู่ที่ของรักของหวงของเขาไว้เต็มไม้เต็มมือทีเดียว
“โอ๊ย! ยัยเด็กบ้า! ปล่อยนะ อย่าบีบ”
ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ แทนที่มือนุ่มนิ่มจะยอมปล่อยตามที่เขาสั่ง กลับบีบหมับเข้าให้จนทำเอาดิฐกรหน้าเขียวตาเหลือกถลนบ้าง
“อื้อ...อย่าขยำ บอกว่าอย่า...อา...”
ชายหนุ่มเผลอครางเสียงพร่ากระเส่า เมื่อโดนมือดีขยำที่เป้ากางเกงที่อัดแน่นด้วยมวลความรู้สึกของบุรุษเพศโดยไม่บันยะบันยัง
ด้านหน้าโดนบีบ ด้านหลังก็โดนนวดด้วยเต้าทรวงอวบเด้งที่เริ่มขยับดันตัวให้ออกจากปั้นจั่นยักษ์ที่ทับตัวไว้ จนก่อให้เกิดภาพอันน่าพิลึกพิลั่นขึ้น
“ล...ลุกสักทีเซ่ คนบ้า โอย...หนัก!” แคทรียากัดฟัน กลั้นความจุกสั่งเสียงสั่น
“เธอก็ปล่อยไข่ฉันก่อนสิ อือ...บอกว่าอย่าขยำ อย่า...”
“ไข่อะไรอีกล่ะ” หญิงสาวหลับหูหลับตาถาม หมอนี่มาหิวไข่อะไรตอนนี้นะ ช่างไม่รู้เวล่ำเวลาจริงๆ
“ลุกสักทีสิ มันหนักนะ โอย...”
ถ้าเป็นมวยปล้ำตอนนี้เธอคงต้องตีพื้นพั่บๆ บอกให้กรรมการมาแยกแล้ว ก่อนที่เธอจะโดนเขาทับจนแบนเป็นจิ้งจกถูกประตูหนีบ
“ก็ไข่ที่เธอบีบอยู่นี่ไง ยัยเบื้อก”
บีบเหรอ บีบอะไรล่ะ หญิงสาวพยายามตั้งสติ และเริ่มรับรู้ถึงความแข็งขึงที่กำลังดุนดันสู้มือเธออยู่ตอนนี้ มันใช่ไข่ที่ไหนกันล่ะ ไข่อะไรจะแข็งเป็นแท่งเป็นลำแบบนี้ ร้อนด้วยสิ ไม่แน่ใจเลยลงมือขยุ้มพิสูจน์ไปอีกหนึ่งกรุบ
“อ๊า...ซี้ด...”
หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ชวนให้ใจหวิวนั่น ร้องอะไรน่าเกลียด
หมับ!
จู่ๆ มือของเธอก็โดนตะครุบไว้ด้วยคีมร้อนฉ่าก่อนที่จะบีบกล่องดวงใจของเขาจนได้เรื่อง ยังไม่ทันได้อ้าปากท้วงที่เขาแต๊ะอั๋ง กรรมการมวยปล้ำก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“พ่อดิวขา...ฮือๆ” สองหนุ่มสาวหันขวับไปที่ต้นเสียงที่ตะกายลงจากเตียง ดวงตางัวเงียมองมาที่พ่อและอาที่กำลังเล่นมวยปล้ำอย่างงุนงงไร้เดียงสา
“พ่อดิวนอนทับอาแคททำไมคะ ฮือๆ ฮึก!”
ความตกใจทำให้แคทรียาที่ได้สติก่อนรีบตาลีตาเหลือกจะลุกขึ้น แต่ก็ติดที่มือของเธอมันโดนเขาจับไว้ให้แนบอะไรบางอย่างที่ตอนนี้มันแข็งปั๋งอยู่ไม่ยอมปล่อยสักที
“อยู่นิ่งๆ ก่อน ไม่เห็นเหรอ น้องมิวมองอยู่”
ดิฐกรกัดฟันกรอด ใช่ว่าเขาไม่อยากปล่อย แต่เป็นเธอต่างหากที่ทำให้เขาปล่อยมือไม่ได้
“แล้วมือนี่เมื่อไหร่จะปล่อยสักที ติดใจหรือไง” ดิฐกรกระซิบถามตาเขียวปัด พลางงัดมือเหนียวหนึบออกจากของรักของหวงของตน
“ติดใจอะไร” ปากถาม แต่ตากลับมองข้ามไหล่เขาไปที่มือตัวเอง พอเห็นของกลางที่เพิ่งถูกงัดออกคามือตนก็ใจหายวาบ อยากตีมือตัวเองให้หัก
จับอะไรไม่จับ ดันไปจับของแสลงที่ไม่ควรจับ ก็ว่าอยู่ไข่อะไรแข็งๆ ร้อนๆ เป็นแท่งๆ ที่แท้ก็ไข่...
“อี๋...มือจะเน่าไหมเนี่ย” แคทรียาสะบัดมือเร่าๆ รีบดันตัวออกห่างจากเจ้าของไข่ที่กัดฟันแน่นตีหน้ายักษ์ใส่ รีบหันหลังให้ลูกสาวทันที มือหนายังคงกุมเป้าที่พองตัวอย่างอุกอาจไว้อย่างทำอะไรไม่ถูก
“ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย หันมาทางนี้ทำไม” ปากบอก แต่ตากลับหลุบมองที่จุดเกิดเหตุแทบไม่กะพริบ จนเจ้าของต้องปรามด้วยสายตาดุดันไม่เกรงใจใครบ้าง
“มองอะไรเด็กบ้า หันไปทางอื่นสิ” คนถูกสั่งหน้าร้อนผ่าว สมองคิดดีไม่ได้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากุมไว้คืออะไร แต่เท่าที่มือคลำมาเมื่อกี้ก็บอกได้ว่าขนาดมัน...
ใหญ่ใช่เล่น!